ขึ้นตามตลาดโลก

โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,260.08 จุด -4.24 จุด -0.34% มูลค่าการซื้อขาย 7.35 หมื่นลบ. ต่างชาติ -548.85 บาท TFEX -2,174 สัญญา ตราสารหนี้ +14,910 ลบ. ขณะที่ทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้น 65.13 จุด หรือ 5.45%

ปัจจัยบวก

+เช้านี้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพลิกบวกกว่า 200 จุด หลังไบเดนประกาศชัยชนะเลือกตั้งปธน.สหรัฐคนที่ 46 และให้คำมั่นใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการสาคัญด้านอื่นๆ
+สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าคาดในเดือนต.ค.
+เปิดให้ลงทะเบียนโครงการ"คนละครึ่ง" รอบสองวันนี้ (11 พ.ย.)
+ยอดส่งออกจีนพุ่ง 11.4% ในต.ค. สูงสุดในรอบ 19 เดือน

ปัจจัยลบ

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลง 1.65 ดอลลาร์ -4.3% ปิดที่ 37.14 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในประเทศต่างๆ
-ความไม่แน่นอนการเมืองภายในประเทศ
-แม้เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าจากสัปดาห์ที่แล้ว เปิด 30.48/52 แต่แข็งค่ารอบ 10 เดือนตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อนค่า
+/-สธ.เผยครอบครัวชาวอินเดียที่กระบี่ 3 คนไม่ติดโควิด ยังรอผลตรวจของภริยา
-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 7.97 จุด -0.24%
+ดัชนีนิกเกอิปิดเพิ่มขึ้น 219.95 จุด +0.91%

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดโลก จากแรงหนุนผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากนายโจ ไบเดน ได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้ง ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามประเด็นการเมืองอย่างใกล้ชิด ประกอบกับติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,270 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 3Q20 เติบโตต่อเนื่อง WICE XO SPVI
• หุ้นกลุ่ม Laggard โรงไฟฟ้า GPSC EGCO กลุ่มสื่อสาร ADVANC
• เก็งกาไร iPhone 12 วางขายในไทย 27 พ.ย.นี้ COM7 SPVI CPW JMART SYNEX

หุ้นรายงานพิเศษ

             ประธานาธิบดีใหม่สหรัฐ

หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจภายใต้การนำของปธน.ใหม่สหรัฐ

•สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิต กลุ่มนิคม AMATA WHA

•สงครามการค้าสหรัฐ-จีน กีดกันเทคโนโลยี กลุ่มอิเลกทรอนิกส์ KCE HANA DELTA

•สงครามการค้าสหรัฐ-จีน กลุ่มส่งออก CPF TU MEGA

•สนับสนุนพลังงานทดแทน EA CKP BCPG

หุ้นมีข่าว

(+/-) STARK (ราคาเหมาะสม - บาท) บอร์ด STARK ไฟเขียวรวมพาร์เป็นหุ้นละ 1 บาท จากเดิม 0.50 บาท พร้อมแจกวอร์แรนต์ STARK-W1 กว่า 3,968.80 ล้านหน่วย ให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 3:1 อายุ 4 ปี กาหนดใช้สิทธิ 1:1 ราคาแปลงสิทธิ 5 บาท คาดระดมทุนราว 2 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต จ่อชงที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติ 17 ธ.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TASCO (Bloomberg Consensus 17.24 บาท) อวดงบไตรมาส 3/63 ฟันกาไรสุทธิ 1,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161% ฟากกาไรขั้นต้นที่ปรับตัวขึ้น จากยอดขายและราคาขายเฉลี่ยของตลาดค้าปลีกในไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชาสูงขึ้น ส่วนกาไรสุทธิ 9 เดือน แตะ 2,797 ล้านบาท โต 12.69% (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) CHG (Bloomberg Consensus 2.93 บาท) มองผลงานไตรมาส 4/2563 เด่น ชี้ความต้องการดูแลสุขภาพยังสูง เล็งประกาศงบไตรมาส 3/2563 วันที่ 13 พ.ย. 2563 ฟากโบรกคาดกาไรสุทธิไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบปีก่อน รับรายได้จากการทา ASQ อยู่ที่ 10-15 ล้านบาทต่อเดือน ตั้งแต่ ส.ค. 2563 เคาะเป้าพื้นฐาน 3 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NCAP (IPO) – IPO 2.20 บาท (PE 9.30 เท่า)
ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ กล่าวว่าบริษัทมุ่งเน้นการให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์เป็นหลัก ด้วยการซื้อรถจากตัวแทนจาหน่าย (Dealer) แล้วนามาให้ลูกค้าเช่าซื้อ โดยมี ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ (Hire Purchase) เป็นธุรกิจหลัก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 99% ของมูลค่าลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อรวม กาหนดระยะเวลาให้สินเชื่อเช่าซื้อสาหรับรถจักรยานยนต์ทุกรุ่นทุกยี่ห้ออยู่ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 12-48 เดือน

ปัจจุบันบริษัทมีจานวนสาขาทั้งหมด 24 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะทางภาคใต้ และมี ดีลเลอร์ตัวแทนจาหน่ายรถเป็นพันธมิตรของบริษัทในพื้นที่ต่างๆ ประมาณ 600 ราย มีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท มีจานวนบัญชีประมาณ 100,000 ราย

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

10 พ.ย. ประชุมครม.

16 พ.ย. บจ.ส่งงบการเงินงวดสิ้นเดือนก.ย. วันสุดท้าย

18 พ.ย. ประชุมกนง.ครั้งที่ 7/2563

สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นาเข้า

สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

30 พ.ย. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ

ต่างประเทศ

9 พ.ย. ญี่ปุ่น เปิดเผยดัชนีชี้นาเศรษฐกิจเดือนก.ย.เยอรมนีเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ย.

10 พ.ย. จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.อียูเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย.สหรัฐเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ย.

12 พ.ย. อียู เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.สหรัฐเปิดเผยจานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

20 พ.ย. ธนาคารกลางจีนประชุมกาหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

20-21 พ.ย. การประชุมสุดยอดผู้นำ G20

30 พ.ย. การประชุมของรมว.คลังยูโรโซน

30 พ.ย. – 1 ธ.ค. การประชุมของกลุ่มโอเปคพลัสพิจารณายืดระยะเวลาปรับลดกาลังการผลิตออกไป