ศบค. เผยแผนเปิด "สถานบันเทิง" ขายสุราไม่เกิน 5 ทุ่ม ปิดไม่เกินเที่ยงคืน

วันนี้ (29 พ.ย. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวถึง ที่ประชุม ศบค. ชุดเล็ก วันนี้ มีความเป็นห่วงคลัสเตอร์ร้านอาหาร ซึ่งขณะนี้ มีรายงานเพิ่มขึ้น ทั้งนอกห้าง และ ในห้าง สืบเนื่องไปยังการ เปิดสถานบันเทิง ตอนนี้ต้องเรียนให้ทราบว่า ศบค. ได้รับรายงานต่อเนื่องถึงกรณีที่ร้านอาหาร มีแอบจำหน่ายแอลกอฮอล์ และแอบเปิดให้บริการในลักษณะผับ บาร์ ต้องเน้นย้ำว่า ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ฉบับที่ 37

 

"ในที่ประชุมยังมีข้อสรุป จะมีการพิจารณา วางแผนเปิดสถานบันเทิง 16 ม.ค. 65 เพราะฉะนั้น ระหว่างนี้ ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่สามารถเปิดได้ ต้องเน้นย้ำว่าต้องเป็นการเปิดเมื่อพร้อม เมื่อสถานบริการต้องผ่านการประเมิน อยู่ระหว่างการประเมิน สำรวจ และหากเปิดต้องค่อยเป็นค่อยไป" 

 

• เปิดแล้วหากหละหลวม อาจต้องปิดอีกรอบ

 

โดยมีข้อกำหนดออกมา ว่า หากเปิด สามารถจำหน่ายสุราไม่เกิน 23.00 น. และต้องปิดไม่เกิน 24.00 น. งดกิจกรรมคลุกคลี ที่เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ไม่ว่าจะเป็นร้องคาราโอเกะ เต้นรำ กิจกรรมที่เวียนแก้ว การส่งเสริมการขายที่ทำให้เกิดการแออัด รวมทั้งกิจกรรมร่วมกันระหว่างลูกค้าและพนักงาน มีการเน้นย้ำว่า แม้จะเปิดแล้ว แต่หากมีการปฏิบัติการหละหลวม หรือไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด จะมีความเป็นไปได้ที่จะถูกปิดอีกรอบ

 

 

"ซึ่งจะต้องเน้นย้ำทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ตอนนี้จะต้องเดินทางท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเร่งประชาสัมพันธ์ ทำความความเข้าใจว่า การจะเปิดสถานบันเทิงในยุคใหม่ จะคาดหวังให้เป็นเหมือนเดิมคงเป็นไปไม่ได้ หากนักท่องเที่ยวเคยมา และเข้าร่วมฟูลมูนปาร์ตี้ มีการร่วมกิจกรรมกินดื่ม สนุกสนานเฮฮา ขาดสติ เป็นภาพบรรยากาศที่ต้องขอความร่วมมือว่าปีนี้คงจะเป็นไปไม่ได้" 

แต่หากร่วมมือกัน ให้เป็นตัวอย่างที่ผ่านมาแล้ว คือ ลอยกระทง หลายจังหวัด ทำมาตรการได้อย่างเข้มงวด นักท่องเที่ยวที่ไปร่วมมือกันอย่างดี ก็จะเห็นว่าคลัสเตอร์ลอยกระทงจะมีให้เห็นประปราย คงจะต้องฝากพี่น้องประชาชนชาวไทย อีกเทศกาลที่จะถึง คือ ปีใหม่ คริสต์มาส ซึ่งปีนี้คงจะเป็นปีที่เราต้องค่อยๆ ปรับตัว ค่อยเป็นค่อยไป หากรีบร้อนจนเกินไปและต้องกลับมาปิดกันใหม่ ทุกคนคงไม่อยากเห็นภาพนั้น

 

• ไทยพบติดเชื้อรายใหม่ 4,753 ราย 

 

สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายใหม่อีก 4,753 ราย ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,111,566 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 27 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 20,640 รายแล้ว ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 20,734 ราย รักษาตัวอยู่ 77,811 ราย อาการหนัก 1,369 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 330 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 6,165 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.2564 จำนวน 1,985,595 ราย

 

 

• กทม. คงศักยภาพ CI / รพ.สนาม

 

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปว่า แม้วันนี้ตัวเลขผู้ป่วยจะลดลงแต่เรายังคงศักยภาพในการรองรับผู้ป่วย เช่น กทม. วันนี้มีรายงานยังมี Community Isolation ที่เปิดและรองรับกว่า 54 แห่ง รวมแล้ว 6,000 กว่าเตียง แต่อัตราครองเตียง 83 ราย วันนี้รับใหม่ 4 ราย กลับบ้าน 12 ราย รพ.สนาม กทม. ยังเหลืออีก 8 แห่ง และมีรับใหม่ 1 ราย กลับบ้าน 3 ราย เหลือเตียงรองรับกรณีเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น

 

“อย่างที่เรียนว่า เราจะคาดหวังให้ตัวเลขเป็น 0 เป็นไปไม่ได้ แต่ต้องพิจารณาควบคู่กันกับมาตรการและอัตราการติดเชื้อ แต่ยังมีระบบสาธารณสุข ที่สามารถรองรับได้ เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ โดยวันนี้ ทางกรมการแพทย์ จะมอบหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยในกทม. ให้กับ สำนักการแพทย์ด้วย”

• ฉีดวัคซีนครบ เสียชีวิตน้อยกว่า 1%

 

สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิต เป็นกลุ่มสูงอายุ และโรคประจำตัว 100% และมีผู้ป่วยติดเตียง 2 ราย ที่ได้รับเชื้อจากลูกหลานที่ได้รับเชื้อ จากการออกจากบ้าน มีการรายงานติดเชื้อโดยคนใกล้ชิดมากกว่า 80% และส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน กรมควบคุมโรค รายงานว่า แม้ฉีดวัคซีนแล้ว ท่านยังมีโอกาส ติดเชื้อหรือแพร่เชื้อได้ แต่จากการรายงานสะสม ผู้เสียชีวิตที่มีประวัติฉีดวัคซีนครบมีการเสียชีวิตน้อยกว่า 1% นั่นหมายความว่า วัคซีนช่วยให้ท่านปลอดภัยและลดอัตราการเสียชีวิตชัดเจน

 

 

• สมุทรสาคร ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ

 

การติดเชื้อในวันนี้ กระจายหลายจังหวัด ตัวเลขทิศทาง ค่อนข้างลดลง โดยสมุทรสาคร ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ ลำปาง อำนาจเจริญ มีผู้ติดเชื้อน้อยมาก แต่จังหวัดที่ต้องติดตามใกล้ชิดนอกจาก กทม. ปริมณฑล จะเป็นตัวเลขของ 4 จังหวัด คือ สงขลา นครศรีธรรมราช ขอนแก่น และนครราชสีมา มีเคสมากกว่า 100 ราย ขณะที่ 6 จังหวัด ที่มีการติดเชื้อ 50 – 100 ราย แต่ยังต้องติดตามใกล้ชิด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร พัทลุง ราชบุรี สระบุรี สตูล

 

 

ขณะที่ 5 จังหวัด ที่มีแนวโน้มติดเชื้อสูงขึ้น แม้ตัวเลขจะไม่มาก แต่ดูทิศทางยอดพุ่งขึ้นชัดเจน ที่มีจำนวนเคสมากกว่า 100 ราย คือ สุราษฎร์ธานี และ ภูเก็ต ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด และ จังหวัดที่ตัวเลขน้อยกว่า 100 ราย ได้แก่ เชียงราย ลำพูน และสิงห์บุรี ในส่วนของ เชียงราย จากการทำงานเข้มข้นมีการลงพื้นที่ตรวจ ATK มีผลบวก 10-20% มาตลอด โดยคลัสเตอร์ที่น่าห่วง คือ ตลาด ขณะที่ลำพูนเป็นคลัสเตอร์โรงงาน

 

 

ขณะที่ จังหวัดที่จะเปิดพื้นที่สีฟ้าใหม่ 1 ธ.ค. 64 นนทบุรี ปทุมธานี กาญจนบุรี และบางจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีฟ้า ที่ประกาศเปิดบางอำเภอ เช่น เชียงราย และเชียงใหม่ที่เปิดก่อนหน้านี้ มีการเปิดเพิ่มที่จอมทอง ส่วนอยุทธยา อ.เมือง , ขอนแก่น หลายอำเภอ , นครราชสีมา หลายอำเภอ , สุรินทร์ , จันทบุรี , ตราด เปิดเพิ่มเกาะกูด , สงขลา เปิด 16 ธ.ค. ใน อ.เมือง อ.สะเดา และหาดใหญ่ ซึ่งอย่างที่เรียนว่ามีหลายปัจจัยในการพิจารณาอนุมัติ เปิดพื้นที่นำร่อง

 

 

โดยในส่วนขจองสงขลา ที่สำคัญ คือ รายงานการฉีดวัคซีนประชาชนครอบคลุม 73% จังหวัดพื้นที่นำร่องสีฟ้าเหล่านี้ต้องพยายาม เน้นย้ำว่าแม้จะฉีดวัคซีนเกิน 70% ก็ขอให้ระดมสรรพกำลัง ตลอดสัปดาห์นี้ ให้ชวนคนรู้จักไปฉีดวัคซีน จะทำให้ท่านปลอดภัย และอำเภอ จังหวัด ชุมชน ปลอดภัยด้วย

 

• ไทยฉีดวัคซีนแล้ว 92.3 ล้านโดส

 

จำนวนการได้รับ "วัคซีนโควิด-19" สะสม (28 ก.พ. - 28 พ.ย. 2564) รวม 92,360,417 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 47,963,180 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 41,053,644 ราย และ จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 3,343,593 ราย

 

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ยอดฉีดทั่วประเทศ 235,121 โดส เข็มที่ 1 : 115,534 ราย เข็มที่ 2 : 89,759 ราย และ เข็มที่ 3 : 29,828 ราย

 

 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ในวันที่ 5 ธ.ค. ตั้งเป้า 100 ล้านโดส โควิดเป็นโรคอุบัติใหม่ หากฉีดไม่ได้ตามเป้าไม่มีใครปลอดภัย เพราะในยุโรป แม้การครอบคุลมวัคซีนเกิน 80% เรายังเห็นการกลับมาระบาดซ้ำ มีรายงานผู้ติดเชื้อ เสียชีวิต อย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำว่า ตอนนี้มีวัคซีนเพียงพอ หากลังเล ต้องการเลือกวัคซีน ตอนนี้สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตเดียวเข็ม 1-2 และหากต้องการฉีดสูตรไขว้ ที่มีงานวิจัยรับรอง สามารถเรื่องได้

 

“ตอนนี้วัคซีนมีเพียงพอ ขอให้หน่วยบริการวัคซีนบริหารจัดการวัคซีนให้เพียงพอ รวมทั้ง ทางสาธารณสุขเน้นย้ำว่า ในที่นี้ รวมทั้งคนที่มีแรงงานต่างด้าว ที่อยู่ในความดูแล ต่อให้มาอย่างผิดกฎหมาย ขอให้พามาฉีดวัคซีน ตอนนี้ต้องการครอบคลุมให้ได้มากที่สุด รวมทั้งผู้ที่ฉีดเข็ม 2 ไปแล้ว ต้องการฉีดเข็ม 3 รวมทั้งผู้ที่เคยติดเชื้อไปแล้ว 3 เดือน ต้องรับวัคซีนเช่นกัน เน้นย้ำว่าให้ทุกคน ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปเวลาจะปรับตัวเข้ากับชีวิตวิถีใหม่แน่นอนว่าเราไม่สามารถทำได้ตั้งแต่แรก แต่ค่อยเป็นค่อยไปและค่อยๆ ทำความเข้าใจในการประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงประชาชนในวงกว้าง”