พักตัว - หุ้นรายงานพิเศษ BANPU (14 มกราคม 2565)

พักตัว - หุ้นรายงานพิเศษ BANPU (14 มกราคม 2565)

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากช่วงก่อนหน้าดัชนีได้ปรับตัวขึ้นมา ทำให้ดัชนีมีการพักตัว หุ้นกลุ่มธนาคารและการเงิน ช่วยหนุนดัชนี เช่น BAY, SCB, BBL และ SAWAD

ส่วนหุ้นขนาดเล็กปรับตัวได้ดีกว่า โดยดัชนี sSET และ MAI บวกราว 1% ขณะที่ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,680.02 จุด +1.52 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 82,469 ลบ. ต่างชาติ +1,144.03 ลบ. TFEX +8,538 สัญญา ตราสารหนี้ +5,309.45 ลบ.
 

ปัจจัยบวก    

+ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต +9.7%YoY ในเดือนธ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.8% หลังจากดีดตัวขึ้น 9.6% ในเดือนพ.ย.
+ WHOระบุว่าโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้น้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่ยังคงเป็น ไวรัสอันตรายโดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
+ IMF เปิดเผยว่า เงินเฟ้อในสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในไตรมาส 2/2565
+ กบร.ขยายเวลาช่วยสายการบินออกไปอีก 3 เดือน ลดค่าขึ้นลง-บริการที่เก็บเครื่องบิน 50% ขยายเวลาชำระหนี้ ลดค่าเช่าทุกกิจกรรม หลังโอมิครอนระบาดหนัก ผู้โดยสารชะลอตัว
+ หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค.64 ฟื้นสูงสุดรอบ 9 เดือน ส่วนเดือนม.ค.65 มีแนวโน้มปรับลดลง จากปัญหาการแพร่ระบาดโอมิครอนและหมูราคาแพง
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 8,158 ราย ATK 2,760 ราย มีผู้เสียชีวิต 15 ราย รักษาหาย 3,942 ราย

 

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 176.70 จุด -0.49% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ และมีแรงกดดันจากการที่จนท.หลายคนของเฟด ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด แสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 52 เซนต์ -0.6% ปิดที่ 82.12 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วัน และจนท.หลายคนของเฟด สนับสนุนเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

- สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 23,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.64 และสวนทางกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่าจะลดลงแตะ 200,000 ราย
- คณะบริหารของปธน.โจ ไบเดน ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก หลังจากเกาหลีเหนือเดินหน้าทดสอบอาวุธ
- CDC ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 10,400-31,000 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐมีสัดส่วนมากกว่า 98% ของจำานวผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ
-ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากการที่ครม. อนุมัติวงเงินงบประมาณปี 66 ที่เป็นแบบขาดดุลต่อเนื่อง 6.95 แสนล้านบาท แม้ลดลงจากขาดดุล 7 แสนล้านบาทในปีงบ 65 แต่ยังสูงกว่าในช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 ทำให้ประเมินว่ายอดคงค้างหนี้ในประเทศของภาครัฐในปี 65 ตามปีปฏิทินมีโอกาสแตะ 9.90 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดคงค้างในปี 64

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ยังต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ยังทรงตัวในระดับสูง มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,670-1,685 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• ได้ประโยชน์จากโครงการ 'ช้อปดีมีคืน’ : COM7 SYNEX CPW SPVI SVOA JMART IT
• น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง PTTEP PTTGC IVL
• ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                                                  BANPU - แนะนำเก็งกำไร
                                          (Bloomberg Consensus 14.00 บาท)

 

•ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น 34%YTD สู่ 211 ดอลลาร์ต่อตัน หลังอินโดนีเซียประกาศระงับส่งออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามล่าสุดอินโดนีเซีย เตรียมอนุมัติการส่งออกถ่านหินอีกครั้ง เนื่องจากอินโดนีเซียมีปริมาณถ่านหินเพียงพอที่จะรองรับความต้องการภายในประเทศ โดยความเคลื่อนไหวของอินโดนีเซียมีขึ้น หลังจากที่หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ต่างเรียกร้องให้อินโดนีเซียพิจารณาทบทวนคำสั่งห้ามส่งออกถ่านหินก่อนหน้านี้

•ความเห็น เรามุมมองบวกต่อผลประกอบการ BANPU เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินในอินโดนีเซียราว 75% จากรายได้ถ่านหินทั้งหมด อีกทั้งราคาหุ้นปรับตัวลงตอบรับข่าวร้ายไปแล้ว อย่างไรก็ตามราคาถ่านหินทรงตัวเหนือ 211 ดอลลาร์ต่อตันจะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม เนื่องจากต้นทุนการผลิตอยู่ที่ระดับ 50-70$ ต่อตัน

 

หุ้นมีข่าว

(+) CGH (Bloomberg Consensus - บาท) ลงสนามดิจิทัลแอสเซท-เมตาเวิร์ส เต็มตัว ประกาศตั้ง พาย เวนเจอร์ส ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท เข้าลงทุนหลายโครงการ เริ่มไตรมาสนี้ ชูต่อยอดธุรกิจอนาคตหลังได้เข้าลงทุนในกลุ่มบริษัท คริปโตมายด์ มือดีด้านการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ด้านโบรกชี้บริษัทหลักทรัพย์ รุกดิจิทัลมักเนื้อหอมดูดนักลงทุน แต่ต้องดูอนาคต ขณะที่ผลงานกลุ่มหลักทรัพย์เด่น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NER (Bloomberg Consensus 10.00 บาท) ตั้งเป้าปี 2565 โกยรายได้อยู่ที่ 28,000 ล้านบาท ดีมานด์ยางดีต่อเนื่อง เล็งจำหน่ายแผ่นยางปูรองปศุสัตว์ ในช่วงไตรมาส 1/2565 ภายใต้แบรนด์ cattleFlex อัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง พร้อมเตรียมงบ 240 ล้านบาท ลงทุนโซลาร์รูฟวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้านโบรกส่องกำไรนิวไฮ จับตาปีนี้มาร์จิ้นเด่น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BIZ (Bloomberg Consensus - บาท) เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง คาดได้งานเพิ่ม 600-700 ล้านบาท จากมูลค่างานกว่า 1,000 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกเพิ่มจากปัจจุบันที่มีประมาณ 1,100 ล้านบาท ด้านธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็งฯ วางเป้าปี 65 มีรายได้โต 90 ล้านบาท(ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TM (Bloomberg Consensus - บาท) เปิดแผนปี 65 ตั้งเป้ารายได้โต 5-10% แตะ 700-750 ล้านบาท ชูธุรกิจหลักดีมานด์พุ่งต่อเนื่อง แย้มไตรมาส 1/65 เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ รุก OEM-ออนไลน์ เล็งเปิดบริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ THE PARENTS ในไตรมาส 3/65 (ที่มา ข่าวหุ้น)