การรถไฟฯชี้ที่ดินเขากระโดงต้องรอคำตัดสินศาลปกครองฯ ยันไม่ฟ้องประชาชน

การรถไฟฯชี้ที่ดินเขากระโดงต้องรอคำตัดสินศาลปกครองฯ ยันไม่ฟ้องประชาชน

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย แถลงแจงปมที่ดินเขากระโดง บุรีรัมย์ ชี้ยื่นศาลปกครองกลางชี้ขาดปมที่ดิน 5 พันไร่ ให้กรมที่ดินเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ก่อนจะดำเนินการไกล่เกลี่ย-ฟ้องแพ่ง ระบุการรถไฟไม่ขับไล่ประชาชนเองไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือนักการเมือง

วันนี้ (12 เม.ย.)นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แถลงข่าวเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่าเรื่องดังกล่าว รฟท.ได้ยื่นเรื่องให้ศาลปกครองกลาง เป็นผู้ชี้ขาดสิทธิ์ความเป็นเจ้าของที่ดินของ รฟท.ทั้ง 5,083 ไร่ ซึ่งที่ดินนี่ รฟท.ได้รับมาตามพระราชโองการและมีหลักฐานยืนยันได้ตามเอกสารทางประวัติศาสตร์ ซึ่งคาดว่าขั้นตอนของศาลปกครองสูงสุดจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ในการไต่สวนคู่กรณีคือ รฟท.ในฐานะเจ้าของที่ดิน และกรมที่ดินที่เป็นหน่วยงานที่ออกเอกสารสิทธิ์ ซึ่ง รฟท.ได้ยื่นร้องค่าเสียหายเป็นวงเงินประมาณ 700 ล้านบาทกับกรมที่ดินด้วย 

 

อย่างไรก็ตามการดำเนินการของ รฟท.ได้ทำตามหลักการข้อกฎหมาย จริยธรรม และธรรมาภิบาล คือจะไม่ไปฟ้องร้องประชาชนที่อยู่ที่เขากระโดงที่มีเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากในบริเวณดังกล่าวสำรวจพบมีผู้มีเอกสารสิทธิ์กว่า 900 ครัวเรือน การรถไฟจึงไม่สามารถไปฟ้องร้องโดยตรงกับผู้ที่ถือเอกสารสิทธิ์อย่างถูกต้องได้ 

 

ทั้งนี้ตามขั้นตอนต้องให้ศาลปกครองชี้กรรมสิทธิ์ที่ดินว่าเป็นที่ของการรถไฟอย่างถูกต้อง จากนั้นตามแนวทางคำตัดสินของ ปปช.คือให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนกรรมสิทธิ์ แลัว รฟท.จะดำเนินการทางแพ่ง เพราะผู้ที่อยู่จะเปลี่ยนสถานะเป็นผู้บุกรุก คือไปดำเนินการฟ้องร้อง แต่ก็สามารถเจรจากับผู้ที่อยู่ให้มาเช่าที่ดินได้ เพื่อเป็นรายได้ให้กับการรถไฟฯอีกทาง และไม่เป็นการไปละลานประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่มานาน 

"ผมจะไม่ไปฟ้องร้อง ระรานประชาชน ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไปหรือเป็นรัฐมนตรีเพราะต้องมองในหลายมิติ เพราะบางคนที่อยู่ในที่ดินเขากระโดงเขาอยู่มานานและมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง ยังไม่ได้ถูกฟ้องเพิกถอน มีการทำประโยชน์ทางเศรษฐกิจในพื้นที่เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของบุรีรัมย์ เช่นกัน" 

สำหรับเรื่องการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดิน ผู้ว่า รฟท.ระบุว่าตอนนี้การซื้อขายก็ทำกันอยู่บนสิทธิ์ที่มีโฉนดรองรับ รฟท.ไม่สามารถไปห้ามการซื้อขายเปลี่ยนมือ เพราะตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งศาลชี้มาว่าที่ดินเป็นของ รฟท.อย่างถูกต้อง หากมีการชี้มาแล้ว รฟท.ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป