Trade Talks Hope

Trade Talks Hope

คาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,615 - 1,620 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตอบรับความคาดหวังเชิงบวกการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปรับตัวลง -8.68 จุด (-0.54%) ปิดที่ระดับ 1,607 จุด ด้วย Volume 5.1 หมื่นล้านบาท จากข้อมูลที่สับสนเกี่ยวกับการเจรจาข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนหลังสื่อจีนรายงานว่าการเจรจายังไม่มีความคืบหน้า ประกอบกับแรงขายหุ้นที่คาดว่างบ 3Q19 จะชะลอตัวลง เช่น กลุ่มธนาคาร และ SCC เป็นต้น ส่วนนักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ 3,210 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX จำนวน 10,059 สัญญา และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 83 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลาง-บวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,615 - 1,620 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตอบรับความคาดหวังเชิงบวกการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังปธน.ทรัมป์เผยว่าจะพบปะกับนายหลิว เหอ ผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีนในวันนี้ รวมทั้งการเจรจาวันแรกเป็นไปอย่างราบรื่นซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุนทั่วโลก ประกอบครม.เศรษฐกิจเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวชุดใหญ่ในวันนี้ และราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและภาวะตลาด อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นตามสัญญาณเทคนิค รวมถึงความกังวลนักลงทุนต่างชาติเป็น Net Short TFEX S50 2 วันต่อเนื่องราว 2.2 หมื่นสัญญาซึ่งจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • AOT ,ERW , MINT ครม.เศรษฐกิจเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวชุดใหญ่ในวันนี้ 11 ต.ค.
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
  • Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

  • DTAC (ปิด 57 ซื้อ/เป้า 68) ราคาหุ้นที่ลดลงมากว่า 14%ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนความกังวลต่อการแข่งขันที่สูงขึ้นในอุตสาหกรรมไปแล้ว ขณะที่ผลประกอบการ 3Q19 ยังเติบโตแข็งแกร่งจึงมองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ 3Q19 ประมาณ 1.7 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 922 ล้านบาทใน 3Q18
  • BCH (ปิด 15.8 ซื้อ/เป้า 19 บาท) ราคาหุ้นที่ลดลงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจากมองว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้วและจะเริ่มเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 3Q19 เนื่องจากเป็นช่วง High season ของธุรกิจ ขณะเดียวกันยังมี Upside จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากประกันสังคมเพราะบริษัทไม่ได้ปรับขึ้นค่ารักษาจากส่วนนี้มานานแล้ว (ขึ้นครั้งสุดท้ายคือ ก.ค.ปี 2017)

บทวิเคราะห์วันนี้

BGRIM (ปิด 45.75 ขาย/เป้า 37)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+/-) Trade deal ยังมีลุ้น หลังทรัมป์ ทวิตต์จะเข้าพบกับ หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนในวันนี้ : สถานการณ์การเจราจาเพื่อยุติข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังพอมีทางออก เนื่องจากล่าสุด โดนัล ทรัมป์ ออกมาเปิดเผยว่าการเจรจาระหว่างสองประเทศในวันที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี และวันนี้ โดนัล ทรัมป์ จะเข้าพบปะกับนาย หลิวเหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีนในการประชุมที่จะมีขึ้นเป็นที่ 2 ทำให้ตลาดมีความหวังเชิงบวกว่าทั้งสองประเทศอาจจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันบางส่วนในการเลื่อนหรือยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาตรการภาษีชุดใหม่ที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 30% มูลค่า 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.19 เป็นต้นไป
  • (-) World Bank มองลบ ลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้และปีหน้า เป็น 2.7% และ 2.9% จากเดิม 3.5% และ 3.6% ตามลำดับ : ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทยมาจากหลายปัจจัยนำโดย การส่งออกที่ลดลงมากกว่าที่เคยคาดไว้เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากสงครามการค้าโดย World bank ลดคาดการณ์การส่งออกในปีนี้เป็น -5.3% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 2.2% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันอื่นๆ อาทิ ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ, อัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐที่ค่อนข้างต่ำ จากความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล และเงินงบประมาณประจำปีที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ส่งผลให้การลงทุนภาครัฐไม่ขยายตัว ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐส่วนใหญ่เป็นมาตรการระยะสั้นคาดว่าจะเพิ่มอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ไม่มาก
  • (-) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี กังวลเศรษฐกิจถดถอย จากภัยแล้ง, น้ำท่วม และ ปัญหาสงครามการค้า : มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. ลดลงสู่ระดับ 72.2 จาก 73.6 ในเดือน ส.ค. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง, น้ำท่วม ขณะที่ภาพรวมยังถูกกดดันจากปัญหาสงครามการค้า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำจะทำให้ประชาชนยิ่งเพิ่มความระมัดระวัง และชะลอการจับจ่ายใช้สอยนับเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มค้าปลีก กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มอสังหาฯ รวมไปถึงการเติบโตของ GDP ที่ยังย่ำแย่ต่อไป