'โอนเงิน'ผ่านไลน์เริ่มต้นปีหน้า...'เคแบงก์'จัดให้!

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เตรียมเปิดให้บริการ “โอนเงิน-จ่ายเงิน” ผ่านไลน์ภายในต้นปี 2563 ซึ่งถือเป็นบริการแรกหลังจากที่ ธนาคารกสิกรไทย ได้ผนึกความร่วมมือกับ ไลน์ ไฟแนนเชียล เอเชีย โดยจัดตั้งเป็น บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด ขึ้นมาเมื่อปลายปี 2561

นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารเตรียมเปิดให้บริการธุรกรรมการเงินบนแพลตฟอร์ม "ไลน์" ภายใต้ต้นปี 2563 เพื่อให้ลูกค้าที่มีบัญชีกสิกรไทยและลูกค้าใหม่ที่เปิดบัญชีใหม่ ภายใต้ บริษัท กสิกร ไลน์ สามารถทำธุรกรรม โอนเงิน จ่ายเงินบนแพลตฟอร์มไลน์ได้ การให้บริการรูปแบบนี้ถือเป็นการให้บริการข้ามแพลตฟอร์มและกสิกรถือเป็นธนาคารแรกที่เปิดให้บริการทางการเงินรูปแบบดังกล่าว 

“เรากำลังสร้างนวัตกรรมใหม่ หรือสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นบนไลน์ เพื่อให้ทั้งลูกค้ากสิกรไลน์ ที่เปิดบัญชีใหม่ และลูกค้ากสิกรไทย ที่มีการใช้เคพลัสสามารถเข้ามาใช้แพลตฟอร์มนี้ได้ โดยไม่ต้องผ่านการเข้าแอพพลิเคชั่นของกสิกรไทยเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินอีก และสามารถทำธุรกรรมการเงินได้ผ่านไลน์ขั้นตอนเดียวจบ ผ่านวอลเลจที่เราสร้างขึ้นมา ซึ่งเชื่อว่าลูกค้าจะหันมาทำธุรกรรมผ่านไลน์ค่อนข้างมาก เพราะวันนี้หากดูการทำธุรกรรมผ่านไลน์พบว่ามีถึง 44 ล้านคน ขณะที่เคพลัสก็มีอยู่ในปัจจุบัน 11.4 ล้านราย ดังนั้นการให้บริการนี้ก็จะถือเป็นมิติใหม่ที่ไม่ใช่รูปแบบเดิมๆอีกต่อไป”

ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่า หลังจากให้บริการบนแพลตฟอร์มไลน์ จะเห็นยอดการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มนี้ราว 1 ล้านบัญชีใน 1 ปีหลังจากเปิดให้บริการ นอกจากนี้ อนาคตจะเห็นการต่อยอดการให้บริการบนแพลตฟอร์มไลน์เพิ่มขึ้นอีก ภายในไตรมาส 3 ปีหน้า เช่น การให้บริการด้านสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิตต่างๆ

ส่วนการจับมือกับบริษัทที่ให้บริการด้านขนส่ง อย่าง แกร็ปในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้ร่วมมือกับแกร็ปเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่น ที่เป็นกระเป๋าเงิน คือ แกร็บเพย์ บาย เคแบงก์ (GrabPay by KBank) เพื่อรองรับการชำระเงินค่าบริการต่างๆ ผ่านมือถือ ปัจจุบัน มียอดการเปิดใช้บริการกระเป๋าเงินดังกล่าวแล้ว 100,000 บัญชี และคาดว่าสิ้นปีนี้ จะเห็นยอดการใช้เปิดกระเป๋าเงินดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 300,000 บัญชีได้ ส่วนการให้สินเชื่อกับสมาชิกแกร็ป ปัจจุบัน มียอดปล่อยสินเชื่อแล้ว 50 ล้านราย ซึ่งคาดว่าสิ้นปีจะเห็นยอดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสู่ 100 ล้านบาทได้

ด้านนาย​พัชร​ ส​มะ​ลา​ภา​ กรรมการ​ผู้จัดการ​ ธนาคาร​กสิกรไทย​ กล่าวว่า ปัจจุบัน หากดูการเติบโตของตลาด​อีคอมเมิร์ซของไทย พบว่ามีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2561 ตลาดดังกล่าวเติบโต 14% หรือมีมูลค่า 2.5 ล้านล้านบาท ขณะที่ปี 2562 คาดว่าจะเติบโตอีก 20% ซึ่งเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรม ไปทำธุรกิจออนไลน์มากขึ้น

ดังนั้นเพื่อตอบโจทย์ การเติบโตของธุรกิจค้าขายออนไลน์ ธนาคารจึงมีการจัดตั้ง MADHUB ศูนย์รวมโซลูชั่นสำหรับคนซื้อขายออนไลน์ด้วย เช่นการให้การสนับสนุนด้านความรู้ ในการทำธุรกิจออนไลน์ และช่วยแก้ไขปัญหาการทำบัญชี การบริหารสต๊อก การจัดการหน้าร้าน การหาลูกค้า การทำโฆษณา การหาลูกค้าต่างๆ

อีกทั้ง ธนาคารยังมีการให้การสนับสนุนผ่าน MADCOURSE หรือ คอร์สเรียนออนไลน์ ฟรี24 ชั่วโมง ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้ที่สนใจจะเข้ามาทำธุรกิจออนไลน์ค่อนข้างมาก จากปกติ ที่ค่าเรียนการทำตลาดออนไลน์ต่างๆมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง โดยธนาคารคาดว่าจะเห็นผู้ที่สนใจสมัครเป็นสมาชิก MADHUB ภายในสิ้นปีนี้ ถึง 150,000 คนได้

นอกจากนี้ หากดูการทำธุรกิจออนไลน์ ที่ผ่านมา มักมีต้นทุนสูง โดยเฉพาะค่าโฆษณา ค่าขนส่งต่างๆ ดังนั้นธนาคารจึงมีการออกบัตรเดบิต MADCARD ซึ่งเป็นบัตรเดบิตใบแรกที่ให้ส่วนลดค่าโฆษณา เมื่อซื้อโฆษณาบน เฟสบุ๊ก อินสตราแกรม หรือกูเกิ้ล โดยจะได้รับเงินคืน 1% และ 0.5% สำหรับการการทำธุรกรรมบนออนไลน์ ซึ่งจะได้รับเงินคืนสูงสุดต่อเดือน 1,000 บาท และได้รับส่วนลด50% ในการซื้อสมุดเช็ค ผ่านจ่ายผ่านบัตรเดบิตดังกล่าว

ขณะที่ ยังมีการเปิดตัวอีกหนึ่งบัตร ร่วมกับ บริษัทเคอรี่เอ็กซ์เพลส คือบัตร MADCARD FOR KERRY EXPRESS ที่ผู้ใช้บริการบัตรดังกล่าวจะได้สิทธิประโยชน์พิเศษผ่านการถือบัตรดังกล่าวด้วย โดยเบื้องต้นธนาคารตั้งเป้ายอดการสมัครบัตรเดบิต MADCARD ราว 1แสนใบ และบัตรเดบิต MADCARD FOR KERRY EXPRESS ที่ 1ล้านใบ

"ทั้งนี้ หากดูบัตรเดบิต ทั้งสองประเภท พบว่า เป็นบัตรเดบิตใบแรก ที่มีการผูกกับบัญชี​เงินฝากกระแสรายวัน ซึ่งจะทำให้อนาคตผู้ถือบัตรดังกล่าวสามารถใช้บริการเบิกเกินบัญชี หรือเงินโอดีได้อีกด้วย หากแบงก์เห็นการเดินบัญชี การทำธุรกรรมผ่านออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้แบงก์ยังมีโปรดักส์ MADFUND หรือสินเชื่อเพื่อการหมุนเวียนให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยได้เตรียมพร้อมวงเงินปล่อยกู้ไว้แล้ว5พันล้านบาท"

ทั้งนี้หากดูยอดปล่อยสินเชื่อให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในปัจจุบัน อยู่ที่ราว 5.3พันล้านบาทแล้ว คาดว่าสิ้นปีจะเห็นยอดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มเป็น 10,000 ล้านบาทได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-เคแบงก์ตั้ง 'กสิกร ไลน์' ปล่อยกู้รายย่อย
-เคแบงก์ เซอร์วิส จับมือ คาเฟ่ อเมซอน เปิดให้บริการรับฝากเงิน
-'เคาน์เตอร์เซอร์วิส' ชน 'เคแบงก์-บิ๊กซี'
-โซเชียลบ่นอุบ! 3 ธนาคาร ระบบมีปัญหา ตรงกับวันเงินเดือนออก