การท่าเรือฯอุทธรณ์แหลมฉบัง “สกพอ.”หนุนทีมกฎหมายสู้

เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ในฐานะประธานประชุมคณะกรรมการคัดเลือกโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เปิดเผยว่า คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ประชุมวานนี้ (4 ต.ค.) เพื่อรับทราบรายงานความคืบหน้าของการประมูลโครงการ และคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้เพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ที่ให้กิจการร่วมค้าเอ็นซีพี ไม่ผ่านการประเมินซองที่ 2 (คุณสมบัติทั่วไป)

“วันนี้ได้รายงานข้อมูลคำตัดสินของศาลปกครองให้กับคณะกรรมการคัดเลือกฯ ทราบ ส่วนเรื่องที่เราจะอุทธรณ์ต่อศาลปกครองเพิ่มเติมนั้น ถือเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอรวบรวมข้อมูลจากทางคณะกฎหมาย และทราบว่าสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้มีการยื่นขอให้สำนักอัยการเข้ามาช่วยทำคดีนี้ เนื่องจากเป็นคดีด้านปกครอง และเราก็เป็นหน่วยงานภาครัฐ”

เรือโทกมลศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่สามารถตอบได้ว่าทางคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะยื่นอุทธรณ์ในประเด็นอย่างไร เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนรวบรวมข้อมูล ประกอบกับการยื่นอุทธรณ์นั้นถือเป็นหน้าที่ของทางคณะกฎหมาย และอัยการ ขณะที่การดำเนินงานในขั้นตอนคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ปัจจุบันคณะกรรมการคัดเลือกฯ ยังไม่ได้เริ่มขั้นตอนเจรจากับเอกชนที่ผ่านการประเมิน รวมทั้งยังไม่ได้กลับไปเปิดซองเอกสารของกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นซีพี

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า การยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ โดยฝ่ายกฎหมายของ กพอ.พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือหาก กทท.มีปัญหาข้อกฎหมาย

นายคณิศ กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการขนาดใหญ่โครงการอื่นคาดว่าเดือน ต.ค.นี้ จะลงนามได้ 3 โครงการคือ 1.โครงการท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 เฟส 1 วงเงิน 4.79 หมื่นล้านบาท โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ลงนามร่วมกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา 

2.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา) ซึ่งลงนามกับกลุ่มซีพีวันที่ 15 ต.ค.นี้ และ 3.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก

รายงานข่าวจาก สกพอ.ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา รับทราบคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา โดย กพอ.กำหนดให้คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

สำหรับคำพิพากษาศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ ที่ให้กิจการร่วมค้าเอ็นซีพี ไม่ผ่านการประเมินในซองที่ 2 โดยให้การเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ มีคำสั่ง และให้มีผลต่อไปจนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด รวมทั้งมีคำสั่งให้ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (กพอ.) และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (คณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ)

ทั้งนี้ การประมูลพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 มูลค่าการร่วมลงทุน 84,000 ล้านบาท มีผู้ยื่นซองประมูลเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา 2 กลุ่ม คือ 1.กิจการร่วมค้าจีพีซี ประกอบด้วย บริษัทพีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (กลุ่ม ปตท.) บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ China Harbour Engineering Company Limited

2.กิจการร่วมค้าเอ็นซีพี ประกอบด้วย บริษัทแอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด บริษัทนทลิน จำกัด บริษัทพริมา มารีน จำกัด (มหาชน) บริษัทพีเอชเอส ออแกนิค ฮิลลิ่ง จำกัด และ China Railway Construction Corporation Limited

ทั้งนี้ กลุ่มเอ็นซีพีได้รับแจ้งจาก กทท.เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2562 ถึงการถูกตัดสิทธิเป็นผู้ประมูล เพราะลงนามในเอกสารไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้กิจการร่วมค้าเอ็นซีพีร้องผู้ตรวจการแผ่นดินวันที่ 25 เม.ย.2561 และยื่นคำร้องศาลปกครองในวันที่ 26 เม.ย.2562