ปรับลง ตลาดนํ้ามันและปัจจัย "Covid-19" ยังเป็นลบ

ปรับลง ตลาดนํ้ามันและปัจจัย "Covid-19" ยังเป็นลบ

ทางบริษัทฯ กำหนดความเสี่ยงทางลงกรณีปกติไว้ที่ 1,000 (คำนวณจาก earnings yield gap 7.0%) และกรณีเลวร้ายที่สุดที่ 890 ซึ่งคำนวณจาก earnings yield gap 8.0%

KGI ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสฯ ปรับลดลง... หลังจากเมื่อวานนี้หุ้นไทยแข็งแกร่งกว่าที่เราประเมินเล็กน้อยบวกสวนตลาดหุ้นเอเชีย แม้ว่าจะผันผวนสูงตลอดทั้งวัน สาเหตุน่าจะเกิดจากข่าวตามสื่อต่างๆ ในช่วงบ่ายวานนี้ว่าภาครัฐฯได้จัดตั้งกองทุนพยุงหุ้นเตรียมไว้แล้ว... ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศล่าสุดยังคงเป็นลบตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปร่วงหนักต่อเมื่อคืน หลังการติดเชื้อไวรัสฯ ในสหรัฐฯ ลามไปถึงฟลอร์เทรดของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และสมาชิกสภาคองเกรสติดเชื้อหนึ่งราย ขณะที่นักลงทุนต้องการความชัดเจนมากกว่านี้ต่อมาตรการแจกเงินของโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงอย่างหนักมากลงต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมที่ 26 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ที่เกิดขึ้น ในช่วงสงครามราคาน้ำมันรอบที่แล้วในต้นปี 2559 และน่าจะกดดันหุ้นพลังงานขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ ทั้งนี้ ล่าสุด ธ.กลางยุโรปประกาศมาตรการฉุกเฉินตั้งกองทุนพิเศษมูลค่า 7.5 แสนล้านยูโร เพื่อซื้อตราสารทางการเงินเกือบทุกประเภทนับจากพันธบัตรไปถึงตั๋วเงินระยะสั้นของภาคเอกชนที่เรียกว่า commercial paper ซึ่งข่าวดังกล่าวอาจลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยได้บ้างแต่ไม่น่าจะพลิกสถานการณ์ได้ในช่วงที่การระบาดของ Covid-19 รุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของ SET Index นั้น ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงกำหนดความเสี่ยงทางลงกรณีปกติไว้ที่ 1,000 (คำนวณจาก earnings yield gap 7.0%) และกรณีเลวร้ายที่สุดที่ 890 ซึ่งคำนวณจาก earnings yield gap 8.0%

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เริ่มมองหาโอกาสลงทุน แต่ยังต้องระมัดระวัง

- เริ่มมองหาโอกาสลงทุน แต่ยังต้องระมัดระวัง เราประเมิน Valuation หุ้นไทยขณะนี้"ไม่แพง" แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะทำให้มีแนวโน้มที่ผลการดำเนินงาน 1Q63 ส่วนใหญ่จะอ่อนแอ แต่สำหรับหุ้นพื้นฐานดี + หนี้ต่ำ + พร้อมฟื้นตัวได้ใน 2H63 ถือเป็นโอกาสในการซื้อของถูก เราแบ่งกลุ่มการลงทุนออกเป็นกลยุทธ์ดังนี้

1) หุ้นที่เข้าสะสมได้ ใช้กลยุทธ์ Dollar cost average: เน้นหุ้นถูก + หนี้ต่ำ + ได้รับผลกระทบน้อย INTUCH* (DE < 1 เท่า, Dividend yield >6.4%), EGCO* (D/E < 1 เท่า, Dividend yield +3.5%),BCPG* (PE 8.9 เท่า ต่ำสุดตั้งแต่เข้าเทรดในตลาดฯ, Dividend yield 6.3%, D/E 1.4 เท่า ตอนนี้ลงมาทำให้มูลค่าตลาดฯต่อ MW ต่ำเพียง 45 ล้านบาท/MW ต่ำสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน) ...หุ้นกลุ่มนี้เน้นทยอยสะสม คาดผลการดำเนินงาน 1H63 จะ Outperform ตลาดฯ เนื่องจากแทบไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสฯขณะนี้

2) "หุ้นถูก" ถ้าไม่เกิดวิกฤตฯ ไม่น่าเห็นราคานี้ :  เราประเมินในขณะนี้มีหุ้นหลายตัวที่ปรับลงจนราคาถูก บางตัวราคาลงไปต่ำกว่าหรือใกล้เคียงสินทรัพย์สุทธิ (สินทรัพย์-หนี้สิน) หรือ Replacement cost (ต้นทุนการสร้างโรงงานใหม่) ในทางทฤษฎีอาจถือว่าเป็นเป้าหมายการ Take-over ได้เช่นกัน โดยเรา
เลือกหุ้นที่สถานะทางการเงินปลอดภัย ได้แก่ AMATA* (ราคาทุนของที่ดินหักด้วยหนี้สินเท่ากับ 9บาท/หุ้น), SCCC (ราคาตอนนี้  Discount จาก Replacement cost หรือต้นทุนการสร้างโรงงานปูนซีเมนต์ใหม่มากกว่า 50%), BBL* (PBV ±0.4 เท่า ใกล้ระดับวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540) ... หุ้นกลุ่มนี้
ทยอยสะสมได้สำหรับลงทุนระยะยาว หรือหากมี Panic sell น่าซื้อเก็งกำไร

3) หุ้นที่รอให้สถานการณ์เลวร้าย หรือมี Panic sell: เราประเมินหุ้นกลุ่มขนส่งอย่าง AOT*, BTS*, BEM* มีโอกาสที่จะถูกกดดันต่อเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสฯ รวมทั้งในกรณีเลวร้ายหากประเทศไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 มีโอกาสที่หุ้นกลุ่มนี้เกิด Panic sell ซึ่งเราประเมินว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เพื่อการลงทุนระยะยาว เนื่องจากประเมินสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี จึงไม่กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาว ขณะที่สถานะทางการเงินหุ้นกลุ่มนี้แข็งแกร่ง ... หุ้นกลุ่มนี้รอ Panic sell

หุ้นมีข่าว

(-) 'ฟิทช์' ห่วงนํ้ามันวูบ กระทบ 'กลุ่มปิโตรฯ' (กรุงเทพธุรกิจ) "ฟิทช์" คงเรทติ้ง "ไทย" ที่ BBB+ แต่ปรับ "มุมมอง" เป็น "คงที่" จากเดิม "เชิงบวก" เหตุ "3 ปัจจัย" ถ่วงเศรษฐกิจ ทั้งการแพร่ระบาดของโควิดงบปี 63 ล่าช้า ปัญหาการเมืองในประเทศ พร้อมหั่น "จีดีพี" ปีนี้เหลือโตแค่ 1% ประเมินธุรกิจขนาดใหญ่ยังแข็งแกร่ง ไร้ผลกระทบโดยตรง แต่ห่วง "กลุ่มน้ำมัน-ปิโตรฯ" อ่วม เจอสองเด้ง จากราคาน้ำมันทรุด

(+) TM-CPL โกยกำไรพุ่งอานิสงส์ไวรัสระบาด (ไทยโพสต์) "เทคโนเมดิคัล" กางแผนธุรกิจปี 2563 ตั้งเป้ารายได้ 650-700 ล้านบาท แย้มการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หนุนออเดอร์หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจลล้างมืออย่างต่อเนื่อง CPL เผย 2 เดือนสินค้ากลุ่มป้องกันโควิด-19 ดันยอดขาย 'แพงโกลิน' โต 6%

(+) 'ธุรกิจบริหารหนี้' เร่งขยายพอร์ตปีนี้ (กรุงเทพธุรกิจ) คาด "แบงก์-นอนแบงก์" ขายเอ็นพีแอลเกิน 1.7 แสนล้าน "ธุรกิจรับซื้อหนี้"  คาดปีนี้ แบงก์-นอนแบงก์เทขายหนี้เสียออก ไม่ต่ำกว่า 1.6-1.7 แสนล้านหลังเอ็นพีแอลทั้งระบบพุ่งเฉียด 5 แสนล้าน ผลกระทบเศรษฐกิจชะลอยาว CHAYO ตั้งเป้าซื้อหนี้มาบริหารปีนี้ 1 หมื่นล้าน ส่วน JMT* ตั้งงบลงทุนซื้อหนี้ปีนี้ 4.5 พันล้าน คาดคิดเป็นมูลหนี้นำมาบริหารกว่า 2.6 หมื่นล้าน

(+) GUNKUL* ทุ่มพันล. ซื้อหุ้นคืนรอบสอง (ข่าวหุ้น) บอร์ด GUNKUL* ไฟเขียวซื้อหุ้นคืนครั้งที่ 2 วงเงินไม่เกิน 1,100 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 440 ล้านหุ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 ก.ย.63 หลังราคาหุ้นลดลงต่ำกว่าพื้นฐาน ฟาก “โศภชา” ย้ำรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 9 พันล้านบาท หรือโต 25%

(+) AOT* ลุยดอนเมืองเฟส 3 มูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) บอร์ด AOT* ไฟเขียวแผนพัฒนาสนามบินดอนเมือง เฟส 3 วงเงินกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท รวม 6 กลุ่มงาน เพื่อเพิ่มขีดการรองรับผู้โดยสารเป็น 40 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบัน 30 ล้านคนต่อปี เตรียมส่งต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อชงครม.พิจารณา
ต่อไป

(-) AWC* ยกระดับพลิกสู้โควิด-19 ลดค่าเช่า 50%-ทำประกันให้พนง. (ทันหุ้น) บริษัท แอสเสทเวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC* ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เข้าใจในสถานการณ์และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ในประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ้ที่มากขึ้น AWC* มีความห่วงใยและพร้อมยกระดับการดูแลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง หมด และร่วมมือร่วมใจกันให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้อย่างดีที่สุด