อิชิตันดันแบรนด์‘ที247’ชิงตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน พาวเวอร์ จำกัด ในเครือบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากเทรนด์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่มาแรงในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลี มีสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังเซ็กเมนท์ใหม่เข้าทำตลาดมากขึ้น อิชิตันจึงเกาะเทรนด์ดังกล่าว เปิดตัวสินค้าเครื่องดื่มในแคทิกอรี่ใหม่ แบรนด์ “ที247” (T247) บรรจุภัณฑ์พีอีที (PET) รายแรกของตลาด เพื่อสร้างความแตกต่างและเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยเริ่มต้นทำงานอายุ 20-30 ปี และกลุ่มเป้าหมายรองคือกลุ่มคนใช้แรงงานและพลังงานสูง

โดยได้ทุ่มงบประมาณ 200 ล้านบาท ทำกิจกรรมการตลาด ผ่านการใช้คาราวาน ที 247 เจาะกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ 1,500 จุด ภายใน 3 เดือน และเตรียมปูพรมการทำตลาด 360 องศา เตรียมส่งแคมเปญบุกออฟไลน์และออนไลน์

ส่วนการกระจายสินค้าจะให้น้ำหนักช่องทางร้านสะดวกซื้อ และโมเดิร์นเทรด สัดส่วน 65% และจะเจาะช่องทางร้านค้าทั่วไป(เทรดดิชั่นนอลเทรด) ในอนาคต โดยจะใช้จุดแข็งของบริษัทดีเคเอสเอช ในการจัดจำหน่ายสินค้า

“บริษัทต้องการทำเครื่องดื่มชูกำลังหรือเอนเนอร์ยี ดริ้งค์แนวใหม่เข้าสู่ตลาด มุ่งสร้างการรับรู้แบรนด์ให้เป็นเครื่องดื่มของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการใช้พลังงานทุกวัน ส่วนการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ขวดพีอีที เพราะเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศ และมีขนาด 500-600 มิลลิลิตรมากกว่าคู่แข่งที่ใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว 2 เท่า"

สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง มีมูลค่าประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ปีที่ผ่านมาตลาดติดลบ 2.6% แต่ในปีนี้คาดว่าตลาดจะกลับเติบโตเป็นบวก เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหญ่และรายใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น และปัจจุบันเอ็ม-150 มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 สัดส่วน 57% ตามด้วยคาราบาวแดง 21% กระทิงแดง 16.3% และแบรนด์อื่นๆ 4.9%

จากการทำตลาดที247 ในปีแรก ตั้งเป้ายอดขาย 700 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 2% และภายใน 5 ปี ตั้งเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งทางการตลาด 10%

นอกจากการทำตลาดในประเทศ ยังวางแผนขยายตลาดที247 บุกกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม(ซีแอลเอ็มวี) โดยในกลุ่มประเทศนี้ คาราบาวแดง เป็นผู้นำตลาดในกัมพูชา ส่วนเอ็ม-150 เคยเป็นผู้นำตลาดในอดีต

นายตัน กล่าวอีกว่า ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ในปีนี้ สินค้าทุกหมวดติดลบ ยกเว้นกลุ่มน้ำดื่มที่เติบโต โดยกลุ่มชาเขียวพร้อมดื่มติดลบสูงสุด 12%