B จ่อลงทุน 1.42 พันล้านบาทซื้อหุ้นบริษัทลูก MILL

B จ่อลงทุน 1.42 พันล้านบาทซื้อหุ้นบริษัทลูก MILL

บอร์ด บมจ. บี จิสติกส์ (B) อนุมัติแผนซื้อหุ้น 27.88% ในธุรกิจขยะซึ่งเป็นบริษัทลูก บมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) ด้วยมูลค่า 1.42 พันล้านบาท โดยจ่ายเป็นเงินสด และ/หรือสิทธิเรียกร้องลูกหนี้ คาดทำรายการแล้วเสร็จภายในปี 2567

นายปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2567 ของบริษัทฯ ซึ่งประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567 มีมติอนุมัติ ให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด (WTX) จำนวน 51,600,900 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 6.00 บาท ในราคาไม่เกินหุ้นละ 27.56 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 1,422,120,804 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.885787 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ WTX ที่ 185,043,730 หุ้น โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ WTX จากผู้ถือหุ้นเดิม 3 ราย หรือผู้รับโอนสิทธิดังนี้

บริษัท โมลิน เอนเนอร์ยี่จำกัด จำนวนหุ้น 10,574,000 หุ้น สัดส่วนร้อยละ 5.714325
บริษัท ฟังค์ชั่นแนล อินเวสเม้นท์ พีทีอี ลิมิเต็ด จำกัด จำนวนหุ้น 34,365,300 สัดส่วนร้อยละ 18.571448
นายธัญชาติ กิจพิพิธ  จำนวนหุ้น 6,661,600 สัดส่วนร้อยละ 3.600014

ภายหลังการดำเนินการตามสัญญาซื้อขายหุ้นที่ได้ตกลงกันเกิดขึ้นสำเร็จแล้ว บริษัทฯ จะซื้อหุ้น WTX ตามจำนวนที่ตกลงไว้ในราคาไม่เกินหุ้นละ 27.56 บาท คิดเป็นเงินจำนวนเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 1,422,120,804.00 บาท และบริษัทฯ จะชำระเงินจำนวน 461 ล้านบาท โดยการโอนสิทธิเรียกร้องลูกหนี้ของบริษัท และ/หรือ เงินสด

ทั้งนี้มูลค่ายุติธรรมของหุ้นของ WTX คิดเป็นมูลค่า 25.70 – 29.28 บาท/หุ้น ประเมินโดยวิธีการรวมมูลค่าของแต่ละกิจการ (Sum of The Parts Approach : SOTP)

แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการทำรายการ ได้แก่ เงินที่ได้รับคืนจากลูกหนี้การค้า และเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สิน เช่น ที่ดินที่จังหวัดภูเก็ต, เงินลงทุนในบริษัทอื่น เป็นต้น

สินทรัพย์ที่จะได้มาในครั้งนี้คือ หุ้นสามัญของ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด ไม่เกินจำนวน 51,600,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27.885787 ของทุนจดทะเบียน มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 6.00 บาท โดย ณ วันที่ 25 เมษายน 2567 บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด มีทุนจดทะเบียน 1,110,262,380.00 บาท ซึ่งได้ชำระเต็มมูลค่าแล้ว

โดยบริษัทฯ คาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายในปี 2567

บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลและบริหารจัดการกากขยะอุตสาหกรรม และรีไซเคิลอย่างครบวงจร ในการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มตามหลัก Zero waste โดยใช้นวัตกรรมและเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพขั้นสูงในการคัดแยกวัสดุมีค่า เช่น เหล็ก ทองแดง อะลูมิเนียม หรือพลาสติกชิ้นใหญ่ ก่อนส่งต่อเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้บริษัทสามารถก้าวสู่การเป็น Green Business เช่น เหล็กจะถูกขายให้แก่โรงงานหลอมเหล็กเพื่อนำไปทำผลิตภัณฑ์เหล็กในรูปแบบต่างๆ ส่วนวัสดุอื่นๆ จะมีการแปรรูปขยะอุตสาหกรรมให้เป็นเชื้อเพลิงแข็ง ป้อนให้โรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม

ปัจจุบัน WXT มีการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกอื่น ๆ เช่น โรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ขนาน 9.9 MW จำนวน 2 โรง ซึ่งจะมีรายได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นการทำสัญญาขายไฟฟ้าให้กับหน่วยงานจากภาครัฐซึ่งได้รับอัตราค่าซื้อไฟฟ้าในระดับที่สูง 

และอยู่ระหว่างศึกษาและเตรียมความพร้อมในการลงทุนในโรงไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น โรงไฟฟ้าชีวภาพ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Utilities) ตามแผนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของบริษัทบีจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) และมีทิศทางการเติบโตที่สูงขึ้นต่อเนื่อง

ตามทุนจดทะเบียน WTX มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นทั้งตัวบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย บริษัทจำกัด และบุคคลผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น โครงสร้างหลังทำรายการ"จะ"เป็นดังนี้
1) บมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) ถือครอง 121,599,998 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 65.714195
2) บมจ.บี จิสติกส์ ถือครอง 51,600,900 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.885787
3) บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) ถือครอง 11,842,830 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 6.400017 
4) นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ถือครอง 1 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.000001
5) น.ส.สุทธิรัตน์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ถือครอง 1 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.000001
- บจ.ฟังค์ชั่นแนล อินเวสเม้นท์ พีทีอีลิมิเต็ด ไม่เหลือการถือครอง (เดิมมี 34,365,300 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 18.571448)  
- บจ.โมลิน เอนเนอร์ยี่ ไม่เหลือการถือครอง (เดิมมี 10,574,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5.714325)  
- นายธัญชาติ กิจพิพิธ ไม่เหลือการถือครอง (เดิมมี 6,661,600 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.600014)