เอกชนเตรียมร้อง 'จุรินทร์' หลังพาณิชย์เปิดไต่สวนเอดี 'ฟิล์มบีโอพีพี'

เอกชนเตรียมร้อง 'จุรินทร์' หลังพาณิชย์เปิดไต่สวนเอดี 'ฟิล์มบีโอพีพี'

อุตฯบรรจุภัณฑ์พลาสติก 100ราย เตรียมร้อง “จุรินทร์” หลังพาณิชย์เปิดไต่สวนเอดีสินค้าฟิล์มบีโอพีพี ผวากระทบอุตสาหกรรมต่อเนื่อง1.9แสนล้านเหตุทำต้องทุนพุ่ง

รายงานข่าวจากระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีอยู่ประมาณ 1,500 รายทั่วประเทศ  ในจำนวนนี้มี100 ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าฟิล์มบรรจุภัณฑ์ไบแอคเซียลลี ออเรียนเต็ดโพลิโพรพิลีน หรือฟิล์มบีโอพีพี กำลังจะทำเรื่องร้องเรียนต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) ให้พิจารณากรณีการขึ้นภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) อย่างรอบคอบ เพราะจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้ฟิล์มบีโอพีพีเป็นวัตถุดิบ ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น และอาจจะกระทบต่อเนื่องถึงผู้บริโภคที่จะต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น

ทั้งนี้ ทางกลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยังจะขอให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นองค์กรภาคเอกชนที่ดูแล

ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ในประเทศให้เข้ามาช่วยเหลือและดูแลในกรณีนี้ด้วย เพราะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศเป็นจำนวนมากที่จะได้รับผลกระทบ

     

สำหรับเหตุที่คัดค้านการขึ้นภาษีเอดี เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติก ทั้งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เทปกาว สติกเกอร์ เคลือบกระดาษ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ใช้ฟิล์มบีโอพีพี เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ยาและเวชภัณฑ์ ของใช้ส่วนบุคคล ของใช้ในครัวเรือน และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจปีละกว่า 190,000ล้านบาทจะได้รับผลกระทบ ในหลายด้านและอาจมีผลต่อการจ้างงานภายในอุตสาหกรรมด้วย 

โดยสินค้าที่จะได้รับผลกระทบ หากฟิล์มบีโอพีพีถูกขึ้นภาษี ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน และส่วนใหญ่มีราคาไม่สูงมาก เช่น ซองใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซองขนมปัง ซองขนมขบเคี้ยว ซองลูกอม ซองใส่เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ฉลากน้ำดื่ม และฉลากน้ำมันพืช เป็นต้น

“การใช้มาตรการเอดี เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตเพียงรายเดียว ไม่ใช่การปกป้องอุตสาหกรรมที่มีผู้ประกอบการมากรายที่ได้รับผลกระทบ เพราะไม่ใช่ว่าผู้ซื้อในประเทศแต่เป็นฟิล์มชนิดพิเศษที่ผู้ผลิตในประเทศผลิตไม่ได้ และหากผู้ผลิตในประเทศผลิตได้ ก็พร้อมที่จะซื้ออยู่แล้ว”

ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตบีโอพีพี ได้ยื่นขอให้กรมการค้าต่างประเทศ พิจารณาเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าบีโอพีพีเกรดทั่วไป ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยขอให้เก็บภาษีเอดีจากทั้ง 3 ประเทศ โดยเก็บจากจีนอัตรา 15.29%อินโดนีเซีย 5.82%และมาเลเซีย 28.45%และล่าสุดได้มีการไต่สวนเสร็จสิ้นไปแล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำเสนอให้ ทตอ. พิจารณา