ยังคงมีแนวโน้มซึมลง การเก็งกำไรควรมีส่วนผสมของหุ้นปลอดภัย

ยังคงมีแนวโน้มซึมลง การเก็งกำไรควรมีส่วนผสมของหุ้นปลอดภัย

ตลาดมองผสมผสานเกี่ยวกับตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ หุ้นสหรัฐฯ +1% ปรับตัวขึ้นก่อนปิดลบราว -1% ทั้งนี้ปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับขึ้นมาจาก

1) การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ส.ค. ที่การจ้างงานเพิ่ม 315,000 ตำแหน่ง แม้จะมากกว่าที่ตลาดคาดที่ 298,000 ตำแหน่ง แต่ถือว่าชะลอตัวลงจากก.ค.ที่ 528,000 ตำแหน่ง 2) ตลาดมีมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย โดย Implied rate สูงสุดของการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ ปรับลดลงเหลือ 3.82% (จาก 3.95% ในวันก่อนหน้า) อย่างไรก็ตามตลาดให้น้ำหนักกับปัจจัยลบเกี่ยวกับปัญหาวิกฤติพลังงานในยุโรป หลังมีข่าวยุโรปเตรียมใช้มาตรการจำกัดราคาซื้อพลังงาน ซึ่งถูกตอบโต้จากบริษัทพลังงานรัสเซีย โดยกาซพรอมประกาศหยุดส่งก๊าซไม่มีกำหนดจากข้อขัดข้องด้านเทคนิค ส่งผลให้ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง สร้างแรงกดดันต่อภาพการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

 

คาดตลาดผันผวนจากปัจจัยต่างๆในช่วง 3 สัปดาห์แรก ปัจจัยทั้งในและต่างประเทศที่ส่งผลต่อตลาดได้แก่ 1) การประชุมของโอเปคและพันธมิตร (5 ก.ย.) ซึ่งตลาดคาดมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง 2) การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทย ส.ค. (5 ก.ย.) คาด 7.90% (จาก ก.ค.ที่ 7.61%) ตัวเลขที่สูงกว่าคาดจะสร้างแรงกดดันต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย และความกังวลปัญหาคุณภาพลูกหนี้ในกลุ่มสถาบันการเงิน 3) การประชุมธนาคารกลางยุโรป (9 ก.ย.) 4) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (21 ก.ย.) และ 5) การลดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เริ่มต้น 1 ก.ย.) ที่ 9.5 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน เราคาดปัจจัยทั้งหมดส่งผลให้ตลาดผันผวนในทางแกว่งลง และมีโอกาสชะลอตัวหรือปรับดีขึ้นในช่วงปลายเดือน โดยเฉพาะหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มได้ประโยชน์จากคนละครึ่งเฟส 5 อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE, TNP, KK, MAKRO 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CPALL, SCGP, TOP, RATCH, CRC, CPF, RS, SC, TH, TLI, BAM, ROJNA

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวซึมลงในกรอบ 1,600-1,650 จุด ภาพใหญ่รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) ระยะสั้นกลุ่มหุ้นปลอดภัย หุ้นที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกรายตัว มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า   //หุ้นแนะนำ:  ASIAN*, GUNKUL*, EGCO*, OR*

แนวรับ: 1,605-1,610 / แนวต้าน : 1,629 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยคำสั่งซื้อภาคโรงงานลดลง สวนทางคาดการณ์ - ร่วงลง 1.0% ในเดือนก.ค. สวนทางที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.8% ในเดือนมิ.ย.

รัสเซียประกาศปิดท่อส่งก๊าซยุโรปไม่มีกำหนด – ก๊าซพรอมจะยังคงปิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ต่อไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากพบการรั่วไหลของน้ำมันที่กังหันหลักของสถานีคอมเพรสเซอร์ปอร์โตวายาใกล้กับนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

อังกฤษเตรียมประกาศชื่อนายกฯคนใหม่วันนี้ – พรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย.เวลา 18.30 น.ตามเวลาไทย ทั้งนี้ ผู้ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษโดยอัตโนมัติ เนื่องจากทางพรรคครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ มีคะแนนนำ

เซินเจิ้นขยายเวลาคุมโควิด แม้ปฏิเสธสั่งล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ – จีนสั่งขยายเวลาจำกัดการทำกิจกรรมในที่สาธาณะ การรับประทานอาหารนอกบ้าน และการให้บริการของสถานบันเทิงในพื้นที่บางเขตของเมืองเซินเจิ้นซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีน เพื่อพยายามควบคุมการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19

ไทยพร้อมเปิดรับต่างชาติยื่นขอ LTR Visa – ตามที่รัฐบาลได้กำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย โดยอนุญาตให้กลุ่มที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม สามารถเข้ามาในประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษเพื่อการพำนักระยะยาว ผ่านการให้วีซ่าประเภท Long - Term Resident Visa หรือ LTR Visa ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รัฐบาลเผยรถไฟฟ้า 3 สาย ส้ม-เหลือง-ชมพู คืบหน้าเกิน 90% ใกล้เปิดใช้งาน –โดยโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีแผนสำหรับการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ซึ่งจะเริ่มภายในเดือนตุลาคม 2565 ก่อนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้ง 2 เส้นทางในปี 2566

Opportunity day – 5 ก.ย. – MTI, CKP, TMILL, PORT, AMATAV, GVREIT / 6 ก.ย. – NER, MAKRO, SSP, AMATA, HTC / 7 ก.ย. – ZEN, AIMCG, WP, PRM, CAZ, BE8 

ตลท.ให้ KCC ใช้เกณฑ์ Cach Balance – ตั้งแต่ 5-23 ก.ย.65

 

ประเด็นติดตาม: 5 ก.ย. – TH CPI / 6 ก.ย. - ISM Non-Manufacturing PMI / 7 ก.ย. – EU GDP / 8 ก.ย. - ECB Interest Rate Decision, Fed Chair Powell Speaks, US Initial Jobless Claims

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)