ไทยยูเนี่ยนจับมือ ADB ลงทุน 5 พันล้านบาท หนุน 'อุตสาหกรรมอาหารทะเล' ไทยยั่งยืน
ไทยยูเนี่ยน ประกาศความร่วมมือกับ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดตัว "Blue Finance Solutions" ด้วยสินเชื่อ Blue Loan มูลค่า 5,000 ล้านบาท มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารทะเลไทยสู่ความยั่งยืน และเสริมสร้าง Blue Economy ของประเทศ
ประเทศไทยพึ่งพาทรัพยากรทางทะเลอย่างมาก โดยเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องมีสัดส่วนสูงถึง 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งนับเป็นอันดับสองในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก และเป็นแหล่งเลี้ยงชีพของประชากรเกือบ 1 ใน 4 ของ 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล การบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนจึงเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาอนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสนับสนุนเป้าหมายการก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2580
Blue Loan เพื่อการเพาะเลี้ยงกุ้งที่ยั่งยืน
ลูโดวิค การ์นิเย่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ ADB ครั้งนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำของไทยยูเนี่ยนด้านอาหารทะเลอย่างยั่งยืน และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ผ่านกระบวนการผลิต การจัดหาวัตถุดิบ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ยั่งยืน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนา Blue Economy ของประเทศไทยให้เติบโตต่อเนื่อง
สินเชื่อ Blue Loan นี้จะมุ่งเน้นการยกระดับการเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก และสอดคล้องกับทิศทางของประเทศที่กำลังปรับตัวและมุ่งสู่เศรษฐกิจทางทะเลที่ยั่งยืน
ต้นแบบทางการเงินเพื่อทะเลที่ยั่งยืน
อานุช เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย กล่าวว่า การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลกว่าครึ่งหนึ่งของโลก โดยมีเอเชียเป็นแหล่งผลิตหลัก ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า Blue Finance สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสำคัญให้กับอุตสาหกรรมอาหารทะเล ให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การออกวงเงินกู้ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่ ADB จัดสรรให้กับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทย ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการผลิตกุ้งของประเทศมีความยั่งยืนและเข้มแข็งยิ่งขึ้น
การผนึกกำลังความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ในการสร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมผลิตอาหารทะเล ทำให้ประเทศไทยเป็นแบบอย่างที่ดีในการนำนวัตกรรมทางการเงินมาเป็นเครื่องมือในการปกป้องดูแลทรัพยากรทางทะเล พร้อมดูแลความเป็นอยู่ของผู้คน และสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน
มุ่งสู่มาตรฐานระดับโลก
ภายใต้วงเงินกู้ด้านความยั่งยืนทางทะเลนี้ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการจัดหาวัตถุดิบกุ้งที่เพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืนที่ได้รับการรับรองในระดับโลกจาก Global Sustainable Seafood Initiative (GSSI) เช่น มาตรฐาน Aquaculture Stewardship Council (ASC) และมาตรฐาน Best Aquaculture Practices (BAP) หรือจัดซื้อจากฟาร์มที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีความน่าเชื่อถือ (Aquaculture Improvement Projects หรือ AIPs)
แนวทางนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม ได้แก่ การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ การตรวจสอบแหล่งที่มาของอาหารกุ้ง และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้พลังงานหมุนเวียน การปรับปรุงประสิทธิภาพอัตราแลกเนื้อ (FCR) การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า ตลอดจนการส่งเสริมการใช้แรงงานที่เป็นธรรม และการทำงานร่วมกับชุมชน
พันธมิตรทางการเงินเพื่อ Blue Economy
ภายในงานยังมีการจัดเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตของ Blue Economy ด้วย Finance Solutions โดยมีตัวแทนจากไทยยูเนี่ยน และธนาคารพาณิชย์ชั้นนำที่เป็นพันธมิตรทางการเงิน 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน, ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC), ธนาคารเอ็มยูเอฟจี จำกัด (MUFG), ธนาคาร OCBC, ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) และธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ (UOB) เข้าร่วม
อดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืนและการสื่อสาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่มุ่งผลิตอาหารทะเลด้วยความรับผิดชอบ และยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® 2030 ของไทยยูเนี่ยน วงเงินสนับสนุนทางการเงินจาก ADB ในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยให้เราก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อสุขภาพจากท้องทะเล ที่ได้รับการยอมรับว่าดำเนินธุรกิจโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีนวัตกรรม และให้ความสำคัญต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในระยะยาว
