'พลังงาน' จ่อประกาศค่าไฟงวดใหม่ ของบกลางฯ1.9 พันล้าน อุดหนุนกลุ่มเปราะบาง
“พีระพันธุ์” พร้อมประกาศค่าไฟงวดใหม่ ม.ค.-เม.ย.67 หลังเข้า ครม.สัปดาห์หน้า ยันต่ำกว่า 4.2 บาทต่อหน่วย แต่อาจได้ต่ำกว่านี้ พร้อมเสนอของบกลางฯ 1.9 พันล้าน อุดหนุนกลุ่มใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย จ่าย 3.99 บาทต่อหน่วยเท่าเดิม เผยหนี้ กฟผ.มีการตั้งกรรมการเข้าไปดูแลแล้ว
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่าในสัปดาห์หน้ากระทรวงพลังงานจะนำเอามติของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เข้าสู่ที่ประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังได้เป็นประธานการประชุม กพช.เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยในเรื่องของค่าไฟฟ้างวดใหม่ในเดือน ม.ค.-เม.ย.2567 นั้นที่ประชุมรับทราบตัวเลขนั้นจะพยายามไม่เกิน 4.2 บาทต่อหน่วย ส่วนตัวเลขที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงคือ 4.1 บาทต่อหน่วยนั้นก็เป็นตัวเลขที่อยู่ระหว่างการทำงานหวังว่าจะทำให้ตัวเลขค่าไฟฟ้านั้นลดลงมามากที่สุด
สำหรับครัวเรือนเปราะบางที่ใช้ไฟฟาไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน นั้นจะให้ใช้ไฟฟ้าในราคาเดิมคือ 3.99 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะครอบคลุม 17 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศโดยในส่วนนี้กระทรวงพลังงานจะเสนอของบประมาณ จากงบกลางรายสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นวงเงินประมาณ 1.9 พันล้านบาท ในการจ่ายอุดหนุน ซึ่งถือว่าเป็นงบประมาณที่ไม่มากนัก โดยจะพยายามทำรายละเอียดทั้งหมดของเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จแล้วจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า
เมื่อถามว่ากรณีข่าวที่นายกรัฐมนตรีบอกว่ามีสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาล็อบบี้เกี่ยวกับค่าไฟนั้น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานตอบว่าท่านนายกฯท่านเปรยๆขึ้นมาเฉยๆ
“ต้องขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ท่านได้ยืนยันจุดยืน ถ้าไม่ได้ท่านเป็นหลักในเรื่องนี้แล้วร่วมมือกันหลายๆฝ่ายที่ร่วมมือกัน กระทรวงพลังงานกระทรวงเดียวไม่พอต้องร่วมมือกันหลายๆหน่วยงาน”
เมื่อถามว่าได้พูดคุยหารือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) หรือไม่ เพราะว่า กฟผ.เองต้องแบกรับภาระหนี้อยู่ 1.3 แสนล้านบาท นายพีระพันธุ์กล่าวว่าหนี้สินในส่วนนี้นั้นมีมานานแล้ว และตนเองก็พยายามทำให้ในตอนนี้คือการตั้งคณะกรรมการมาดูแล และช่วยแก้ไขปัญหา ไปช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย รายได้ต่างๆที่มีจะบริหารอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะได้ค่าไฟฟ้าที่ 4.1 บาทต่อหน่วยหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์กล่าวว่าก็พยายามจะทำให้ต่ำลงมาแต่ใจจริงแล้วอยากให้ต่ำกว่านี้แต่ว่าไม่ใมช่เฉพาะเรื่องของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (ก.ก.พ.) กฟผ. หรือกระทรวงพลังงาน หรือว่าเรื่องของเชื้อเพลิงเท่านั้น มีเรื่องที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ซึ่งก็มีการเสนอให้ปรับโครงสร้าง ซึ่งตนดูแล้วว่าปรับโครงสร้างไม่พอต้องรื้อทั้งระบบ ซึ่งที่ทำงานมา3 เดือนได้มาขนาดนี้ถือว่าดีมากแล้วซึ่งส่วนที่เหลือนั้นก็พยายามทำงานอยู่
