ศึกสามก๊กค้าส่ง มันส์หยด! ‘แม็คโคร-โก โฮลเซลล์-บิ๊กซี ฟู้ด เซอร์วิส’

วันที่ 27 ตุลาคม 2566 วันแรกที่ “โก โฮลเซลล์” ของตระกูลจิราธิวัฒน์ เปิดให้บริการ นำร่องย่าน “ศรีนครินทร์” ซึ่งเหยียบจมูกเบอร์ 1 อย่าง “แม็คโคร” ที่ห่างกันไม่กี่กิโลเมตร

ทว่า สนามรบค้าส่ง ไม่ได้เดือดแค่ 2 เจ้าสัว ตระกูลใหญ่ แต่มี 3 เจ้าสัว สู้ศึกสามก๊กค้าส่ง ประกอบด้วย “เจ้าสัวธนินท์ เจียรนนท์” เจ้าของแม็คโคร “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” เจ้าของ “บิ๊กซี ฟู้ด เพลส” และ “เจ้าสัวทศ จิราธิวัฒน์” น้องใหม่จาก “โก โฮลเซลล์”

• แม็คโคร จัดเต็มรับน้อง “โก โฮลเซลล์”

แค่วันแรกก็สู้กันมันส์หยด! เพราะ “แม็คโคร” เดินเกม “รับน้องใหม่” ทุกกระเบียดนิ้ว ตั้งแต่ปรับโฉม “แม็คโคร สาขาศรีนครินทร์” ให้มีรูปลักษณ์และบรรยากาศที่ทันสมัย พร้อมชูจุดเด่นแหล่งรวมอาหารสดที่มีสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่า 30,000 รายการ(SKUs) จากทั่วทุกมุมโลก ตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการและลูกค้าทุกกลุ่ม

แม็คโครขอรับน้องใหม่ด้วยกิจกรรมต่างๆ พร้อมสินค้าราคาพิเศษ

ยิ่งกว่านั้นยังย้ำความเป็นห้างค้าปลีกอยู่ใต้แนวคิด “โตมาด้วยกัน โตไปด้วยกัน” การทำตลาดยังจัดมินิคอนเสิร์ตและกิจกรรม Meet & Greet กับพระเอกดัง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ดึงกลุ่มเป้าหมาย ไม่แค่วันเดียว แต่กิจกรรมได้จัดยาวถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้ เพื่อไม่ให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหนีไปห้างใหม่บ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง “โก โฮลเซลล์”

ระหว่างทางน้องใหม่อย่าง “โก โฮลเซลล์” ตระเตรียมการเปิดตัว หาก “แม็คโคร” ถือว่าคึกคักในการทำตลาดอย่างมาก พยายามบอกเล่าการ “พลิกกระบวนท่า” การปรับโฉมห้างร้านใหม่ การรวมพลังกับ “โลตัส” ปั้นโมเดล “ Hybrid Wholesale” ที่สาขาสมุทรปราการ รวบ “แม็คโคร-โลตัส มอลล์” อยู่ในพื้นที่เดียวกันเป็นครั้งแรก! หวังพลิกประวัตศาสตร์ค้าส่งของเมืองไทย เป็นต้น

เรียกว่า “ผู้นำ” ทำทุกอย่างเพื่อรักษา “บัลลังก์เบอร์ 1” ทำให้ “มวยรอง” ที่กำลังวิ่งตาม ต้องแก้โจทย์ หาทางไล่ล่าขุมทรัพย์ได้ “ยากยิ่งขึ้น”

• เซ็นทรัล เบอร์ 1 ค้าปลีก มาทีหลังค้าส่ง ฮึดสู้!

กว่า 7 ทศวรรษ คือการเติบโตของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกเมืองไทยภายใต้ “ตระกูลจิราธิวัฒน์” เจ้าของ “อาณาจักรเซ็นทรัล” ที่พัฒนาศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า แม้กระทั่งห้างค้าปลีกสมัยใหม่(โมเดิร์นเทรด) ทำซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ เรียกว่ารุกตลาดมาแล้วทุกรูปแบบ(ฟอร์แมท)

การมาทีหลังในการลุยห้างค้าปลีกรูปแบบศูนย์ค้าส่ง อาจจะช้า แต่เป็นจุดขยายความยิ่งใหญ่ให้เซ็นทรัลครองความเป็นเจ้าค้าปลีกได้อย่างแข็งแกร่ง

สู้กันด้วย(สี)แดง(แรง)มา ก็แดง(แรง)กลับ

“โก โฮลเซลล์” กำลังสร้างความฮือฮาให้ตลาด เพราะนี่เป็นการ “ท้าชน” เจ้าสัว ทุนใหญ่ ยื้อแย่งขุมทรัพย์มหาศาล “ล้านล้านบาท”

หากมองความพยายามของกลุ่มเซ็นทรัล ในการรุกค้าปลีกเพื่อขายส่งสินค้าล็อต หรือไซส์ใหญ่ ก่อนหน้านี้ต้องเป็น “ท็อปส์ คลับ” ที่นำโมเดลจาก “คอสโก”(Costso Wholesale) จากสหรัฐฯ มาชิมลาง โยนหินถามทาง แต่เพียงปีเดียวก็ไม่ได้ไปต่อ เพราะรูปแบบร้าน ขนาดสินค้า และ “ราคา” ไม่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

การพลิกกระบวนท่าปั้น “โก โฮลเซลล์” จึงเกิดขึ้น

ย้อนไปตอนเปิด “ท็อปส์ คลับ” จะเห็นว่า “สุชาดา อิทธิจารุกุล” ได้เริ่มเข้ามาร่วมงานกับกลุ่มเซ็นทรัลเรียบแล้ว

สูตรสู้! ของกลุ่มเซ็นทรัล คือการดึงกระบี่มือ1 ค้าปลีกแบบขายสินค้าชำระเงินสด(Cash and Carry)อย่าง “สุชาดา” มาทำงาน ซึ่งวงการรู้กันดีว่าเธอคืออดีตแม่ทัพ “แม็คโคร” และทำงานให้บริษัทแบบ “ถวายหัว”

ได้มือดีมาแล้ว “เงินทุน” ที่ดิน ทำเลทองของเซ็นทรัลถือว่ามีอยู่แล้ว เป็นแต้มต่อในการสู้รบปรบมือได้ ที่เหลือคือ “พันธมิตร” ที่จะป้อนสินค้ามาให้ “โก โฮลเซลล์” เพื่อขายให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายต่อไป

• โก โฮลเซลล์ สาขาที่ 1 มีอะไรเด็ด

สำหรับศูนย์ค้าส่ง โก โฮลเซลล์ สาขาแรก ยึดทำเลศรีนครินทร์ (ติดไทวัสดุ ค้าปลีกอีกโมเดลของกลุ่มเซ็นทรัล) ทุ่มลงทุน 375 ล้านบาท ขนาดพื้นที่กว่า 7,000 ตร.ม. มีสินค้าขายกว่า 20,000 รายการ เน้นกลุ่มอาหารมากสุดสัดส่วน 40%

สินค้านำมาจากทั่วทุกมุมโลก เช่น อาหารทะเล ที่มาจากอ่าวไทย ทะเลอันดามัน ยังนำเข้าตรงจากต่างประเทศด้วย เช่น ล็อบสเตอร์จากแคนาดา หอยจากฝรั่งเศส พร้อมทั้งวางเป้าหมายสู่การเป็นเจ้าแห่งของสดหรือ “คิง ออฟ เฟรช”

ขายสินค้าอาหารสดและแห้งแล้ว อีกหนึ่งอาวุธ คือการทำ “โก โฮลเซลล์” ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ผู้ประกอบการ ต่อยอดการเรียนรู้ทักษะ ต่อยอดทางธุรกิจ มีหลักสูตรหมุนเวียนตลอดปี หลักสูตรที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Center) เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ

สามก๊กค้าส่งภายใต้ 3 เจ้าสัวเมืองไทย

กลยุทธ์ด้าน “ราคาสินค้า” ชูความคุ้มค่า เพื่อให้ “คู่ค้า” หรือบรรดาซัพพลายเออร์ และลูกค้าทั้งหมด เติบโตไปด้วยกัน ส่วนกลุ่มเป้าหมายของ “โก โฮลเซลล์” ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ประกอบการร้านอาหารกลุ่มโฮเรก้า(HoReCa) คือ โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง ตลอดจนผู้ประกอบการสตรีทฟู้ด ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาช้อปซื้อสินค้าต้องเป็น “สมาชิกของ โก โฮลเซลล์” ซึ่งจุดเด่นข้อนี้คือ คะแนนในการซื้อสินค้า สามารถรวมสะสมไปในคะแนนของ เดอะวัน ที่เป็นของกลุ่มเซ็นทรัลด้วย

ตามแผน 5 ปีกลุ่มเซ็นทรัลจะใช้เงินทุนราว 20,000 ล้านบาท เปิด โก โฮลเซลล์ ให้ได้ 50 สาขา ระยะยาวคือเปิดให้ครบ 77 จังหวัดทั่วไทย

อย่างไรก็ตาม การเปิดร้าน “โก โฮลเซลล์” วันแรก พร้อมเจอพี่ใหญ่ “แม็คโคร” รับน้อง มีอีเวนต์ดึงคนเข้าร้าน ทำให้วันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ย่านศรีนครินทร์ เชื่อมบางน-ตราด การจราจรหนาแน่นตลอดวัน ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากการแข่งขัน แถมรถติดพอหอมปากหอมคอด้วย

• “เจ้าสัวเจริญ” จะขยับตัวติดอาวุธสู้อย่างไร

“บิ๊กซี ฟู๊ด เซอร์วิส” คือค้าส่ง-ค้าปลีกครบวงจร ของกลุ่มบิ๊กซี รีเทล (BRC) อาณาจักร "ตระกูลสิริวัฒนภักดี” ซึ่งการวางหมากรบสู้เต็มสูบ เฉพาะปี 2566 บริษัทจะเปิดร้านให้ครบ 8 สาขา ครอบคลุมทำเลทองในเขต กทม. และปริมณฑล

แบรนด์ใครจะแดงก็แดงไป บิ๊กซี ฟู้ด เซอร์วิส เขียวสดใสสะอาดตา

ด้านจุดขายที่จะมานำมาต่อกร คือการให้บริการที่ “เหนือกว่า”แบบช้อปครบจบที่เดียว หรือ One-Stop Shopping อำนวยความสะดวกสบาย และมีบริการพิเศษจัดเตรียมวัตถุดิบพร้อมใช้ทั้ง คัด หั่น สับ พร้อมจัดส่งสินค้าฟรี (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) เพื่อช่วยผู้ประกอบการประหยัดเวลา ลดต้นทุน และ “เพิ่มกำไร” ในการค้าขาย ทำธุรกิจ เพราะลูกค้าของ “บิ๊กซี ฟู้ด เซอร์วิส” ก็คือ HoReCa โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจจัดเลี้ยงหรือ บริษัท ห้างร้านต่างๆ

ที่สำคัญคือครอบคลุมบรรดา “ร้านโชห่วย” หัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ เพราะร้านเหล่านี้มีมากถึง 850,000 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากบิ๊กซี ฟู้ด เซอร์วิส ที่เน้นขายอาหารสดและอาหารแห้งแล้ว รูปแบบค้าส่งของกลุ่มยังมี “บิ๊กซี ดีโป้” ด้วย โดยมุ่งเจาะ “เมืองรอง” เพื่อให้ร้านค้าทั่วไทย มาซื้อสินค้านำไปจำหน่ายอีกทอดหนึ่งนั่นเอง

จะเห็นว่าแต่ละรายมีกระบวนท่า ยุทธการรบทางการค้าที่แตกต่างกัน แต่ที่เหมือนมีอย่างเดียวคือ “แย่งขุมทรัพย์ค้าส่ง 3 ล้านล้านบาท” นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการแข่งขันดุเดือด! หากมองจำนวน “สาขา” ผู้มาก่อนกาลอย่าง “แม็คโคร” มีร้านนำโด่ง 154 สาขาทั่วไทย แม้ “บิ๊กซี ฟู้ด เซอร์วิส” ออกสตาร์ทแล้ว แต่สิ้นปีจะมีแค่ 6 สาขา ยิ่งมาดูน้องใหม่ “โก โฮลเซลล์” เพิ่งออกสตาร์ทสาขาที่ 1 ซึ่งยังดูรอวัดผลลัพธ์ด้วยว่าจะ “รอด” หรือ “ร่วง” จนต้องแก้เกมกันอีกรอบ เหมือนท็อปส์ คลับ ที่ไม่ตอบโจทย์คนไทย

• “สุชาดา” กระบี่มือ 1 ค้าปลีก Cash&Carry

กรุงเทพธุรกิจเคยสัมภาษณ์ “สุชาดา” ถึงเส้นทางการทำงานในสังเวียนค้าปลีกค้าส่ง จนเข้าสู่การเป็นแม่ทัพคนสำคัญของ “แม็คโคร” เธอเริ่มต้นทำธุรกิจ การค้าเมื่อปี 2532

“ปี 2532 พี่เป็นคนขายสินค้าให้แม็คโคร ตอนนั้นอยู่บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) ขายปากกาเชฟเฟอร์” จุดเริ่มความสัมพันธ์กับแม็คโคร ซึ่งเป็นค้าปลีกต่างชาติ(สัญชาติดัชต์ “เนเธอแลนด์” บริษัท เอสเอชวี โฮลดิ้ง)ยุคนั้นเข้ามาบุกเบิกในไทยในปี 2531

สุชาดา ทุ่มเททำงาน สร้างการเติบโตให้แม็คโครอย่างมาก กระทั่งการเปลี่ยนมือ “แม็คโคร” เข้ามาอยู่ในอ้อมอก เจ้าสัวธนินท์ ทำงานดีจนได้รับคำยกย่องเป็น “หญิงแกร่ง” ซึ่งตัวเธอเอย ยังได้ขอบคุณคำชมจากแม่ทัพใหญ่ว่า “ต้องขอบคุณ (เจ้าสัวธนินท์) ที่ให้เกียรติขนาดนั้น” เนื่องจากตลอดระยะเวลาของการขับเคลื่อนธุรกิจ เธอและพนักงานทุกคนทำงานชนิดที่เรียกว่าไม่นึกถึงตัวเอง

“พวกพี่ทำงานกันแบบถวายหัวเลยนะ !” ซึ่งเป็นการทำงานหนักมาก ที่มาพร้อมความสุข ทำให้พนักงานผูกพันกับแม็คโคร และไม่ค่อยโยกย้ายเปลี่ยนงานกันนัก

อย่างไรก็ตาม การพลิกบทบาทมาเป็นแม่ทัพให้ โก โฮลเซลล์ของ “สุชาดา” ครั้งนี้นับเป็น “คู่ปรับ” แม็คโคร

ความท้าทายใหญ่ ไม่ใช่แค่การสร้างยอดขายให้โก โฮลเซลล์ เติบโตระยะสั้น แต่การยืนระยะยาวต่างหากที่จะพิสูจน์ฝีมือครั้งใหม่นี้ เพราะ “แต้มต่อ” ของ แม็คโคร ที่ใครยากจะสู้ คือการมี “ซัพพลายเออร์” ป้อนอาหารสดแห้งให้ โดยเฉพาะ “อาหารสด” ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี มีกิจการ “ต้นน้ำ” อย่าง “ซีพีเอฟ” สามารถป้อนสินค้าสารพัดให้ ความครบเครื่องกิจการ “ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” จึงเป็น “อำนาจทางการค้า” ที่ทรงพลังมาก