ข่าวสหรัฐเตรียมจำกัดลงทุนจีนฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วง

ข่าวสหรัฐเตรียมจำกัดลงทุนจีนฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วง

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (27ก.ย.)ปรับตัวร่วงลงสู่แดนลบ หลังมีข่าวว่า สหรัฐเตรียมจำกัดการลงทุนในจีน และปลดบริษัทจีนออกจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 70.87 จุดหรือ 0.26% ปิดที่ 26,820.25 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 15.83 จุดหรือ 0.53% ปิดที่ 2,961.79 จุด และดัชนีแนสแด็กลบ 91.03 จุดหรือ 1.13% ปิดที่ 7,939.63 จุด

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาที่จะจำกัดการลงทุนของสหรัฐในจีน และปลดบริษัทจีนออกจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวกำลังพิจารณาที่จะจำกัดพอร์ทการลงทุนของนักลงทุนสหรัฐในจีน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะสร้างความตื่นตระหนกในตลาดการเงิน และส่งผลกระทบต่อการลงทุนวงเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับดัชนีหุ้น

บลูมเบิร์ก ยังรายงานว่า แนวทางหนึ่งในการจำกัดการลงทุนของสหรัฐในจีน คือการปลดบริษัทจีนออกจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ และจำกัดการลงทุนของกองทุนบำนาญของรัฐบาลสหรัฐในตลาดจีน

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในเดือนหน้า

แหล่งข่าวระบุว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ขณะที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดไว้

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนก.ค.ซึ่งการชะลอตัวของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนส.ค. ได้รับผลกระทบจากการลดลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน และรถยนต์

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากทรงตัวในเดือนก.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานทรงตัวในเดือนส.ค.และเมื่อเทียบรายปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนส.ค.