เมียนมา สั่งห้ามนำเข้าสบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน

เมียนมา สั่งห้ามนำเข้าสบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน

เมียนมา สั่งห้ามนำเข้าสบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน ผ่านชายแดนท่าขี้เหล็ก-เมียวดี ที่นำเข้าโดยชาวเมียนมา ที่มีบัตรการค้าเฉพาะบุคคล มีผล 4 มิ.ย.64 เป็นต้นไป อ้างส่งเสริมใช้สินค้าในประเทศ ลดใช้เงินนำเข้าสินค้า ด้านเอกชนชี้กระทบค้าชายแดนแน่

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตากว่า เมื่อวันที่ 3 และ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ได้ทำหนังสือถึงศุลกากรท่าขี้เหล็ก และเมียวดี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด่านการค้าแม่สาย จังหวัดเชียงราย และด่านแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อแจ้งเรื่องการไม่อนุญาตนำเข้าสินค้าสบู่ ผงซักฟอก และยาสีฟัน ด้วยบัตรการค้าเฉพาะบุคคล (Individual Trading Card : ITC) โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.64 เป็นต้นมา แต่การนำเข้าโดยใช้ใบอนุญาตนำเข้า (Import License) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ ยังทำได้ตามปกติ 

“กระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้นิ่งนอนใจจะเร่งเจรจากับเมียนมาเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด เพราะภาคเอกชนเป็นกังวลมากว่าจะกระทบกับการค้าชายแดนไทย เนื่องจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก ได้สอบถามความเห็นของผู้นำเข้า-ส่งออก นักธุรกิจไทย หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในพื้นที่เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งให้ความเห็นตรงกันว่า มีความกังวลว่าจะกระทบกับยอดมูลค่าการค้าชายแดนที่อำเภอแม่สอด”  

นอกจากนี้ ภาคเอกชนไทย ยังให้ความเห็นว่า อาจทำให้ไทยเสียโอกาสทางการค้าได้ เพราะรัฐบาลเมียนมาต้องการปกป้องนักลงทุน และผู้ประกอบการเมียนมา โดยให้ชาวเมียนมาหันมาซื้อสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศ จากปัจจุบัน ชาวเมียนมานิยมสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทย และสินค้าที่เมียนมาออกมาตรการห้ามนำเข้าทั้ง 3 รายการ รวมถึงห้ามนำเข้าเครื่องดื่มทุกประเภทผ่านด่านทางบก และให้นำเข้าทางทะเลแทน ล้วนแต่เป็นสินค้า ที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงเป็นอันดันต้นๆ โดยในปี 63 ไทยส่งออกสบู่ ผงซักฟอก และยาสีฟัน ผ่านด่านแม่สอด มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท ส่วนช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.64 ส่งออกได้แล้วเกือบ 400 ล้านบาท  

  

ด้านนายธนวุฒิ นัยโกวิท อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง เมียนมา กล่าวว่า การห้ามนำเข้าครั้งนี้ ทางการเมียนมาให้เหตุผลว่า ต้องการส่งเสริมสินค้าในประเทศ ป้องกันการแข่งขันสินค้าจากต่างประเทศ ลดขาดดุลการค้ากับต่างประเทศ และลดการใช้เงินนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จึงได้ห้ามนำเข้าเฉพาะการนำเข้าของชาวเมียนมา ที่มีบัตร ITC ที่ทางการเมียนมาออกให้มากตั้งแต่ปี 2555 เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน 

“ที่ผ่านมา ทางการเมียนมาได้ออกบัตร ITC เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน ทำให้ชาวเมียนมา ข้ามฝั่งมาซื้อสินค้าไทยแล้วหิ้วกลับไปขายที่เมียนมาได้ไม่เกินวันละ 3 ล้านจ๊าด หรือสัปดาห์ละ 15 ล้านจ๊าด แต่การห้ามครั้งนี้ ชาวเมียนมา ที่มีบัตร ITC จะข้ามมาฝั่งไทย เพื่อหิ้วสบู่ ผงซักฟอก และยาสีฟันไปขายที่ฝั่งเมียนมาไม่ได้แล้ว เหลือแต่บริษัทนำเข้า ที่ได้รับอนุญาต ที่ยังนำเข้าได้ตามปกติ” 

ส่วนการห้ามนำเข้าเครื่องดื่ม 5 รายการชั่วคราว ได้แก่ เครื่องดื่มทุกประเภท เช่น น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง, เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟ และชา, กาแฟสำเร็จรูป,นมข้นหวาน และนมข้นจืด ผ่านด่านทางบก และให้นำเข้าทางทะเลแทน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.64 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงนั้น จากการหารือกับกระทรวงพาณิชย์เมียนมาช่วงที่ผ่านมา แจ้งว่า อาจนำเข้าเป็นเวลา 1 ปี

ขณะที่นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา กล่าวว่า ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ของไทย เร่งเจรจากับเมียนมา เพื่อแก้ปัญหาโดยเร็ว เพราะจะกระทบกับยอดการค้าชายแดนของไทยแน่นอน เนื่องจากชาวเมียนมาชอบสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยมาก และเชื่อว่า ในอนาคต เมียนมาอาจมีมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าอื่นๆ ได้อีก ส่วนกรณีที่ห้ามนำเข้าเครื่องดื่มทางบกนั้น ขณะนี้ ผู้ส่งออกได้หันไปส่งออกทางทะเลแทน แต่ต้องจองคิวนาน กว่าจะมีเรือและตู้คอนเทนเนอร์มารับสินค้าไทย ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้นถึง 20-30% จึงต้องปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และทำให้ขายยากขึ้น อาจทำให้สินค้าไทยเสียตลาดได้ในระยะยาว