ทำไม ‘ศรีนครินทร์’ จึงเป็นทำเลทองที่ ‘ยักษ์ธุรกิจ’ รุมยึดหัวหาด
ค้าปลีก-มิกซ์ยูส-บ้านหรู-รถไฟฟ้าฯ บุกยึด “ศรีนครินทร์” จากพื้นที่ห่างไกลสู่ทำเลทอง-ดันภาคธุรกิจคึกคัก หลัง “เซ็นทรัล” ส่ง “Go! Wholesale” ชิงเค้กก้อนยักษ์จาก “Makro-Lotus’s” จับตาต้นปี 67 ดีเดย์ “Bangkok Mall” ศูนย์การค้าใหญ่สุดในไทย “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ขอชักธงรบด้วย!
Key Points:
- บรรดา “บิ๊กรีเทล” ทั้งกลุ่มเซ็นทรัล-ซีพี-เดอะมอลล์ ต่างตบเท้าเข้าชิงส่วนแบ่งตลาดบนพื้นที่ “ศรีนครินทร์” ทำเลย่านกรุงเทพฯ ตะวันออกที่เคยเป็นพื้นที่ห่างไกล ปัจจุบันรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ขึ้นแท่นหมุดหมายย่านการค้าแห่งใหม่
- สมรภูมิค้าส่งบนถนนศรีนครินทร์กลายเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่ทุกคนหมายปอง เพราะมีกำลังซื้อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากพื้นที่เกษตรในอดีตสู่ย่านชุมชนเมือง ตั้งแต่ชนชั้นกลางไปจนถึงบ้านหรูหลักร้อยล้าน
- “ศรีนครินทร์” มีศูนย์การค้า ค้าปลีก ค้าส่ง ร้านเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว-เหลือง รวมถึงเมกะโปรเจกต์ “Bangkok Mall” ห้างที่ใหญ่ที่สุดในไทยด้วยเนื้อที่ 1.2 ล้านตารางเมตร ปักธงเดสทิเนชันระดับโลก
เคาะระฆังประเดิมสาขาแรกอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 สำหรับ “โก โฮลเซลล์” (Go! Wholesale) ห้างค้าส่งสาขาแรกภายใต้การบริหารของ “เซ็นทรัล รีเทล” ที่ได้ “สุชาดา อิทธิจารุกุล” อดีตแม่ทัพคนสำคัญที่เคยปลุกปั้น “แม็คโคร” (Makro) มาร่วม 27 ปี ขึ้นกุมบังเหียนให้กับจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของ “กลุ่มเซ็นทรัล” หลังประสบความสำเร็จในสนามค้าปลีก-ศูนย์การค้าจนเป็นที่ประจักษ์
“โก โฮลเซลล์” เลือกพื้นที่บนถนน “ศรีนครินทร์” เป็นสาขาแรกด้วยเหตุผลเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคแถบ จ.สมุทรปราการ “สุชาดา” มองว่า ทำเลดังกล่าวมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ ความหนาแน่นของประชากรรวมกันมากถึง 7 แสนครัวเรือน หรือประมาณ 1.4 ล้านคน นับเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ภาคธุรกิจต่างเข้ามาจับจองกันมากมาย ซึ่งไม่ใช่เพียง “กลุ่มเซ็นทรัล” เท่านั้นที่เห็น “โอกาส” แต่ก่อนหน้านี้ยังมี “แม็คโคร” “โลตัส” และ “บิ๊กซี” ยืนประจันหน้ารอต้อนรับน้องใหม่ด้วยการอัดแคมเปญ-โปรโมชันอย่างดุเดือด ทำให้ “ศรีนครินทร์” ขึ้นแท่นจุดยุทธศาสตร์ของ “บิ๊กคอร์ป” ทันที
-ด้านหน้า “Go! Wholesale” สาขาศรีนครินทร์-
- “เซ็นทรัล” ร่วมชิงเค้ก ด้าน “ซีพี” รับน้องใหม่-สู้ศึกตลาดอาหารย่านศรีนครินทร์
“โก โฮลเซลล์” ปักธง “King of Fresh” ตั้งเป้าเป็นศูนย์ค้าส่งอาหารสดอันดับ 1 โดดเด่นด้วยแผนกของสดที่ “สุชาดา” ระบุว่า จุดเด่นที่หาไม่ได้ที่ไหนนอกจาก “โก โฮเซลล์” คือแผนกของสดที่มีทุกอย่าง โดยเฉพาะโซนอาหารทะเลอย่างปูยักษ์ กุ้งมังกรเจ็ดสี แคนาเดียนล็อบสเตอร์ โซนแซลมอนที่มีแซลมอนหลากชนิดให้เลือก รวมถึงปลาเฉพาะถิ่นอย่างปลาสุจิน ปลาใบปอกลม ปลาสีกุน โดย “ยุทธภูมิ เจริญสุข” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายและปฏิบัติการ “โก โฮลเซลล์” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า เท่าที่สำรวจในตลาดอาหาร ณ ตอนนี้ ยังไม่มีที่ไหนมีของสดครบเท่าที่นี่ โดยเฉพาะปลาเฉพาะถิ่นและปลาแซลมอนที่มีให้เลือกมากที่สุด
ด้วยเป้าหมายสูงสุดที่ต้องการชิงเค้กตลาดอาหารมูลค่า “2 แสนล้านบาท” นอกจากยกทะเล-ของสดทุกชนิดขึ้นมาไว้บนบก “โก โฮลเซลล์” ยังชูบริการตัดแต่งของสดตั้งแต่เนื้อปลาไปจนถึงเนื้อวัว ส่งพนักงานไปอบรมสำหรับบริการตัดแต่งเนื้อโดยเฉพาะซึ่งเป็นเซอร์วิสที่ “คู่แข่ง” ยังมีไม่ครบเท่าที่นี่ เกมของ “โก โฮลเซลล์” ภายใต้การนำของแม่ทัพข้ามห้วยคนนี้จึงไม่ได้เลือกแข่งบน “Price War” แต่เป็นการบริการที่ทำให้ผู้บริโภคพึงพอใจมากที่สุด สุชาดาเผยว่า หากกดราคาให้ต่ำสุดในตลาดคงอยู่ไม่ได้ ซัพพลายเออร์ และทุกคนใน “Value Chain” ก็คงแย่เหมือนกัน ห้างค้าส่งหลังนี้ลงทุนไป 375 ล้าน ไม่มีกำไรคงอยู่ไม่ได้
-สุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทยและต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด-
อย่างไรก็ตาม 27 ตุลาคม 2566 ไม่ได้มีเพียง “โก โฮลเซลล์” ที่เปิดทำการเป็นวันแรก แต่รุ่นพี่ในย่านศรีนครินทร์อย่าง “แม็คโคร” และ “โลตัส” ต่างลุยปรับภูมิทัศน์ครั้งใหญ่พร้อมเผยโฉมในวันเดียวกันด้วย ด้าน “แม็คโคร” ชูจุดเด่นของสด-สินค้าอุปโภคบริโภค 30,000 รายการ เบียด “โก โฮลเซลล์” ที่ตอกย้ำสินค้า 20,000 รายการตลอดการแถลง ทั้งยังเลือกใช้ “Presenter Marketing” ดึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” สมทบ พร้อมเลี้ยงกระแสต่อเนื่องดึง “ต้าห์อู๋-ออฟโรด” นักแสดงซีรีส์วายเพิ่มเอนเกจเมนต์ ดันแฮชแท็ก #แม็คโครศรีนครินทร์ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์
ฝั่ง “โลตัส” หนึ่งในค้าปลีกใต้ร่ม “เครือซีพี” ไม่น้อยหน้า เพิ่มไลน์สินค้าอาหารสดอีก 6,000 รายการ เน้นโซนซูเปอร์มาร์เก็ต ผัก ผลไม้ อาหารทะเลสดเป็นหลัก ทั้งยังเพิ่มแบรนด์เครื่องดื่ม-ขนมพร้อมทานอย่าง “มี่เสวี่ย” (MIXUE) “สตาร์บัคส์” (Starbucks) และ “เบค อะ วิช” (Bake a Wish) ตอกย้ำทิศทางสมรภูมิค้าปลีกย่านศรีนครินทร์ว่า หลังจากนี้ทุกเจ้าพร้อมชักธงรบสู้ศึกตลาดอาหารแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
- หมู่บ้านหรู รถไฟฟ้าทั่วถึง ดัน “ศรีนครินทร์” ขึ้นแท่น “ทำเลทอง”
เหตุผลที่ทำให้ “ยักษ์รีเทล” พาเหรดยึดหัวหาดย่านศรีนครินทร์นั้นเริ่มต้นจากการเข้าไปพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร เปลี่ยนพื้นที่เกษตร-แปลงนาให้มีกลิ่นไอความเป็นชุมชนมากขึ้น โดยถนนศรีนครินทร์มีเริ่มตั้งแต่สามแยกบางกะปิไปบรรจบกับถนนสุขุมวิทบริเวณสามแยกการไฟฟ้า จ.สมุทรปราการ รวมระยะทางทั้งหมด 20 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ 12.5 กิโลเมตร และ จ.สมุทรปราการอีก 8 กิโลเมตรโดยประมาณ
ก่อนหน้านี้ ย่าน “ศรีนครินทร์” ถึงเส้น “เทพรัตน” ถูกมองว่า เป็นพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ห่างไกลความเจริญ เดินทางยาก ทำให้ห้างสรรพสินค้ารวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กระจุกตัวอยู่เพียงพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในเท่านั้น ทว่าเมื่อความเป็นเมืองขยายตัวมากขึ้น พื้นที่ชั้นนอกจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับนักพัฒนาที่ดิน โดยก่อนหน้านี้ย่านศรีนครินทร์เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม-โรงงานฐานการผลิตมากมาย รวมถึงสถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สถาบันบัณฑิตยพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ “นิด้า” ไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติก็ตั้งอยู่ในย่านนี้ด้วย
นอกจากนี้ “ถนนศรีนครินทร์” ยังเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ตัดกับถนนหลายเส้นตั้งแต่ถนนเสรีไทย รามคำแหง พระราม 9 พัฒนาการ สามารถทะลุออกสุขุมวิทผ่านอ่อนนุชและอุดมสุข ตัดกับถนนเทพรัตน และวางตัวยาวเข้าไปยังเขต จ.สมุทรปราการ เฉพาะส่วนของรถยนต์ส่วนบุคคลย่านนี้นับเป็นพื้นที่ที่เดินทางไปมาได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้ทศวรรษที่ผ่านบรรดานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างเข้ามาปักหมุดพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ในลักษณะหมู่บ้านจัดสรรโดยเน้นบ้านแนวราบเป็นหลัก
หลังจากหมู่บ้านจัดสรรหนาแน่นขึ้นก็เริ่มมีการลงทุนจากภาคส่วนอื่นๆ ตามมามากมาย อาทิ ศูนย์การค้า “เซ็นทรัล บางนา” และ “เมกะ บางนา” ที่มาพร้อมกับความมหึมาบนเนื้อที่ขนาด 400,000 ตารางเมตร พ่วงด้วย “อิเกีย บางนา” สาขาแรกในไทยเมื่อปี 2554 ทั้งยังมี “ซีคอนสแควร์” และ “พาราไดซ์ พาร์ค” สร้างทราฟิกให้ย่านศรีนครินทร์ตื่นจากหลับใหล กลายเป็น “เดสทิเนชัน” แห่งใหม่ที่ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงกรุงเทพฯ ชั้นในอีกต่อไป
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้หลังจากนี้การลงทุนในย่านศรีนครินทร์จะคราคร่ำไปด้วยแสงสีและผู้คนมากยิ่งขึ้น คือการมาถึงของระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทส่วนต่อขยาย (แบริ่ง-เคหะ) มีสถานีรถไฟฟ้าศรีนครินทร์ และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มาเชื่อมต่อกับสถานีสำโรง (สายสุขุมวิท) โดยสายสีเหลืองมีเส้นทางเดินรถผ่านถนน 4 เส้นหลัก ได้แก่ รัชดาภิเษก ลาดพร้าว ศรีนครินทร์ และเทพารักษ์ เป็นอันครบองค์ประกอบย่านเมืองและการค้าที่จะเข้ามาช่วยรองรับการเติบโตให้กับทำเลทอง-น่าลงทุนแห่งนี้มากขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ยังมีโซนศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา ที่ขณะนี้ได้กลายเป็นทำเลบ้านหรูมูลค่าเริ่มต้นตั้งแต่ 20 ไปจนถึง 100 ล้านบาท เมื่อระบบขนส่งมวลชน ย่านที่พัก ศูนย์การค้า สถานศึกษา โครงสร้างพื้นฐานเดินทางมาถึง สมรภูมิของ “ยักษ์ธุรกิจ” ก็ยิ่งดุเดือดมากขึ้น นอกจากดีพาร์ตเมนต์สโตร์ คอนวีเนียนสโตร์ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ดั้งเดิมที่มีอยู่ตอนนี้ ยังมีผู้ท้าชิงอย่าง “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ที่จะเข้ามาเขย่าวงการค้าปลีกในฐานะห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในไทยอีกด้วย
- จับตา “Bangkok Mall” เขย่าค้าปลีกศรีนครินทร์ถึงจุดเดือดอีกระลอก
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่จะเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งค้าปลีกย่านศรีนครินทร์ในอนาคตอันใกล้นี้ คือโปรเจกต์ “แบงค็อก มอลล์” (Bangkok Mall) ตั้งอยู่บนถนนเทพรัตน ตรงข้ามศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค มีจุดเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าบางนา โดยโครงการนี้ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 1.2 ล้านตารางเมตร หากการก่อสร้างแล้วเสร็จ “แบงค็อก มอลล์” จะได้ชื่อว่า เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในไทยและในอาเซียนทันที
บนเนื้อที่ใช้สอยขนาดใหญ่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงห้างค้าปลีกเท่านั้นแต่ยังประกอบไปด้วยโรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์แสดงสินค้า คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน รวมทั้ง “แบงค็อก อารีนา” โซนจัดแสดงคอนเสิร์ตจากความตั้งใจของ “ศุภลักษณ์ อัมพุช” แม่ทัพใหญ่เครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ต้องการทำในสิ่งที่ยังไม่มีใครทำมาก่อน โดยจะมีกำหนดการเปิดคร่าวๆ ช่วงต้นปี 2567 เป็นต้นไป
นับจากนี้เราคงได้เห็นการต่อสู้แบบ “หมัดต่อหมัด” ระหว่าง “ยักษ์รีเทล” ที่ผลัดกันงัดไม้เด็ดในแบบที่ตัวเองถนัดขึ้นมาท้าชิง ส่วนผู้ที่ได้ประโยชน์ในเรื่องนี้มากที่สุด ก็คือ “ผู้บริโภค” ที่คงจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากตลาดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
อ้างอิง: Ananda, Bangkokbiznews 1, Bangkokbiznews 2, Bangkokbiznews 3, Bangkokbiznews 4, DD Property, Home, MGR Online, Property Scout