แบงก์ หันโฟกัส แห่ลงทุน ‘ดิจิทัลแอสเสท’ ต่อยอดการเติบโตก้าวกระโดด

แบงก์ หันโฟกัส แห่ลงทุน ‘ดิจิทัลแอสเสท’ ต่อยอดการเติบโตก้าวกระโดด

แบงก์ออกตัวลุยดิจิทัลแอสเสท ชี้เป็นเทรนด์ในโลกอนาคต กรุงไทยชี้เห็นความสนใจในดิจิทัลแอสเสทพุ่ง แต่ย้ำอีกด้านต้องคุมความเสี่ยงให้ดี ขณะที่เอสซีบีเท็นเอกซ์ ชี้ดิจิทัลแอสเสทคือโลกอนาคตฝนช่าง3-10ปีข้างหน้า หนุนยกระดับแบงก์-ธุรกิจ

แบงก์ หันโฟกัส แห่ลงทุน ‘ดิจิทัลแอสเสท’ ต่อยอดการเติบโตก้าวกระโดด       นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่าการทำธุรกิจแบงก์ในปัจจุบัน มีการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนผ่าน โฮลดิ้งส์ แต่ด้วยความเป็นสถาบันการเงิน ก็ยังต้องอยู่ภายใต้กำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพ 

     ขณะที่ นอนแบงก์ในปัจจุบันเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งไม่เกี่ยวกับแบงก์ เหล่านี้มีความยืดหยุ่นกว่า คล่องตัวมากกว่าในการให้บริการหลายๆ ด้าน เหล่านี้ก็อาจเข้ามาดิสรัปชั่นแบงก์ได้

     “ยอมรับว่าเห็นความสนใจของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน ที่เข้าไปร่วมลงทุน หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นต่อเนื่อง เพราะถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่น่าสนใจ และจะมีผลต่อการให้บริการทางการเงินในโลกการเงินข้างหน้า”

    ส่วนจะถือเป็นความเสี่ยงหรือไม่ จนนำไปสู่การให้ธนาคารพาณิชย์จำเป็นต้องตั้งสำรอง สำหรับการเข้าไปลงทุนส่วนนี้หรือไม่นั้น มองว่า การเข้าไปตั้งสำรองในการไปลงทุนในเรื่องใหม่ๆ หรือมีความเสี่ยงมากขึ้นของแบงก์ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะสิ่งเหล่านี้แบงก์มีการทำอยู่แล้ว เมื่อสถาบันการเงินเข้าไปเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจดังกล่าว เพราะเหล่านี้ลิงค์กับเรื่องความเสี่ยง ดังนั้นการพิจารณาการสำรอง หรือตั้งเงินกองทุนของแบงก์ ก็ต้องพิจารณาความเสี่ยงเหล่านี้เข้ามาด้วย

     “เวลาพูดถึงความเสี่ยงไม่ใช่แค่พูดถึงเรื่องหนี้เสียอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (Operation Risk) หรือจะเป็นความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ (Strategic Risk) ฯลฯ ซึ่งจะทอนเข้ามาอยู่ในการประเมินความเสี่ยงของแบงก์และเรื่องของเงินกองทุนที่เหมาะสมตามBasel III อยู่แล้ว ประเด็นดังกล่าวที่ธปท.ออกมาให้แบงก์มีการตั้งสำรอง ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แบงก์มีการทำอยู่แล้ว”นายผยงกล่าว

ดิจิทัลแอสเสท’ดิสรัปธุรกิจเงิน3-10ปี

     นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) บริษัทลูกธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) กล่าวว่า สำหรับโฟกัสในการเข้าไปลงทุนของ SCB10x หนึ่งในนั้นคือ การเข้าไปทั้งในลักษณะร่วมทุน พาร์ทเนอร์ชิฟ และการเช้าไปลงทุนที่เกี่ยวกับ ดิจิทัลแอสเสท  เนื่องจากมองว่าในโลกอนาคต การใช้จ่าย การชำระเงินจะมีความหลากหลายมากขึ้น หลายช่องทางมากขึ้น มีเหรียญเกิดขึ้นมากมาย หรือเกิดมิ๊กเวอร์ชั่น 
ทั้งดิจิทัลแอสเสท คริปโทฯ  Stablecoin Ethereum บิสคอยน์ ฯลฯ ที่จะเข้ามาดีสรับชั่นในด้านต่างๆ

    ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ SCB10x จำเป็นต้องศึกษา และเข้าไปมีส่วนร่วม เพราะหากไม่มีโซลูชั่นเหล่านี้ในอนาคต แบงก์ หรือผู้ให้บริการทางการเงิน ก็อาจถูกดีสรับได้ 

     ซึ่ง ดิจิทัลแอสเสท ถือเป็น outlook for finance industry ในช่วง 3-10ปี ดังนั้นสิ่งเหล่านี้มาแน่นอน และจะเข้ามาดีสรับฯหลายด้าน ทั้งการทำลายตัวกลาง เข้ามาดีสรับแบงก์ ดังนั้น เป็นสิ่งที่มาแน่นอน ดังนั้นทุกคนควรตระหนักและตั้งรับ และควรหาแนวทางในการทำงานร่วมกันกับบริษัทที่ทำสิ่งเหล่านี้ เพราะบริษัทเหล่านี้เคลื่อนไหวได้เร็วกว่าแบงก์มาก 
 

      ดังนั้น การเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพ หรือพาร์ทเนอร์ชิพ ในส่วนของดิจิทัลแอสเสท มองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เข้ามาช่วยยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการทั้งในส่วนของแบงก์ และตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น ดังนั้นแบงก์ ต่างๆต้องปรับตัว ถึงเป็นที่มาที่ SCB10xสนใจในด้านนี้ 
     “แต่การเข้าไปในโลกของดิจิทัลแอสเสท ต้องวางแผนดีๆ ในการเข้าไปลงทุน ต้องมีกลยุทธ์ หรือ Strategy จริงๆ ว่าเป้าหมายเราคืออะไร เราจะไปจุดไหน ไม่ใช่ว่าเห็นคนอื่นๆทำแล้วทำ ทำตามเทรนด์ แต่ SCB10xเรามีเป้าหมาย ว่าการเข้าไปลงทุนสิ่งเหล่านี้ เพื่ออะไรบ้าง และคาดหวังผลตอบแทนกลับมาแบบอย่างไร”
     สำหรับการแข่งขันในด้านดิจิทัลแอสเซท ทั้งฝั่งเวอร์เจอร์ หรือแบงก์ที่เข้าไปเล่นในตลาดนี้ มองว่าจแข่งกันรุนแรงมากขึ้น ซึ่งยิ่งมีผู้เล่นในตลาดยิ่งมาก มองว่ายิ่งเป็นเรื่องที่ดี  ในการช่วยส่วนส่งเสริมอุตสาหกรรมการเงินให้ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้เกิดอินโนเวชั่นใหม่ๆเพื่อยกระดับการให้บริการที่เพิ่มขึ้น 

     ซึ่งหากมีผู้เช่นมากขึ้น ก็เชื่อว่าจะทำให้ผู้กำกับเข้าใจ ถึงความจำเป็นในการเข้าไปลงทุน ในดิจิทัลแอสเซทมากขึ้น และหากผู้กำกับเข้าใจมากขึ้น ก็สามารถวางกฎระเบียบที่เหมาะสม สำหรับตลาดนี้ที่ชัดเจน ซึ่งเชื่อว่า เมื่อมีกฏกติการะเบียบที่ชัดเจน ก็จะสามารถดึงผู้เล่นใหม่ๆ หรือรายใหญ่ที่เก่งเกี่ยวกับด้านนี้เข้ามามากขึ้น 
     “การเข้าไปลงทุนของ SCB10x ที่อยู่ภายใต้แบงก์ ในการเข้าไปลงทุนในด้านดิจิทัลแอสเสทก็เพื่อเรียนรู้ และหวังว่าจะนำพาแบงก์ปรับตัวไปสู่โลกอนาคตได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเป็นแอร์เรียที่มีความจำเป็น ซึ่งที่ผ่านมาไทยพาณิชย์ก็สนใจในการเข้าไปลงทุนด้านเหล่านี้ค่อนข้างมาก โดยในช่วง2ปีที่ผ่านมา มีการพาร์ทเนอร์ชีพ และเข้าไปลงทุนในด้านนี้แล้วกว่า 15ตัว”    

 

แบงก์-นอนแบงก์แห่ลงทุนดิจิทัลแอสเสท

    นางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันเห็นเทรนด์การเข้าไปลงทุนในดิจิทัลแอสเซทของธนาคารใหญ่ๆมากขึ้น

    รวมถึงการจับมือตั้งบริษัทลูก ร่วมทุนเพื่อเข้าไปทำธุรกิจในด้านนี้ แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ภายใต้กรอบกติกาของธปท. และก.ล.ต. ยังไม่ได้มีการลงทุนที่หลากหลายมากนัก

     แต่เชื่อว่า หากธปท.มีการเปิดมากขึ้น และมีความชัดเจนในด้านกรอบกติกาในการเข้าไปลงทุนในธุรกิจนี้ ก็เชื่อว่าจะหนุนให้ผู้ให้บริการทางการเงิน แบงก์ให้ความสนใจมากขึ้นไปอีก

     “วันนี้เทรนด์เยอะขึ้นจริงๆ อาจต้องใช้เวลา ในการออกดอกผล รวมถึงการขยายธุรกิจ เพราะวันนี้ยังมีกรอบกฎหมาย ทำให้ทั้งผู้ลงทุน ผู้เล่นยังไม่ได้เต็มที่มากนัก ดังนั้นหากทุกอย่างเอื้อมากขึ้นก็เชื่อว่าตลาดของดิจิทัลแอสเซทจะเข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากในระยะข้างหน้า”