"กกต." เผยคนลงเลือกตั้งล่วงหน้า คึกคัก-กำชับ "ตจว." เข้มตรวจสอบคนใช้สิทธิ

"กกต." เผยคนลงเลือกตั้งล่วงหน้า คึกคัก-กำชับ "ตจว." เข้มตรวจสอบคนใช้สิทธิ

"แสวง" เผยบรรยากาศเลือกตั้งล่วงหน้า เรียบร้อย-คึกคักแต่เช้า แม้อากาศร้อนระอุในกทม. พร้อมกำชับ "ตจว." ตรวจสอบคนใช้สิทธิ์ ให้ตรงกับบัตรปชช. หลังพบ "จ.อำนาจเจริญ" มีคนแจ้งเก็บบัตรปชช.

นายแสวง บุญมี เลขาธิการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงถึงการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า 7 พฤษภาคม ว่า เมื่อเวลา 08.00 น.​ได้รับรายงานจากทุกจังหวัดว่าสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า นอกเขตเลือกตั้ง จำนวน 447แห่ง และในเขต จำนวน 442 แห่ง สามารถเปิดลงคะแนนได้อย่างเรียบร้อย โดยมีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า  จำนวน 2,235,830 ล้านคน แบ่งเป็น นอกเขต 2,216,950 คน และในเขต 1.8หมื่นคน  สำหรับคนที่ลงคะแนนออกเสียง ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งวันที่  14พฤษภาคมได้ หากไม่สามารถได้ ต้องแจ้งเหตุหลังวันเลือกตั้งภายใน 7 วัน

 

“การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผมดูบางจุด ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยภาพรวม แต่ในกทม. พบว่าอากาศร้อนจัดตั้งแต่ช่วงเช้าถึงบ่าย และอาจมีความไม่สะดวกเรื่องสถานที่ที่คับแคบ รวมถึงสภาพการจราจร ทั้งนี้ กกต. และสำนักงานาตำรวจจะอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและหน้าหน่วยระหว่างที่ตรวจสอบสิทธิ์ ทั้งน้ำดื่มและพัดลมเพื่อให้ได้รับความสะดวกที่สุด เมื่อดูจากรายงานพบว่ามีคนออกเสียงลงคะแนนจำนวนาก ด้วยข้อจำกัดที่เกิดขึ้น ทำให้บางจุดไม่สะดวกและต้องต่อแถว ทั้งนี้ขอประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ์อย่าถ่ายภาพบัตรเลือกตั้ง” นายแสวงกล่าว

นายแสวง กล่าวด้วยว่า สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้านั้น หลังจากกาบัตรเลือกตั้งแล้วต้องบรรจุบัตรลงคะแนนใส่ซอง จากนั้นให้หย่อนในหีบบัตรที่มีใบเดียว จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คัดแยกซองบัตรเลือกตั้งอีกครั้งเพื่อส่งไปยังเขตเลือกตั้งต่อไป ขณะที่การหาเสียงของนักการเมืองและพรรคการเมืองทำได้ตามปกติ แต่อย่าหาเสียงในพื้นที่ลงคะแนน

 

นายแสวง ยังกล่าวถึงเรื่องร้องเรียนว่า มีเรื่องร้องเรียน 92 เรื่อง โดยพื้นที่ กทม. มีเรื่องร้องเรียนากสุด โดยข้อหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา73(1)  ว่าด้วยการรับ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน หรือทรัพย์สิน ขณะที่ประเด็นที่เป็นข่าวกรณีที่ จ.ยโสธร และ จ.อำนาจเจริญ  พบการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้ามากผิดปกติ รวมถึงการนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียน กกต. อยู่ในขั้นตอนดำเนินกา โดยไม่สามารถให้รายละเอียดมากนักเพราะต้องให้ความคุ้มครองกับผู้ให้เบาะแส

“ได้กำชับไปยังพื้นที่ต่างๆ  ต่อการแสดงตนของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ให้เปิดหน้าให้เห็นชัดเจนว่าเป็นบุคคลๆ เดียวกับบัตรประชาชน  ถึงใครจะทำอะไรมานอกหน่วย แต่ในหน่วยเราสามารถดูแลเรื่องความสุขจริตและเที่ยงธรรมได้ อย่างไรก็ดีในการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในกทม. ยังไม่มีรายงานว่าพบความผิดปกติ” นายแสวง กล่าว

 

ทั้งนี้นายแสวงยังกล่าวถึงการเข้าสังเกตการณ์ต่อการคัดแยกบัตรเลือกตั้งที่มาจากนอกราชอาณาจักร ว่า ตนได้เข้าไปสังเกตการณ์ ฐานะเป็นหัวหน้าสำนักงาน โดยพบว่าขณะนี้ บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ถูกส่งมาถึงแล้ว 68 สถานกงศุล จาก 94 สถานกงศุล ขณะนี้ยังมีเวลาอีก 3-5 วันคาดว่าจะครบ ทั้งนี้การตรวจคัดแยกมีการทำงานของเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายร่วมกัน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและประชาชนมีส่วนร่วม ทั้งการสังเกตการณ์หน้าหน่วย การนับคะแนน รวมมถึงการตรวจสอบได้

 

“กกต. ออกแบบกระบวนการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความโปร่งใสที่สุด โดยตั้งเป้าให้มีบัตรเสีย 2% จากการเลือกตั้งรอบที่แล้วมีบัตรเสีย5% และออกแบบสีบัตรเลือกตั้งเพื่อให้ไม่สับสน อีกครั้งยังอำนวยความสะดวกทั้งหน้าหน่วยเลือกตั้งและในหน่วยเลือกตั้ง หากเข้าคูหาแล้วจำไม่ได้สามารถเงยหน้าดูเบอร์ ดูชื่อ ดูพรรคของผู้ลงสมัครได้  ที่เราทำงานยากไม่ใช่กระบวนการ แต่อยู่ที่การแสดงความเห็นที่ผมมองว่าเป็นเท็จ และไม่อยู่บนฐานของความเป็นจริง แต่กกต.พร้อมทำหน้าที่ เพื่อรักษาเจตจำนงของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อให้เป็นไปตามเจตจำนงของการออกเสียงของประชาชน”  นายแสวงกล่าว

 

ขณะที่บรรยากาศการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ตั้งแต่เวลาเปิดหีบ เป็นไปอย่างคึกคัก แม้สภาพอากาศจะร้อนระอุ

  \"กกต.\" เผยคนลงเลือกตั้งล่วงหน้า คึกคัก-กำชับ \"ตจว.\" เข้มตรวจสอบคนใช้สิทธิ

 

จำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในพื้นที่กทม. ที่มีการลงทะเบียนสูงที่สุดคือ  

1.มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ใช้สิทธิ์ 52,000 คน

2.รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ผู้ใช้สิทธิ์ 40,000 กว่าคน

3.อาคารและเต็นท์บริเวณสำนักงานเขตห้วยขวาง ผู้ใช้สิทธิ์ 28,000 คน

4.สำนักงานเขตบางเขน รวม 2.6 หมื่นคน

5.ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น)ดินแดง ผู้ใช้สิทธิ์ 25,300 คน

 

ทั้งนี้ ผู้ที่ยื่นลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าไว้ สามารถเดินทางมาลงคะแนนเลือกตั้งได้ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. โดยจะไม่สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ได้อีก