BANKING SECTOR - ใจชื้นได้หน่อย (25 ก.ค. 65)

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง และความกังวลประเด็นคุณภาพสินทรัพย์จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลักต่อไป เรายังคงให้น้ำหนักกลุ่มธนาคารที่ NEUTRAL โดยเลือก KTB และ SCB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม

 

กำไรลดลง qoq แต่เพิ่มขึ้นอย่างมาก yoy จากฐานที่ต่ำ

กำไรรวม 2Q22 ของหกธนาคารหลักในประเทศไทยอยู่ที่ 4.25 หมื่นล้านบาท ลดลง 2% qoq แต่เพิ่มขึ้น 21% yoy ดีกว่าประมาณการของเรา 4% และดีกว่า consensus 3% โดยกำไรสุทธิใน 1H22 เพิ่มขึ้น 16% hoh และคิดเป็น 53% ของประมาณการกำไรทั้งปี FY22 ของเราทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการออกมาดีเกินคาดคือ ECL โดยเฉพาะในกรณีของ KTB โดยกำไรของกลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง yoy เป็นเพราะผลจากฐานกำไรที่ต่ำในปีที่แล้วเมื่อรัฐบาลกลับมาใช้มาตรการ lockdown อีกครั้งในช่วงกลางปี ในขณะที่ โมเมนตั้มกำไรที่ลดลง qoq เป็นเพราะ ECL ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการขยายตัวของรายได้จากพอร์ตสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น

 

 

 

สินเชื่อยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับ NIM ที่ดีขึ้น

พอร์ตสินเชื่อของกลุ่มธนาคารขยายตัวได้ 1.1% qoq และ 1.9% ytd นำโดย KBANK, BBL และ SCB ในขณะที่ NIM ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วจาก 3.08% ใน 1Q21 ก่อนที่จะมี่การฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องเป็น 3.17% ใน 2Q22 เนื่องจาก 1) มีการปรับนโยบายการปล่อยกู้ให้เข้มงวดมากขึ้นทั้งในแง่ของราคา และกลุ่มลูกค้า 2) ได้รับผลกระทบน้อยลงจากโครงการปรับโครงสร้างหนี้ และ 3) LDR เพิ่มขึ้นหลังจากที่อัตราการเติบโตของสินเชื่อสูงกว่าเงินฝาก ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานหลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% qoq และ 1% yoy แต่อย่างไรก็ดี กำไรลดลง qoq เพราะเกือบทุกธนาคารตั้ง ECL เพิ่มขึ้นใน 2Q22 หลังจากที่อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษใน 1Q22

 

คงคำแนะนำถือ โดยเลือก KTB และ SCB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม

เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารที่ NEUTRAL โดยเลือก KTB และ SCB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม ทั้งนี้ ผลประกอบการของกลุ่มไม่ได้ชะลอตัวมากเหมือนกับที่ตลาดกลัว โดยพอร์ตสินเชื่อยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในขณะที่ NIM ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้ว่า ECL จะเพิ่มขึ้น qoq แต่ยังแนวโน้มหลักยังคงลดลง yoy ได้ เราเชื่อว่าราคาหุ้นกลุ่มธนาคารอาจจะตอบรับผลประกอบการ 2Q22 ที่ออกมาได้ในเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ภาพแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง และประเด็นความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลักของกลุ่มธนาคารต่อไป โดยเฉพาะในภาวะแวดล้อมเงินเฟ้อที่สูงและดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้น