เปิดข้อเรียกร้อง 'ผู้นำโลก' บนเวที COP30 จีน-ฝรั่งเศส–เจ้าชายวิลเลียม

จีนเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วนำสนับสนุนเงินแก่ประเทศกำลังพัฒนา ฝรั่งเศสเสนอ 4 หลักการ เจ้าชายวิลเลียมชี้บทบาทชุมชนพื้นเมืองในการดูแลป่า บราซิล–ไนจีเรียหนุนเร่งเปลี่ยนผ่านพลังงาน ปกป้องป่า และสร้างระบบการเงินสภาพภูมิอากาศที่เท่าเทียม
KEY
POINTS
- จีนเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วเป็นผู้นำในการลดคาร์บอนและสนับสนุนทางการเงินแก่ประเทศกำลังพัฒนา พร้อมเร่งเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
- ฝรั่งเศสเสนอ 4 หลักการสำคัญ ได้แก่ เร่งเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ปกป้องธรรมชาติ ขยายแหล่งเงินทุน และปกป้องข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
- เจ้าชายวิลเลียมทรงเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของชุมชนพื้นเมืองในการดูแลผืนป่า และเรียกร้องให้ทุกประเทศดำเนินนโยบายเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ
- บราซิลและไนจีเรียเรียกร้องให้เร่งรัดการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ปกป้องป่าไม้ และสร้างระบบการเงินด้านสภาพภูมิอากาศที่เท่าเทียม
'กรุงเทพธุรกิจ' เกาะติดสถานการณ์การประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 30 (COP30) ทั้งนี้ก่อนที่งานจะเริ่มอย่างเป็นทางการ ผู้นำประเทศและตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศหลายร้อยคนได้รวมตัวกันใน “Belém Climate Summit” การประชุมสุดยอดผู้นำโลก เพื่อหารือถึงความท้าทายและพันธกรณีเร่งด่วนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมเตรียมแนวทางสำคัญสำหรับการประชุมใหญ่
โดยผู้นำจากจีน บราซิล ฝรั่งเศส และเจ้าชายวิลเลียมแห่งเวลส์ จากสหราชอาณาจักร ต่างร่วมส่งเสียงเดียวกันว่า โลกไม่อาจรอได้อีกต่อไป การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานและเศรษฐกิจสีเขียวไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการอยู่รอดในอนาคตของมนุษยชาติจริงๆ
พัฒนาเศรษฐกิจใต้แผน “จีนสวยงาม”
นายติง เสวี่ยเสียง รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนได้บรรลุเป้าหมายสำคัญในการดำเนินการตาม NDCs ปี 2030 และกำลังเร่งดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายปี 2035 ทั้งกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ และการเพิ่มพื้นที่ป่าทั่วประเทศ
"จีนคือประเทศที่รักษาคำมั่นสัญญา เราจะเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสีเขียวในทุกมิติของเศรษฐกิจและสังคม เพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนสูงสุดและความเป็นกลางทางคาร์บอน ย้ำว่าการเปลี่ยนผ่านดังกล่าวจะไม่เพียงปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้เศรษฐกิจของจีนเติบโตอย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้ การประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 4 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ได้อนุมัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในอีก 5 ปีข้างหน้า ภายใต้แนวคิด “จีนสวยงาม” โดยเน้นการลดมลพิษ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน เสริมสร้างความมั่นคงทางนิเวศวิทยา และกระตุ้นแรงขับเคลื่อนด้านการพัฒนาสีเขียวควบคู่กับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นายติง ได้เสนอแนวทางหลัก 3 ประการ เพื่อให้การจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศของโลกเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- รักษาทิศทางที่ถูกต้อง: การเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวและคาร์บอนต่ำคือ แนวโน้มของยุคสมัยนี้ ทุกประเทศต้องหาสมดุลระหว่างการรักษาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเศรษฐกิจ และการสร้างงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
- เปลี่ยนคำมั่นสัญญาให้เป็นการลงมือทำจริง: หัวใจของการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศคือการลงมือทำ ทุกประเทศต้องยึดหลักความรับผิดชอบร่วมแต่แตกต่างกัน และให้ประเทศพัฒนาแล้วเป็นผู้นำ ทั้งในด้านการลดการปล่อยคาร์บอน การสนับสนุนทางการเงิน และการส่งต่อเทคโนโลยีให้กับประเทศกำลังพัฒนา
- เสริมสร้างความเปิดกว้างและความร่วมมือ: การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวทั่วโลกต้องการ สภาพแวดล้อมทางการค้าและเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง เสนอให้ลดอุปสรรคทางการค้า ส่งเสริมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสีเขียว และสนับสนุนการเคลื่อนย้ายสินค้าสีเขียวคุณภาพสูงอย่างเสรี
ข่าวเกี่ยวข้อง:
เจ้าชายวิลเลียม หนุนชนพื้นเมือง
เจ้าชายวิลเลียม แห่งเวลส์ หรือ วิลเลียม อาร์เธอร์ ฟิลิป หลุยส์ เตือนว่าโลกกำลังเข้าใกล้ “จุดพลิกผันวิกฤติ” ที่อาจทำให้ระบบธรรมชาติซึ่งมนุษย์พึ่งพาเริ่มล่มสลาย ชุมชนทั่วโลกกำลังเผชิญกับผลกระทบแล้ว ทั้งระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น คลื่นความร้อน ไฟป่า น้ำท่วม และภัยแล้ง
“เส้นทางข้างหน้าไม่ง่าย เพราะต้องเปลี่ยนวิธีใช้พลังงาน ผลิตสินค้า เดินทาง และดูแลผืนดิน แต่นี่คือโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจสะอาด ฟื้นฟูธรรมชาติ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก ทุกประเทศต้องดำเนินนโยบายเพื่อฟื้นฟูมากกว่าทำลาย”
นอกจากนั้น เจ้าชายวิลเลียมทรงย้ำถึงบทบาทสำคัญของชุมชนพื้นเมืองและท้องถิ่นที่ดูแลผืนดินกว่าครึ่งโลก โดยการคุ้มครองสิทธิในที่ดิน ไม่เพียงเป็นหน้าที่ทางศีลธรรม แต่ยังเป็นทางออกเชิงรูปธรรมต่อวิกฤติสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากพื้นที่ที่ชนพื้นเมืองถือครองตามกฎหมายมีการตัดไม้ทำลายน้อยกว่าและกักเก็บคาร์บอนได้ดีกว่า
"ข้อตกลงปารีสสู่กรอบความหลากหลายทางชีวภาพโลก หลังจากที่สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพ COP26 เราได้ผลักดันพันธกรณียุติการทำลายป่าภายในปี 2030 ปีนี้ COP30 ได้จัดตั้ง Tropical Forests Forever Fund ซึ่งเป็นก้าวแห่งวิสัยทัศน์ในการให้คุณค่าธรรมชาติ"
เร่งการลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
นายหลุยส์ อินาซิโอ ลูล่า ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล ได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการปกป้องป่าและเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านพลังงาน กล่าวว่า มนุษยชาติเข้าใจผลกระทบจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศมากว่า 3 ทศวรรษ และรับรู้ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากว่า 35 ปี ตั้งแต่รายงาน IPCC ฉบับแรก แต่ก็ต้องรอถึงการประชุม COP ครั้งที่ 28 ที่ดูไบ จึงจะมีการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเราต้องลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและหยุดการตัดไม้ทำลายป่า
อีกทั้งยังต้องรออีก 1 ปีจนถึงการประชุมที่บากู จึงมีการตกลงกันว่าจะเพิ่มเงินทุนแก้วิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นจำนวน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การเร่งการเปลี่ยนผ่านพลังงานและการรักษาธรรมชาติคือวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดภาวะโลกร้อน แม้จะมีความท้าทายและความขัดแย้ง
อเมซอน เป็นป่าดงดิบเขตร้อน ถือเป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำและลำธารนับพันสายที่ก่อตัวเป็นลุ่มน้ำที่ใหญ่บนโลก เป็นที่อยู่อาศัยของพันธุ์พืชและสัตว์นับพันชนิด ซึ่งรวมกันเป็นระบบนิเวศที่หลากหลาย แต่สมบัติทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่นี้กำลังเผชิญภัยคุกคามจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยปี 2024 เป็นปีแรกที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ชี้ชัดว่าสิ่งนี้จะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกหลายปีหรือหลายสิบปี ดังนั้นเราต้องไม่ละทิ้งเป้าหมายของข้อตกลงปารีส ในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่เกิน 1.5 องศา
“การแก้ปัญหาวิกฤติสภาพภูมิอากาศจำเป็นต้องเชื่อมโยงระหว่างภาษาทางเทคนิคและชีวิตประจำวันของผู้คน คนทั่วไปอาจไม่เข้าใจเรื่องการปล่อยก๊าซหรือเมตริกตันของคาร์บอน แต่พวกเขารู้สึกถึงมลพิษ คนทั่วไปอาจไม่เข้าใจเรื่องแหล่งกักเก็บคาร์บอนหรือการควบคุมสภาพภูมิอากาศ แต่พวกเขารู้คุณค่าของป่าและทะเล”
ฝรั่งเศสเสนอทางช่วยโลก 4 ข้อ
นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า ความตกลงปารีสและความร่วมมือทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ช่วยลดการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้นในสิ้นศตวรรษนี้ จาก 4-5 องศาเซลเซียส เหลือ 2.8 องศาเซลเซียส แต่ยังไม่เพียงพอ เพราะเป้าหมายคือการจำกัดให้เพิ่มไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส พร้อมเน้นว่า การลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศเป็นการสร้างโอกาสใหม่ เพราะพลังงานปลอดคาร์บอนมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น
สำหรับการประชุม COP30 ฝรั่งเศสเสนอหลักการสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่
- เร่งเลิกใช้พลังงานฟอสซิล โดยให้ทุกประเทศวางแผนและมีกลยุทธ์เลิกใช้ถ่านหินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งฝรั่งเศสจะปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งสุดท้ายภายในปี 2027 และเข้มงวดการลดก๊าซมีเทนในภาคพลังงาน
- ปกป้องและฟื้นฟูธรรมชาติ เช่น มหาสมุทรและป่าไม้ พร้อมสนับสนุนประเทศเกาะเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบ โดยฝรั่งเศสจะจัดสรรงบประมาณ 3 พันล้านยูโรในปี 2024 เพื่อการปรับตัว
- ขยายแหล่งเงินทุนด้านสภาพภูมิอากาศ โดยเพิ่มประเทศที่ร่วมสนับสนุน และดึงเงินจากภาคเอกชนผ่านโครงการใหม่ๆ เช่น “ข้อตกลงเพื่อความมั่งคั่งของประชาชนและโลก” (4P)
- ปกป้องวิทยาศาสตร์จากข้อมูลเท็จ และสนับสนุนให้ทุกฝ่ายตัดสินใจด้วยข้อมูลจริง ฝรั่งเศสยังคงสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลด้านสภาพภูมิอากาศ (IPCC)
กรอบตลาดคาร์บอน ไนจีเรีย
นายคาชิม เชตติมา รองประธานาธิบดีไนจีเรีย เปิดเผยว่า รัฐบาลไนจีเรียเพิ่งอนุมัติกรอบตลาดคาร์บอนแห่งชาติและกองทุนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นเสาหลักของระบบการเงินด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยสร้างตลาดคาร์บอนที่โปร่งใสและเชื่อถือได้ สอดคล้องกับมาตรา 6 ของความตกลงปารีส
กรอบนี้ช่วยให้ไนจีเรียสามารถสร้าง ซื้อขาย และยกเลิกเครดิตคาร์บอนได้อย่างเป็นธรรม พร้อมระดมเงินลงทุนหลายล้านดอลลาร์เพื่อใช้ในการปรับตัว ฟื้นฟู และพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว รายได้เข้าสู่กองทุนเพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศมากที่สุด
ไนจีเรียได้เปิดตัวแผนงานตลาดคาร์บอน 5 ปี กำหนดระบบจัดอันดับการปล่อยมลพิษและภาษีคาร์บอน พร้อมรางวัลสำหรับนวัตกรรมสะอาด โดยแผน NDC ที่ยื่นในกันยายน 2025 มีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก 32% ภายในปี 2035 และเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในระยะยาว ครอบคลุมภาคพลังงาน เกษตรกรรม ขนส่ง ของเสีย และอุตสาหกรรม
กลยุทธ์ “Decade of Gas” ใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อรักษาเสถียรภาพพลังงานและขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันขยายพลังงานแสงอาทิตย์และโซลูชันไฟฟ้าชนบท ช่วยสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและเปลี่ยนของเสียเกษตรเป็นโอกาสใหม่
ด้วยภูมิประเทศหลากหลายตั้งแต่ซาฮาราจนถึงป่าชายเลน ไนจีเรียลงทุนในเกษตรกรรมที่เป็นมิตรกับสภาพภูมิอากาศ ปฏิรูปปศุสัตว์ และใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางอาหารและลดการใช้ทรัพยากรร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดีกล่าวว่า ความตั้งใจดีอย่างเดียวไม่พอ การเงินด้านสภาพภูมิอากาศยังเป็นกุญแจสำคัญ ไนจีเรียจึงเรียกร้องระบบการเงินที่น่าเชื่อถือและเท่าเทียม โดยคำนึงถึงความเป็นจริงของประเทศกำลังพัฒนา และสนับสนุนกองทุน Loss and Damage พร้อมให้แน่ใจว่าประเทศเปราะบางเข้าถึงกองทุนนี้ได้
ไนจีเรียในฐานะตัวแทนของแอฟริกามุ่งหวังจะเป็นผู้นำด้านการกักเก็บคาร์บอน การอนุรักษ์ป่าไม้ ขยายพลังงานหมุนเวียน ติดตามการปล่อยก๊าซดิจิทัล และความร่วมมือภูมิภาค ที่จะเปลี่ยนความตั้งใจให้กลายเป็นความเจริญรุ่งเรืองของทวีปได้จริง
ที่มารูป: COP30 Brasil Amazônia







