'โก โฮลเซลล์' เร่งขยาย 4 สาขา ครึ่งปีหลัง ชี้ตลาดฟู้ดมูลค่า 2.6 ล้านล้านโต 2.6%

'โก โฮลเซลล์' เร่งขยาย 4 สาขา ครึ่งปีหลัง ชี้ตลาดฟู้ดมูลค่า 2.6 ล้านล้านโต 2.6%

เจาะแผน 'เซ็นทรัล รีเทล' เร่งขยายธุรกิจกลุ่มฟู้ด วางแผนเปิด 'โก โฮลเซลล์' 4 สาขาครึ่งปีหลัง - มุ่งขยายสาขาท็อปส์ แฟรนไชส์ พร้อมโมเดลใหม่ ท็อปส์ ไวน์ เซลล่าร์ ชี้ตลาดค้าส่งกลุ่มอาหาร มีมูลค่ากว่า 2.6 ล้านล้านบาท ขยายตัว 6.2% ต่อปี

โก โฮลเซลล์ (GO Wholesale) เรือธงค้าส่งกลุ่มอาหาร ของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีแผนขยายสาขาใหม่ในครึ่งปีหลัง 4 สาขา ทำให้ในสิ้นปีนี้ 2567 จะมีสาขาเปิดให้บริการรวมในประเทศไทยจำนวน 11 สาขา

สำหรับตั้งแต่ปีก่อน ได้เปิดสาขาไปแล้ว 4 สาขา ได้แก่ ศรีนครินทร์, เชียงใหม่, อมตะ ชลบุรี, พัทยาใต้ ส่วนในปี 2567 ได้มีการเปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 3 สาขา นำโดย พระราม 2 มีพื้นที่ กว่า 1.50 ตร.ม. สินค้ากว่า 2 หมื่นรายการ, รังสิต มีพื้นที่กว่า 9,000 ตร.ม. จำนวนสินค้ากว่า 2 หมื่นรายการ และล่าสุด สาขารามคำแหง 127 พื้นที่กว่า หมื่นตร.ม. เจาะกลุ่มลูกค้าย่านสุขาภิบาล 3 และใกล้เคียง

 

เซ็นทรัลรีเทล ชี้ค้าส่งกลุ่มอาหารมูลค่าสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท ขยายตัว 6.2% 

สำหรับ กลุ่มฟู้ดโฮลเซล โดย เซ็นทรัลรีเทล ประเมินว่า ตลาดค้าส่งกลุ่มอาหาร มีมูลค่าสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท มีการขยายตัว 6.2% ต่อปี จึงมีโอกาสสูงในการขยายธุรกิจและมีผู้แข่งขันในตลาดน้อยราย 

ทั้งนี้ต้องการขยายไปกลุ่มเป้าหมายหลัก ทั้ง โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจจัดเลี้ยง พร้อมใช้จุดแข็งของ บริษัทคือ ความเข้าใจของผู้ประกอบการมายาวนาน และมีสินค้าครบวงจร พร้อมวางเป้าหมายให้เป็น ผู้นำแหล่งรวมความสดใหม่ หรือ คิงออฟฟู้ดส์ จากสินค้ารวมกว่า 2 หมื่นรายการ และมีบริการเฉพาะคือ การตัดแต่งตามสั่ง

 

 

 

 

\'โก โฮลเซลล์\' เร่งขยาย 4 สาขา ครึ่งปีหลัง ชี้ตลาดฟู้ดมูลค่า 2.6 ล้านล้านโต 2.6%

 

“สุชาดา อิทธิจารุกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจในประเทศไทย และต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวไว้ว่า โก โฮลเซลล์ กำหนดแนวทางให้เป็น "เป็นทางเลือกใหม่ หรือ The New Choice for All" สำหรับผู้ประกอบการในทุกกลุ่ม รวมถึงตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อร่วมผลักดันพาร์ตเนอร์ที่เกี่ยวข้อง สร้างธุรกิจเติบโตไปพร้อมกัน พร้อมมุ่งสู่การเป็น คิงออฟฟู้ดส์ ในระยะยาว

ชี้โก โฮลเซลล์ - ท็อปส์ ยอดขายโต

อีกทั้งเมื่อประเมินผลประกอบการของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ในไตรมาสแรกของปี 2567 ที่ประกาศออกมา มีรายได้รวมอยู่ที่ 6.72 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน และสร้างกำไรสุทธิหลัก 2,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมสร้างยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนล สัดส่วนอยู่ที่ 19% 

ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล มีรายได้จาก 5 กลุ่มธุรกิจหลัก แต่กลุ่มฟู้ด สร้างรายได้จากการขายอยู่ที่ 2.45 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ มาจากทั้ง ยอดขายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

รวมถึงผลตอบรับของ โก โฮลเซลล์ ที่เปิด 4 สาขาในปีก่อน และในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้กับ สาขาพระราม 2 รวมถึงแรงหนุนจาก โครงการ Easy E- Receipt รวมถึง การเปิดสาขาของ ท็อปซ์ ซูเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 3 สาขาใหม่ และยอดขายจากประเทศเวียดนามที่มีการขยายตัว รวมถึงยอดขายจากช่องทาง ออมนิชาแนล มีการขยายตัว 21%

 

\'โก โฮลเซลล์\' เร่งขยาย 4 สาขา ครึ่งปีหลัง ชี้ตลาดฟู้ดมูลค่า 2.6 ล้านล้านโต 2.6%

ขยายท็อปส์ ไวน์ เซลล่าร์ - รุก ท็อปส์ เดลี่ สาขาแฟรนไชส์

สำหรับ ท็อปส์ ได้มีการขยายโมเดลใหม่ ท็อปส์ ไวน์ เซลล่าร์ โดยมีสาขาเปิดให้บริการแล้ว 4 สาขา  ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล พระราม2 และเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ร่วมตอกย้ำ การเป็น คิง ออฟ ไวน์ ของท็อปส์ ซึ่งที่ผ่านมา ท็อปส์ มีการนำเข้าสินค้าอาหารและไวน์จากทั่วโลกอยู่แล้ว พร้อมมีการปรับ ท็อปส์ วิสต้า เข้ามาอยู่ในสาขาของ ท็อปส์ 

อีกทั้งได้มีการขยายธุรกิจสู่แฟรนไชส์ กับ ท็อปส์ เดลี่ เป็นโมเดลที่เปิดให้คนสนใจเข้ามาร่วมลงทุนได้ กำหนดงบลงทุนไว้ที่ 1.07 ล้านบาท มีสินค้าทั้งไทยและสินค้านำเข้ารวม 1.50 หมื่นรายการ สำหรับแฟรนไชส์ได้วางให้เป็น Growth Engine ให้กับธุรกิจด้วยกลยุทธ์การเป็นผู้นำร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตทุกฟอร์แมท ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ ตามยุทธศาสตร์แผน 5 ปี 

ทั้งนี้ภาพรวมสาขาของท็อปส์รวมในทุกฟอร์แมต มีประมาณ 159 สาขา และมีสาขาสะแตน อะโลน 4 สาขา ส่วนสินค้ามีรวมประมาณ 4 หมื่นรายการ ทั้งสินค้าในประเทศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ขณะที่ในปีที่ผ่านมามีการเปิดสาขาใหม่รวม 9 สาขา โดยท็อปส์ ได้วางตำแหน่งเป็น พรีเมียม ซูเปอร์มาร์เก็ต และเป็นจุดหมายปลายทางทางด้านอาหารของกลุ่มลูกค้า 

ต้องติดตาม การเร่งขยายกลุ่มฟู้ดของเซ็นทรัล รีเทล กับการมุ่งเป้าสู่ผู้นำในตลาดของประเทศไทย! จะยิ่งเพิ่มดีกรี สมรภูมิค้าปลีกให้ร้อนแรงมากขึ้น