สรุป COP30 วันที่ 2 ชูพลังท้องถิ่นในเวทีโลก งบ 30 ล้านเหรียญ ลดก๊าซมีเทนจากขยะ

ชูบทบาทของเมืองและชุมชนท้องถิ่นให้เป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีการผลักดันให้เกิดการบูรณาการการทำงานหลายระดับและสนับสนุนเงินทุนในระดับพื้นที่
KEY
POINTS
- ชูบทบาทของเมืองและชุมชนท้องถิ่นให้เป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- เปิดตัวมาตรฐานใหม่สำหรับ Near-Zero and Resilient Buildings โดยมีหลายประเทศนำร่องรับรองว่าจะนำไปใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
- ประกาศโครงการจัดการขยะอินทรีย์ (NOW) เพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทน พร้อมริเริ่มการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน
- ยกระดับประเด็นเรื่องน้ำให้เป็นหัวใจสำคัญของการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมประกาศแผนลงทุนขนาดใหญ่
“กรุงเทพธุรกิจ” เกาะติดสถานการณ์การประชุม COP30 โดยวันที่สองของการประชุม (อังคารที่ 11 พฤศจิกายน) เต็มไปด้วยพลังแห่งการลงมือทำจริง โดยเน้นบทบาทของเมือง ชุมชน และผู้นำท้องถิ่นที่กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรมในชีวิตประจำวัน
ประเด็นหลักของวัน เริ่มจากการปรับตัว (adaptation) โครงสร้างพื้นฐาน เมือง น้ำ,ของเสีย การปกครองท้องถิ่น ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและชีวเศรษฐกิจ ทุกประเด็นถูกหยิบยกขึ้นมาอย่างจริงจังในวันนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้เริ่มจากนโยบายระดับชาติเท่านั้น แต่เริ่มจากพื้นที่ที่ผู้คนใช้ชีวิตจริง
'เมือง' คือแนวหน้าการเปลี่ยนแปลง
หนึ่งในไฮไลต์ของวันคือโครงการ “Beat the Heat Implementation Drive” ที่เดินหน้าจากแผนสู่การปฏิบัติจริง โดยมีเป้าหมายปกป้องประชาชนกว่า 3.5 พันล้านคนใน 185 เมืองทั่วโลกจากคลื่นความร้อนสุดขั้ว ผ่านการออกแบบเมืองให้เย็นขึ้น เช่น ป่าเมือง หลังคาเขียว และอาคารประหยัดพลังงาน
ในการประชุมรัฐมนตรีเรื่อง “Urbanization and Climate Change” มีการเปิดตัวแผนเร่งรัด PAS เพื่อผลักดันพันธมิตร (Coalition for High Ambition Multilevel Partnerships: CHAMP) ให้เกิดผลจริง โดยมีบราซิลและเยอรมนีเป็นประธานร่วม เป้าหมายคือให้ 100 ประเทศบูรณาการการบริหารหลายระดับในแผน NDC ภายในปี 2028 พร้อมฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกว่า 6,000 คน และขยายการเข้าถึงเงินทุนด้านภูมิอากาศ
นอกจากนี้ยังเปิดตัวแพลตฟอร์ม CPLFs เพื่อให้ประเทศต่างๆ เช่น แคเมอรูนและมาดากัสการ์สามารถระดมเงินทุนกว่า 350 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่
อาคารยั่งยืนและการจัดการของเสีย
โครงการ Buildings Breakthrough Initiative เปิดตัวมาตรฐานใหม่สำหรับ “อาคารเกือบปลอดคาร์บอนและมีความยืดหยุ่นสูง” (Near-Zero and Resilient Buildings) โดยมี 6 ประเทศ ได้แก่ โคลอมเบีย ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ กานา ญี่ปุ่น และเคนยา รับรองว่าจะนำมาตรฐานนี้ไปใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ขณะเดียวกัน โครงการ No Organic Waste (NOW) ก็ประกาศงบ 30 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก (10 ล้านสำหรับลาตินอเมริกา) เพื่อมุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากของเสียอินทรีย์ลง 30% ภายในปี 2030 พร้อมกู้คืนอาหารส่วนเกินกว่า 20 ล้านตันต่อปี และบูรณาการแรงงานเก็บขยะ 1 ล้านคนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน
น้ำ หัวใจการปรับตัว
ประเด็นเรื่องน้ำถูกยกระดับขึ้นเป็นหัวใจของการดำเนินงานเชิงนโยบาย โดยโครงการ Latin America and Caribbean Water Investment Programme ประกาศงบลงทุนกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 เพื่อเสริมความมั่นคงทางน้ำในภูมิภาค
การประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วย “Water and Climate Action – Waters of Change” ก็ได้ออกแถลงการณ์ร่วม ยืนยันว่าน้ำคือรากฐานสำคัญของการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมเปิดตัวแผนเร่งรัดของบราซิล 2 ฉบับ ได้แก่ แผนบริหารจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วม และแผนเข้าถึงน้ำสะอาดสำหรับชุมชนเปราะบาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สรุป COP30 วันที่ 1 เกิดอะไรขึ้นบ้าง เน้นเทคโนโลยี รับมือวิกฤติอากาศทั่วโลก
- เปิดข้อเรียกร้อง 'ผู้นำโลก' บนเวที COP30 จีน-ฝรั่งเศส–เจ้าชายวิลเลียม
- ประธาน COP29 เยือน COP30 โชว์ใบแจ้งหนี้ เรียกเก็บเงินประเทศร่ำรวย ช่วยโลกร้อน
- เริ่มแล้ว COP30 ผู้นำร่วมถก 6 วาระ เร่ง roadmap ระดม 1.3 ล้านล้านภายในปี 2035
- เจาะภารกิจไทยใน COP30 มุ่งขอเงินทุนสู้โลกร้อน เร่งลดก๊าซเรือนกระจก 47%
พื้นที่แห่งการลงมือทำ
COP30 ยังเปิดพื้นที่ “Action Agenda Thematic Spaces” อย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยแบ่งเป็น 6 โซนตามโครงสร้างของ Global Stocktake เปิดโอกาสให้กว่า 400 โครงการความร่วมมือระดับนานาชาติได้นำเสนอผลสำเร็จ และกว่า 100 แผนเร่งรัดแสดงเจตนารมณ์ของ COP30 ในฐานะ “COP แห่งการลงมือทำ”
ในพิธีเปิด ยังมีการยกย่องผลงานของ Nigar Arpadarai ผู้แทน COP29 Climate High-Level Champion ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันการดำเนินการด้านภูมิอากาศอย่างครอบคลุมและร่วมมือทั่วโลก
ขยายการมีส่วนร่วมผ่านเทคโนโลยี
แพลตฟอร์ม Maloca ที่พัฒนาโดย UNDP ร่วมกับประธาน COP30 เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงเวที COP แบบออนไลน์ สามารถเข้าชมงานเสวนา นิทรรศการ และกิจกรรมต่างๆ ได้แบบเสมือนจริง
นอกจากนี้ยังมีโครงการ “Mutirão for Sustainable E-Waste Management and Digital Inclusion” ที่จัดโดยกระทรวงการสื่อสารของบราซิล แสดงความสำเร็จในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน เช่น การบริจาคคอมพิวเตอร์รีเฟอร์บิช 100 เครื่อง เก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 1,000 ตัน และฝึกอบรมเยาวชน 2,700 คนทั่วประเทศ
ปิดวันด้วยพลังจากรากฐาน
การประชุมใหญ่ระดับรัฐมนตรี Global Mutirão Ministerial Plenary ซึ่งรวมรัฐมนตรีและนายกเทศมนตรีจากกว่า 80 ประเทศ ได้ตอกย้ำว่าอนาคตของความตกลงปารีสกำลังถูกสร้างขึ้นจาก “รากฐานในระดับพื้นที่” โดยเมืองและชุมชนคือผู้นำแนวหน้าในการสร้างโลกที่ปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น
ที่มารูป: COP30 Brasil Amazônia







