เปิดวิธีคิดมองกรุงเทพฯ "ดร.ยุ้ย-เกษรา" จากวงการอสังหาฯ สู่มือขวาทีมเศรษฐกิจ "ชัชชาติ"

เปิดวิธีคิดมองกรุงเทพฯ "ดร.ยุ้ย-เกษรา" จากวงการอสังหาฯ สู่มือขวาทีมเศรษฐกิจ "ชัชชาติ"

ทำความรู้จัก "ดร.ยุ้ย" เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ จากวงการอสังหาริมทรัพย์ สู่ทีมนโยบายเศรษฐกิจ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ผ่านวิธีคิดมองปัญหากรุงเทพฯ

พลันที่ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" อดีต รมว.คมนาคม และผู้เสนอลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ ออกมาเปิดเผยว่า ได้เชิญชวน ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หรือ "ดร.ยุ้ย" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  มาร่วมทีมนโยบายแก้ปัญหาของเมือง ท่ามกลางกระแสเตรียมความพร้อมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในช่วงต้นปี 2565

เป็นหนึ่งความเคลื่อนไหวจากผู้เสนอตัวลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ตัวเต็งอีกหนึ่งราย หลังจาก "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจประชาชน เรื่อง "อยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ 6" เมื่อ 3 ต.ค.64 พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 29.74 มีชื่อ "ชัชชาติ" เป็นบุคคลที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่

แน่นอนว่าการขยับจาก "ชัชชาติ" ครั้งนี้ ทำให้ทุกแสงสปอร์ตไลท์จับจ้องไป "ดร.ยุ้ย" จะเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มทีมนโยบายเศรษฐกิจ "ชัชชาติ" ต่อแผนร่างนโยบายหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังจากเส้นทางทั้งสองเคยรู้จักสมัยเป็นอาจารย์ที่จุฬาฯ โดย "ดร.ทริป" เป็นอาจารย์ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ส่วน "ดร.ยุ้ย" เป็นอาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี 

เปิดวิธีคิดมองกรุงเทพฯ "ดร.ยุ้ย-เกษรา" จากวงการอสังหาฯ สู่มือขวาทีมเศรษฐกิจ "ชัชชาติ"

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดตัว "ดร.ยุ้ย" ชัชชาติ ดึงเสริมทัพร่วมทีมนโยบาย ลุยเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์และนักวิชาการคงไม่มีใครไม่รู้จัก "ดร.ยุ้ย" ทว่าหลังจากนี้ ผศ.ดร.เกษรากำลังก้าวเข้ามาสู่แวดวงทางการเมืองในนามทีมนโยบาย "ชัชชาติ" โดยในเฟซบุ๊ค "ดร.ยุ้ย เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ "ทำความรู้จักกับ ดร.ยุ้ยเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ เปิดตัวร่วมทีมนโยบายกับชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพื่อกรุงเทพฯ ที่ดีกว่า" มีเนื้อหาดังนี้

เริ่มที่ "ดร.ยุ้ย" ได้แนะนำตัวปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประสบการณ์ที่ยาวกว่านั้นคือเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่จุฬาฯ เป็นอาจารย์คณะบัญชี ประมาณ 10 กว่าปีได้ ทำอยู่ 2 อาชีพ ก็คงถนัดทำเรื่องที่อยู่อาศัย 

กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่หาสีขาวและดำได้ง่ายมาก หาสีขาวคือเจริญมาก สะอาดมาก น่าอยู่มาก หรูหรามาก และจะหาสีดำคือ เก่ามาก สกปรกมาก ปัญหาเยอะมาก และอยู่ใกล้กันมากด้วย 

ทำไมตัดสินใจมาเป็นทีมเศรษฐกิจ "เพื่อนชัชชาติ" ?

เชื่อมั่นว่าพี่ชัชชาติ จะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่ดีได้ สิ่งที่เข้ามาช่วยนโยบาย เป็นสิ่งที่คิดว่ามีความชำนิชำนาญก็คือเรื่องการเงิน กับเรื่องที่อยู่อาศัย กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ดูเหมือนจะน่าอยู่ เอาเป็นว่าน่าเที่ยวดีกว่า เรามักจะเห็นกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่คนมาเที่ยวเยอะมาก แต่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ว่าเป็นเมืองที่ยังมีคนไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก 

ทั้งที่จริงๆ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ เราจะพูดกันเสมอว่าเป็นธุรกิจที่ "โอเวอร์ซัพพลาย" แสดงว่าเหลือเยอะมาก แต่ทำไมคนยังไม่มีที่อยู่อาศัยเยอะมาก ก็เห็นชัดๆ อยู่แล้วว่าเกิดขึ้นจากที่คนเหล่านั้นไม่มีรายได้เพียงพอในการจะซื้อที่อยู่อาศัย ตามโครงสร้างตลาดบอกชัดๆ อยู่แล้ว แสดงว่าระบบกลไกตลาดไม่ทำงาน 

เปิดวิธีคิดมองกรุงเทพฯ "ดร.ยุ้ย-เกษรา" จากวงการอสังหาฯ สู่มือขวาทีมเศรษฐกิจ "ชัชชาติ"

เมืองที่ดีคืออะไร ?

กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจสูง แต่อยู่ในกลุ่มๆ หนึ่ง ประเทศไทยคือกรุงเทพฯ กรุงเทพฯคือประเทศไทย เพราะว่าเมืองไทย เมืองหลักกับเมืองรองช่องว่างใหญ่ ดังนั้นจึงคิดว่า การที่เราพูดว่าเรามีระยะห่างเชิงรายได้ เราทุกคนเคยได้ยิน ความเหลื่อมล้ำสูงมากในประเทศไทย คิดว่านั่นคือกรุงเทพฯ นี่แหละ ความเหลื่อมล้ำของคนระยะห่างใหญ่มาก แล้วระยะห่างนี้ไม่ปิดเอง ต้องมีมือที่สามอย่างทางการเข้าไปช่วย ถึงจะปิดได้

เพิ่มรายได้ตัดวงจรความยากจน ?

เมื่อเราเข้ามาในชุมชนแล้ว ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย จะแก้แค่ที่อยู่อาศัยไม่ได้ เพราะเขาไม่มีทางซื้อที่อยู่อาศัยได้ถ้าเราไม่สามารถจะตัดวงจรความยากจน หรือว่าทำให้เขามีรายได้ ได้บ้าง เราก็ทำให้เขามีแต่หนี้เพิ่มโดยการหาที่อยู่อาศัยให้เขา

เปิดวิธีคิดมองกรุงเทพฯ "ดร.ยุ้ย-เกษรา" จากวงการอสังหาฯ สู่มือขวาทีมเศรษฐกิจ "ชัชชาติ"

เราทำได้ดีที่สุดคือว่า ทำที่อยู่อาศัยให้ราคาถูกที่สุดแต่ก็เป็นหนี้อยู่ดี ดังนั้นต้องช่วยในเชิงให้เป็นหนี้ที่ถูกที่สุด ทำให้เป็นหนี้ที่ผ่อนยาวที่สุด เป็นหนี้ที่ดีที่สุด แต่เราต้องช่วยเขาหารายได้ด้วย ไม่นั้นเราจะช่วยแต่หนี้

"การตัดความยากจน มันคือการศึกษา และการศึกษาที่จะตัดความยากจน ไม่จำเป็นต้องหมายถึงแค่เด็ก เราไม่ต้องรอให้เด็กแล้วโตขึ้นมาช่วยพ่อแม่ แต่เราทำได้ตั้งแต่ยุคนี้เลย แล้วทำให้เป็นเชิงสกิลแทน อย่างน้อยเขาไม่ใช่แค่รับจ้างทั่วไปที่ถูกแทนที่ได้เสมอ และแทบไม่มีรายได้เพิ่มขึ้นเลย"

เมืองกับคนรุ่นใหม่ ?

พี่เกิดที่เมืองนี้ ลูกพี่ก็เกิดเมืองนี้ หลานพี่ก็คงเกิดเมืองนี้ต่อ เราเองอยากจะทำให้อย่างน้อยคน 3-4 เจเนอเรชันที่จะเกิดหลังจากนี้ ได้อยู่ในเมืองที่ทุกคนมีความสุขมากขึ้น 

ประวัติ ผศ.ดร.เกษรา

สำหรับประวัติ "ดร.ยุ้ย" เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด จบการศึกษาจากโรงเรียนมาแตร์เดอี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ก่อนไปศึกษาต่อชั้นปริญญาโทด้านการเงินที่ University of California at Riverside และปริญญาโทและเอกด้านเศรษฐศาสตร์ โดยทุนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ Claremont Graduate University 

เมื่อสำเร็จปริญญาเอก ได้เข้ามาเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ก่อนร่วมช่วยงานของครอบครัวด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และก้าวขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เสนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

เปิดวิธีคิดมองกรุงเทพฯ "ดร.ยุ้ย-เกษรา" จากวงการอสังหาฯ สู่มือขวาทีมเศรษฐกิจ "ชัชชาติ"

อ่านที่เกี่ยวข้อง : โพรไฟล์ธุรกิจ“ดร.ยุ้ย”ทายาทอาณาจักรอสังหาฯพันล. ก่อน“ชัชชาติ” ดึงช่วยงาน