สั่ง'หลวงพ่อพิมพ์'ห้ามประกาศละสังขารซ้ำอีก

หลวงพ่อพิมพ์ดอดออกจากรพ.ชัยภูมิกลับวัดแล้ว หลังคณะสงฆ์สั่งลงโทษ ปลดออกจากเจ้าอาวาสวัดและสั่งคาดโทษภาคทัณฑ์ 1 ปี ห้ามอวดอุตริมนุษยธรรมประกาศละสังขารซ้ำอีก ซึ่งหากยังไม่เชื่อฟังตามมติคณะสงฆ์มหาเถรสมาคมก็จะต้องถูกลงโทษขั้นรุนแรงถึงขั้นถูกจับสึก

ความคืบหน้าล่าสุดกรณีหลวงพ่อพิมพ์ จันทรังษี เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน หมู่ 4 บ้านท่าเริงรมย์ ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ประกาศทำพิธีละสังขารในโลงศพระหว่าง 9-11 ก.ย. ที่ผ่านมาซึ่งเข้าข่ายการประกาศฆ่าตัวตายและใครที่พบเห็นไม่ช่วยจะต้องมีความผิดไปด้วย จนทางจังหวัดต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปนำตัวออกจากโลงศพออกมาก่อนไว้ได้และรีบนำหลวงพ่อส่งรพ.คอนสารและต่อมาที่รพ.ชัยภูมิ จนปัจจุบันยังกลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วแล้วนั้น และในกรณีนี้ยังเข้าข่ายการกระทำผิดวินัยสงฆ์ขั้นรุนแรงถึงขั้นในการอวดอุตริต้องถูกจับสึกถึงขั้นปาราชิก

ซึ่งทางมหาเถรสมาคม และคณะสงฆ์จ.ชัยภูมิ ได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายในไม่เกินสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ล่าสุดนายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการสอบสวนต่อกรณีที่เกิดขึ้นของหลวงพ่อพิมทั้งเรื่องการอวดอุตริ และการให้เงินของวัดทั้งหมด ทางมติคณะสงฆ์ จ.ชัยภูมิ ได้ออกมาแล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเนื่องจากภาวะอาการเจ็บป่วยของพลวงพ่อพิมพ์ที่รุมเร้าจำนวนมาก จึงมีความเห็นว่าเจตนาที่มีการประกาศจะละสังขารนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะอวดอ้างอุตริมนุษยธรรม ในส่วนนี้จึงมีบทลงโทษขั้นตักเตือนภาคทัณฑ์ไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี ไว้ก่อน และหากหลังมีการสั่งบทลงโทษภาคทัณฑ์ไว้แล้ว ภายในระยะเวลา 1 ปีจากนี้ไปหลวงพ่อพิมพ์จะไปประกาศละสังขารที่เข้าข่ายโอ้อวดอุตริมนุษธรรมอีก ซึ่งความผิดนี้ก็มีบทลงโทษตามมติคณะสงฆ์ตามมาอีกได้ทันทีและถึงขั้นรุนแรงขาดจากความเป็นพระได้ทันทีที่ถึงขั้นผิดวินัยร้ายแรงปาราชิกขาดจากความเป็นพระและถึงขั้นถูกจับสึกได้ต่อไป

นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า แต่ในส่วนการที่มีตำแหน่งเป็นเจ้าปกครองคณะสงฆ์ หรือตำแหน่งผู้บริหารวัดหรือเจ้าอาวาสนั้นถือว่าขาดความเหมาะสมที่จะเป็นพระสังฆาธิการเจ้าอาวาสวัดต่อไปได้อีก ซึ่งการเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีการประกาศละสังขารที่เข้าข่ายการโอ้อวดอุตริถือว่ากระทบต่อการเป็นผู้ปกครองวัดมาก ทางพลวงพ่อพิมพ์เอง ก็เห็นด้วยจึงขอลาออกจากตำแหน่งเองด้วยเพื่อความเหมาะสมในครั้งนี้ด้วย ทางเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ จึงมีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ซึ่งมีผลคำสั่งมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.57 ที่ผ่านมา

"ล่าสุดการรักษาอาการป่วยของพลวงพ่อพิมพ์ที่เข้ารักษาตัวอยู่รพ.ชัยภูมิ มานานตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดร่างกายเป็นปกติและหลวงพ่อขอเดินทางกลับวัดเวฬุวันไปแล้ว ซึ่งก็ได้ขอกลับไปอยู่วัดเวฬุวันตามเดิมเพื่อขอปฏิบัติธรรมในฐานะเป็นพระลูกวัดอย่างเงียบๆและไม่ยุ่งเกี่ยวกับพิธีกรรมต่างๆการประกาศละสังขารอีกต่อไป ซึ่งตอนนี้ทางคณะสงฆ์จ.ชัยภูมิ ก็ยังไม่ได้ตั้งพระรูปอื่นขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแทนแต่อย่างใด ก็คงปล่อยให้เจ้าคณะอำเภอคอนสาร ซึ่งเป็นผู้ปกครองสงฆ์สูงสุดของอำเภอช่วยดูแลวัดแห่งนี้ไปก่อนต่อไป"นายประพันธ์ กล่าว

และในส่วนการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของวัดที่ผ่านมาทั้งหมดนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นก็ถือว่ายังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด และมีบัญชีเพียงบัญชีเดียวของวัดที่เหลือเงินใช้จ่ายของวัดเพียงจำนวน 600,000 บาท ซึ่งไม่มีความผิดปกติหรือมีเงินจำนวนมากนับร้อยล้านบาทตามข่าวแต่อย่างใด