STA นิวไฮรอบ 1.5 ปี หลังโชว์กำไร Q1/63 ที่ 854 ล้านบาท โตแรงกว่าตลาดคาด

STA นิวไฮรอบ 1.5 ปี หลังโชว์กำไร Q1/63 ที่ 854 ล้านบาท โตแรงกว่าตลาดคาด

STA พุ่งแตะ 17.90 บาท ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบปีครึ่ง หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2563 ที่ 854 ล้านบาท สูงกว่าตลาดคาดการณ์ และคิดเป็น 83% ของประมาณการทั้งปี

 ราคาหุ้น STA ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง ล่าสุด ขยับขึ้นไปแตะระดับ 17.90 บาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 854 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 627.67 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปี 2562 หลังความต้องการถุงมือยางพุ่งช่วงโควิด-19 เพิ่มขึ้นสูง ตั้งเป้ามีกำลังผลิต 1 แสนล้านชิ้่นต่อปี ในปี 2575

ขณะที่รายได้จากการขายและการให้บริการ ในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 17,481.1 ล้านบาทเติบโต 17.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจยางธรรมชาติ เติบโต 15.4% ถุงมือยางโต 26.1% จากปริมาณการขายที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดดตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและความต้องการในการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นช่วงการระบาดของโควิด-19 และการอ่อนค่าของเงินบาท

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 กลุ่มบริษัทศรีตรังมีกาลังการผลิตติดตั้งของถุงมือยางทั้งสิ้นราว 33,000 ล้านชิ้นต่อปี ตามที่ได้ตั้งเป้าขยายกาลังการผลิตของปี 2563 ไว้

ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขยายกาลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับความต้องการใช้ถุงมือยางที่เติบโตในอัตรา 10-12% ต่อปี เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตถุงมือยางที่ใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่มีกาลังการผลิต 50,000 ล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 2568 และ 65,000 ล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 2571 และ 100,000 ล้านชิ้นต่อปี ภายในปี 2575

สำหรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ยังคงดำเนินไปตามแผนงานและคาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 3/2563 โดยสัดส่วนหุ้นที่จะ IPO เป็นจำนวนไม่เกิน 31% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดของ STGT

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า เราคาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2563 ที่ 854 ล้านบาท และกำไรปกติที่ 983 ล้านบาท ดีกว่าคาดของตลาดมากจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 14% ในไตรมาสแรกนี้ จาก 7% เมื่อปีก่อน และกำไรจากธุรกิจถุงมือยางเร่งตัวขึ้นโดดเด่นจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นเพราะ COVID-19 โดยกำไรปกติไตรมาสแรก คิดเป็นสัดส่วน 83% ของประมาณกำไรปี 2563 ของ Consensus ที่ 1.2 พันล้านบาท จึงเชื่อว่าจะเห็นการปรับเพิ่มประมาณการกำไรอย่างมีนัยสำคัญ