GISTDA เผยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 397 จุด แม่ฮ่องสอน พบมากสุด 81 จุด

GISTDA เผยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 397 จุด แม่ฮ่องสอน พบมากสุด 81 จุด

GISTDA เผยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 397 จุด ขณะที่จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากสุด แม่ฮ่องสอน 81 จุด เชียงใหม่ 35 จุด เชียงราย 30 จุด

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.65 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2565 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 397 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 186 จุด พื้นที่เกษตร 84 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 68 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 34 จุด พื้นที่เขตสปก. 23 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 2 จุด

จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ

  1. แม่ฮ่องสอน 81 จุด
  2. เชียงใหม่ 35 จุด
  3. เชียงราย 30 จุด

สอดคล้องกับการประเมินพื้นที่เสี่ยงสูงเกิดไฟป่าล่วงหน้า 7 วัน (คือช่วงวันที่ 11 ถึง 17 เมษายน 2565) จากภาพแสดงให้เห็นจุดความร้อนยังคงกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ทางตอนบนของประเทศไทยเหมือนเช่นเคย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือที่มีจุดความร้อนเพิ่มขึ้น ซึ่งวานนี้พบ 216 จุด

ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจุดความร้อนตั้งแต่ 1 มกราคม – 16 เมษายน 2565 พบว่าภาคเหนือมีจุดความร้อนแล้ว 14,401 จุด ตามด้วยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12,932 จุด และภาคกลาง 8,916 จุด ตามลำดับ

GISTDA เผยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 397 จุด แม่ฮ่องสอน พบมากสุด 81 จุด

ส่วนปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 เช้านี้เวลา 10.00 น. อากาศดีขึ้น มีเพียงจังหวัด เชียงใหม่ และ แม่ฮ่องสอน ที่พบค่าเฉลี่ยปริมาณฝุ่นจิ๋วอยู่ที่ระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีค่าฝุ่นอยู่ที่ระดับดี (สีเขียว)

GISTDA เผยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 397 จุด แม่ฮ่องสอน พบมากสุด 81 จุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน

  1. สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จำนวน 2,093 จุด
  2. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 1,275 จุด
  3. ประเทศไทย จำนวน 397 จุด

ข้อมูลจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ pm 2.5 ในพื้นที่บริเวณชายแดนภาคเหนือเนื่องจากมีลมพัดฝุ่นละอองและหมอกควันเข้ามาขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ดูแลสุขภาพและสวมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ

ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่