อวสานคาเฟ่ริมทางรถไฟ ‘ฮานอย’

ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ทุกอย่างบนถนนริมทางรถไฟในกรุงฮานอยดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างปกติ แต่หลังจากที่มีเสียงดังก้องเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ๆ นักท่องเที่ยวที่นั่งอยู่ที่ร้านกาแฟข้างทางรถไฟก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเตรียมพร้อม เพื่อถ่ายภาพของรถไฟที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาบนรางรถไฟสายแคบๆ

แต่นั่นคงเป็นเพียงภาพในอดีต เพราะล่าสุดเจ้าหน้าที่สั่งปิดร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ริมทางรถไฟซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองหลวงของเวียดนาม

เหตุผลด้านความปลอดภัยบนถนนริมทางรถไฟเป็นประเด็นที่คนกังวลมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เพิ่งกำหนดเส้นตายเมื่อสัปดาห์ก่อนให้ปิดคาเฟ่ 10 กว่าร้านหลังจากที่รถไฟขบวนหนึ่งต้องเบรกฉุกเฉินตรงบริเวณที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว

เหงียน หู นัม คนขับรถไฟกล่าวกับหนังสือพิมพ์เวียดนาม เอ็กซ์เพรส ว่าเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนถ่ายรูปอยู่ใกล้กับรางรถไฟ เขาบอกว่าเขาบีบแตรแล้ว แต่เธอก็ไม่ขยับ ทำให้เขาต้องตัดสินใจหยุดรถไฟกระทันหันในระยะที่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่เมตร

นัมบอกว่ามันเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขาต้องหยุดรถไฟฉุกเฉินตรงบริเวณดังกล่าว

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการท้องถิ่นทำกำไรจากความนิยมของร้านกาแฟบนถนนริมทางรถไฟ เช่น ร้าน Hanoi Rail Track Café ก็โฆษณาว่าตัวเองเป็น “สุดยอดสถานที่ที่ต้องมาเยือน มานั่งชิลๆ และถ่ายภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของรถไฟ”

แต่ก็มีร้านกาแฟที่เปิดโดยไม่ถูกกฎหมายจำนวนหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะวางโต๊ะและที่นั่งไว้ด้านนอกใกล้กับรางรถไฟซึ่งเสี่ยงอันตรายมาก

เมื่อสัปดาห์ก่อน ฮา วัน เซียว รองประธานการท่องเที่ยวแห่งเวียดนามได้จัดงานแถลงข่าวโดยบอกว่า แม้ว่าคาเฟ่ริมทางรถไฟจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวก็ตาม แต่พวกเขาก็ละเมิดกฎบางอย่าง แม้ว่าทางการจะสนับสนุนให้มีโครงการท่องเที่ยวแบบใหม่ๆ แต่ผู้ประกอบการก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบทางกฎหมาย

รถไฟรางเดี่ยวที่วิ่งผ่านย่านเมืองเก่าของฮานอยถูกสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคมของฝรั่งเศสในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ส่วนบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับรางรถไฟนั้นถูกสร้างขึ้นในภายหลัง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะเห็นบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับถนนและทางรถไฟในฮานอย เมืองที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 7.5 ล้านคน

ถนนริมทางรถไฟในฮานอยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีรูปภาพประมาณ 7,000 ภาพที่โพสต์บนอินสตาแกรมและติดแฮชแท็กคำว่า #trainstreet และตอนนี้มีภาพมากกว่า 26,000 ภาพที่ติดแฮชแท็กด้วยคำเดียวกัน กราฟของ Google Trends ซึ่งแสดงผลการค้นหาในกูเกิลก็ยังโชว์ว่า มีการค้นหาคำว่า “Train street Hanoi” เพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง

ความตื่นเต้นที่ได้เสี่ยงภัยอยู่ใกล้กับรถไฟที่กำลังแล่นผ่านมานั้น มีนักท่องเที่ยวบางคนบรรยายไว้ในเว็บไซต์รีวิวท่องเที่ยว TripAdvisor ของสหรัฐอเมริกาว่า “ไม่เหมือนใคร” และ “ต้องทำ” ในขณะที่ไปเยือนฮานอย

 

แต่สำหรับ คริสเตียน ปาตราซิโอ ปาซาริบู ชาวอินสตาแกรมจากอินโดนีเซียแล้ว ถนนสายนี้ไม่มีอะไรที่พิเศษอย่างที่คนอื่นว่ากัน

“มันดูน่าตื่นเต้นสุดๆ บนอินสตาแกรม ผมเลยตัดสินใจมาดู บางทีอาจเป็นเพราะว่าผมเคยเห็นสถานที่ที่คล้ายกันเช่นนี้ในเมืองต่างๆ ในอินโดนีเซียแล้ว ผมเลยไม่รู้ว่าสถานที่นี้มีความพิเศษอย่างไร" เขาโพสต์ในอินสตาแกรมปีที่แล้ว

“ท่ามกลางนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แห่กันไปที่นั่น ผมพนันได้เลยว่าคนท้องถิ่นคิดว่ามันไม่มีอะไรพิเศษ ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังหั่นผักเพื่อเตรียมทำอาหารเย็น ผู้ชายคนหนึ่งกำลังล้างรถมอเตอร์ไซค์ เด็ก 2 คนกำลังเล่นอยู่บนรางรถไฟ สำหรับพวกเขาแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่อีกวันหนึ่ง มันเป็นเรื่องน่าตลกที่ชีวิตปกติของใครบางคนอาจดูไม่ธรรมดาในสายตาของคนอื่น” เขากล่าว

เวียดนามกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี ค.ศ. 1998 มีนักท่องเที่ยวเพียงแค่ 1.5 ล้านคนเท่านั้นที่เดินทางไปเวียดนาม ก่อนจะพุ่งพรวดเป็น 15.5 ล้านคนในปี 2018 ซึ่งมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปโมร็อกโก สวิตเซอร์แลนด์หรือแอฟริกาใต้เสียอีก

ที่มา : เว็บไซต์เดลี่ เทเลกราฟ และเวียดนาม เอ็กซ์เพรส