โบรกคัดหุ้นเด่นรับมาตรการ Work from Home 100%
“บล.เอเซีย พลัส” แสกนกลุ่มหุ้นรับประโยชน์รัฐบาลสั่งเวิร์คฟรอมโฮม “วัสดุก่อสร้าง-ไอที” เปิดสถิติราคาหุ้นขึ้นทุกครั้งหลังคำสั่งล็อกดาวน์ “บล.หยวนต้า” เตือนรอบนี้อาจกระทบไม่เท่าล็อกดาวน์รอบแรก-ราคาหุ้นแพง แนะเทรดดิ้งระยะสั้น
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ยกระดับมาตรการควบคุมการระบาด มีผล 12 ก.ค.นี้ โดยมาตรการส่วนหนึ่งขอให้ประชาชนทำงานจากบ้าน (Work from Home) 100% คาดว่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมบ้าน และกลุ่มสินค้าไอที ซึ่งจากสถิติในอดีตพบว่าราคาหุ้นทั้ง 2 กลุ่มมักจะปรับตัวได้ดีขึ้น (Outperform) หลังรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์และมาตรการควบคุมการระบาด 3 รอบที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์การลงทุนแนะนำเลือกซื้อรายตัว (Selective Buy) เพราะคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 ของหุ้นบางตัวในกลุ่มจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบไตรมาสก่อน เพราะถูกผลกระทบการระบาดของโควิด-19 รอบ 3 โดยหุ้นเด่นในกลุ่มที่มีความแข็งแกร่ง ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง บมจ.ดูโฮม (DOHOME) ราคาเหมาะสม 30.38 บาทต่อหุ้น ส่วนกลุ่มสินค้าไอทีแนะนำ บมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI) ราคาเหมาะสม 8.65 บาทต่อหุ้น เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 ยังเติบโตได้ดีเมื่อเทียบไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน รวมถึงยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากที่รัฐบาลประกาศให้ Work from Home 100% คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กลุ่มสินค้าไอที บมจ.คอมเซเว่น (COM7) บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) (SIS) และ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) กลุ่มระบบรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีไซเบอร์ (Cyber Security) บมจ.เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว (SECURE) และ บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) รวมถึงกลุ่มบริการคลาวด์ (Cloud Service) บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) เพราะคาดว่าความต้องการใช้บริการจากลูกค้าจะเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ คาดว่ากลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) รวมถึงกลุ่มซ่อมแซมบ้าน DOHOME บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) และ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) จะเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม อย่างไรก็ดี แนะนำซื้อเก็งกำไรระยะสั้น (เทรดดิ้ง) เท่านั้น เพราะคาดว่าประโยชน์ที่แต่ละกลุ่มจะได้รับจะไม่มากเท่าการประกาศล็อกดาวน์รอบแรกในช่วงต้นปี 2563 จากที่ปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่มีนโยบาย Work from Home อยู่แล้ว อีกทั้งราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นร้อนแรง
