"รสนา" จี้รัฐเปิดประชามติ โหวตเสียงปิดหัวลำโพง

"รสนา" จี้รัฐเปิดประชามติ โหวตเสียงปิดหัวลำโพง

สหภาพรถไฟฯ เปิดเวทีถกนโยบายปิดหัวลำโพง "รสนา" ท้ารัฐเปิดประชามติ โหวตเสียงประชาชน ชี้ "ศักดิ์สยาม" ปั้นมิกซ์ยูส ดันหัวลำโพงเป็นประตูห้าง เอื้อเอกชน

นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กทม. เปิดเผยภายในงานเสวนา "ปิดหัวลำโพงเพื่อการพัฒนาฯ หรือผลักภาระให้ประชาชน" ที่จัดขึ้นโดยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) วันนี้ (7 ธ.ค.) โดยระบุว่า นโยบายหยุดเดินรถเข้าสถานีหัวลำโพงของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเอาพื้นที่เหล่านี้ไปเปิดประมูลทำห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่มิกซ์ยูส ถือเป็นนโยบายที่นำเอาสิ่งสวยงามของสถานีหัวลำโพง สถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าไปอัพราคาให้กับห้างสรรพสินค้า ไปเป็นประตูทางเข้าห้าง เอาคุณค่าเหล่านี้ไปสร้างมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นวันนี้เราต้องคัดค้าน เพราะการเดินทางสำคัญที่สุด ประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้ามาหัวลำโพงต้องเดินทางมาได้ ไม่ใช่แค่หยุดอยู่ชานเมือง แต่ควรจะมีรถไฟจากพื้นภาคทุกภาคเข้ามา

"วันนี้เขาต้องการหยุดเดินรถไฟเพื่อเคลียร์พื้นที่สีน้ำเงินที่ไม่สามารถทำพาณิชยกรรมได้ใช่หรือไม่ เพราะการหยุดเดินรถไฟก็จะได้ไประบายสีผังเมือง ดังนั้นเราต้องต่อต้านไม่ให้หยุดเดินรถเข้าสถานีหัวลำโพง" 

\"รสนา\" จี้รัฐเปิดประชามติ โหวตเสียงปิดหัวลำโพง

ทั้งนี้ ขอท้าให้เปิดลงประชามติเลยว่า ประชาชนต้องการให้ปิดสถานีหัวลำโพง ไม่ต้องมีรถเข้า-ออกหัวลำโพงหรือไม่ ประชาชนต้องอย่าปล่อยให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำอะไรก็ได้ เพราะไม่ใช่สมบัติของรัฐมนตรีคมนาคม อย่าปล่อยให้นักการเมืองมาทำลายประโยชน์ของประชาชน รวมทั้งอยากให้รอการเลือกตั้งใหม่ และให้นายศักดิ์สยาม นำเรื่องนี้ไปหาเสียงว่าจะปิดหัวลำโพง จะได้รู้กันว่าจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ อีกทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ควรหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ค่ารถไฟฟ้าถูกที่สุด ให้ทุกคนทุกชนชั้นใช้บริการได้

นางสาวรสนา กล่าวด้วยว่า ไม่ควรเอาค่าก่อสร้างระบบรางมาคำนวณเป็นค่าโดยสาร ควรหารายได้จากพื้นที่ในสถานีมาชดเชยกับค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะการก่อสร้างถนนไม่เคยนำมาคำนวณเป็นค่าแท็กซี่ หรือรถทัวร์เลย อย่างไรก็ตามต้องต่อต้านไม่ให้มีการหยุดเดินรถไฟมาหัวลำโพง ต้องมีรถไฟจากทุกภูมิภาคมาที่นี้ด้วย เราจะสู้จนถึงที่สุดไม่ให้ปิดการเดินรถมาถึงหัวลำโพง ต้องไม่ให้เอาสถานีหัวลำโพงที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามกว่า 100 ปี มาเป็นประตูเข้าห้างสรรพสินค้าเด็ดขาด

ขณะที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.นักวิชาการด้านวิศวกรรมขนส่ง เผยว่า การหยุดเดินรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพงถือเป็นการผลักภาระให้ประชาชน เพราะปัจจุบันหากประชาชนเดินทางมาจากสถานีรังสิต ปลายทางสถานีหัวลำโพง เสียค่าโดยสารเพียง 6 บาท หากนโยบายปรับการเดินรถปลายทางเพียงสถานีกลางบางซื่อ ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป จะทำให้ประชาชนที่เดินทางจากรังสิต มายังสถานีกลางบางซื่อ เสียค่าโดยสาร 4 บาท และหากเดินทางต่อมายังสถานีหัวลำโพง ต้องใช้บริการรถโดยสารประจำทาง เสียเวลาหลายชั่วโมง หรือหากใช้บริการรถไฟฟ้า MRT ต้องเสียค่าโดสารจากบางซื่อ - หัวลำโพง 42 บาท รวมประชาชนเสียค่าโดยสารจากรังสิต - หัวลำโพง เพิ่มจาก 6 บาท เป็น 46 บาท

นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า พื้นที่ของ ร.ฟท.มีอยู่ทั่วประเทศทำไมไม่มีการดำเนินการพัฒนาเหตุใดต้องจำเพาะต้องเป็นสถานีหัวลำโพง คำถามนี้ต้องมีการชี้แจง และตั้งแต่มีการยึดอำนาจมาก็ต้องยอมรับว่ามีการเอื้อนายทุนมาตลอด ดังนั้นขอถามว่าที่ผ่านมามีจำนวนศูนย์การค้าและแหล่งท่องเที่ยวไม่เพียงพออีกหรือ สถานีรถไฟหัวลำโพงมีความสำคัญในการเดินทางของประชาชนที่มีรายได้ไม่มากที่อาศัยรถไฟในการเดินทาง

กรณีการกล่าวอ้างถึงจำนวนหนี้ของ ร.ฟ.ท.ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการระบุว่ามีประมาณ 6 แสนล้านบาทนั้น จำนวนนี้มาจากส่วนไหนต้องให้ทางบัญชีอธิบาย โดยยืนยันหนี้ของ ร.ฟ.ท.มีหนี้แค่เพียงประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาทเท่านั้น และหากพูดถึงหนี้ของ ร.ฟ.ท. ตามกฎหมายหากรถไฟฯ เงินขาดรัฐบาลต้องจ่ายชดเชยในส่วนที่รัฐบาลเป็นหนี้บริการสาธารณะ(PSO) ประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท