นายกฯ ห่วง "อัคคีภัย" หน้าร้อน สั่ง มท.-ปภ.-อปท. จัดอุปกรณ์ดับเพลิงให้พร้อม
นายกฯ ห่วง "อัคคีภัย" หน้าร้อน สั่งการ มท. ปภ. อปท. เข้มดูแลความปลอดภัยประชาชน กำชับเจ้าหน้าที่จัดอุปกรณ์ดับเพลิงให้พร้อมใช้งาน แนะประชาชนอย่าประมาท ร่วมด้วยช่วยกันป้องกัน
วันนี้ (17 เมษายน 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัด และอุณหภูมิสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี
โดยเฉพาะช่วงกลางวันที่อากาศแห้งและร้อนจัด เสี่ยงต่อการเกิด "อัคคีภัย" ในอาคารและบ้านเรือนได้ง่าย โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ (อปท.) กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงให้พร้อมป้องกันเหตุ "อัคคีภัย" ในฤดูร้อน ให้เฝ้าระวัง ป้องกันปัญหาอัคคีภัยบ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการ โรงงานอุตสาหกรรม บ่อขยะ และสถานที่ต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ชุมชน ตรอกซอกซอยที่มีทางสัญจรคับแคบ จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นายธนกร กล่าวต่อว่า การดูแลเรื่องไฟไหม้ที่เกิดจากอากาศร้อน เป็นเรื่องสำคัญที่น่าเป็นห่วงและต้องเตรียมความพร้อม ซึ่ง ปภ. ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ไฟไหม้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดย ปภ. ได้แนะให้ประชาชนควรหมั่นตรวจเช็คเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์และสายไฟ หากพบว่าชำรุดหรือเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ตลอดจนขอให้ถอดปลั๊กปิดสวิตช์ก่อนออกจากบ้าน
ขณะเดียวกันการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) มีข้อแนะนำให้ประชาชนสังเกตหัวจ่ายน้ำดับเพลิง (fire hydrant) หรือประปาหัวแกะ ในจุดใกล้เคียง ซึ่งได้เชื่อมต่อกับท่อเมนของ กปภ. พร้อมส่งจ่ายน้ำตามเส้นท่อและสามารถใช้งานได้จริง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ประชาชนสามารถแจ้งจุดติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง ให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทราบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ต่อหัวรับน้ำดับเพลิงได้ทันที เพื่อการควบคุมสถานการณ์และลดความสูญเสียได้อย่างทันท่วงที
“ความเสียหายที่เกิดจากอัคคีภัย เป็นการยากที่จะควบคุมและป้องกันมิให้เกิดอัคคีภัยขึ้นได้อย่างเด็ดขาดและเสมอไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย เน้นย้ำขอให้ประชาชนระมัดระวังอัคคีภัย เพราะฤดูร้อนเป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดเพลิงไหม้สูง เนื่องจากสภาพอากาศร้อน แห้งแล้ง และลมพัดแรง เมื่อเกิดเพลิงไหม้ไฟจึงลุกลามอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม
จึงขอให้ประชาชนอย่าประมาท ร่วมด้วยช่วยกันป้องกันอัคคีภัย โดยให้จัดระเบียบเรียบร้อยภายใน/ภายนอกอาคารให้ดี ขจัดสิ่งรกรุงรังภายในอาคารบ้านเรือนให้หมดไป เก็บรักษาสิ่งที่อาจจะเกิดอัคคีภัยได้ง่ายไว้ให้เป็นสัดส่วน ไม่ควรให้ผู้สูงอายุและเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อยู่บ้านตามลำพัง อย่าจุดธูปเทียนบูชาพระทิ้งไว้ อย่าใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งควรตรวจตราซ่อมบำรุงสายไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ก็จะช่วยป้องกันมิให้เกิดอัคคีภัยได้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
