วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง มาตรการ Digital Wallet

โดยมีแนวรับหลักที่ 1,343 จุด ส่วนแนวต้านหลักอยู่ที่ 1,432 จุด

 

ประเด็นสำคัญวันนี้ ได้แก่

+/-3Q23 Earnings Results: คาดส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นรายหลักทรัพย์หรือรายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง หากออกมาดีหรือแย่กว่าคาดการณ์ โดยไฮไลท์วันนี้ ในต่างประเทศ ได้แก่ Allianz ฯลฯ ส่วนบจ.ไทย ทยอยประกาศงบต่อเนื่อง ได้แก่ BAM BEM CBG CENTEL CHG COM7 CPALL SJWD TCAP THG VGI

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ได้แก่

+/-US: จับตาตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐฯ U of Michigan Consumer Sentiment เดือน พ.ย. (Consensus คาดว่าอยู่ที่ 63.7 Vs เดือน ต.ค. 63.8) ส่วนมุมมองต่อเงินเฟ้อในช่วง 1 ปี และ 5 ปีข้างหน้า อยู่ที่ระดับเดิม 4.2% และ 3% ตามลำดับ

+/-สุนทรพจน์ที่ต้องติดตาม คือ US สุนทรพจน์ Fed Atlanta Bostic (non-voter) และ Fed Dallas Logan (voter) ต่อแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยเฟดในการประชุมครั้งต่อไป โดยจะเป็นบวกต่อตลาด หากมีการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยทั้งในระยะสั้นและในอนาคต ส่วน EU จับตาสุนทรพจน์ประธานอีซีบี Lagarde โดยคาดว่าจะเป็นสัญญาณบวกต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของ ECB ที่คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวยาวนาน หลังจากคงดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในการประชุมล่าสุด

/-Thailand: การส่งสัญญาณของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการ Digital Wallet ในวันศุกร์นี้ ส่งผลให้การประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ในวันนี้ คาดว่าจะมีความชัดเจนต่อเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าใครบ้างจะเป็นผู้ได้รับเงิน 1 หมื่นบาท สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 16 ปี ขึ้นไป พร้อมทั้งระยะเวลาในการแจกเงิน รวมถึงเม็ดเงินงบประมาณในมาตรการดังกล่าว (เราคาดว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2024E ให้มีการเติบโตสูงต่อเนื่อง ภายใต้ความไม่แน่นอนของเหตุสงครามที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวและภาคการบริโภคในประเทศ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักแย่กว่าคาดการณ์ ขณะที่การปรับปรุงจำนวนผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าว จะส่งผลบวกต่อตัวเลขตัวทวีทางการคลังดีขึ้น และลดความเสี่ยงที่จะถูกหั่นเครดิตของสถาบันจัดอับดับเครดิตชั้นนา)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ เก็งกำไรบจ. ที่มีประเด็นบวก แนะนำ LH (คาดกำไรเติบโตสูงใน 4Q) AOT (จำนวนผู้โดยสารปี 2023 สูงกว่าเป้าหมาย) RS (กำไรเติบโต)

 

Strategic daily picks

LH   ปิด 7.60 บาท/แนวรับ 7.20 บาท แนวต้าน 8.00 บาท

เตรียมเปิด 8 โครงการแนวราบใหม่ มูลค่ารวมเกือบ 3 หมื่นล้านบาท และคอนโดมิเนียม “วันเวลา ณ เจ้าพระยา” มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท (เปิดขายช่วงปลายเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา) คาดส่งผลให้ยอดขาย 4Q23 เติบโตสูงสุด และเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3.5 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ใน 4Q23 บริษัทจะขายสินทรัพย์ 2 โรงแรม (โรงแรม Grande Centre Point Pattaya และ Grande Centre Point Space Pattaya) เข้า LHHOTEL ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้และกำไรเข้ามา Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q23 และปี 2023 ที่ 1.39 พันล้านบาท (-37.77% YoY) และ 8.10 พันล้านบาท (-2.54% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 9.83 บาท

 

AOT    ปิด 69.00 บาท/แนวรับ 66.00 บาท แนวต้าน 71.00 บาท

คาดการณ์เบื้องต้นปริมาณผู้โดยสารทั้ง 6 ท่าอากาศยาน ในความรับผิดชอบของบริษัทใน 4Q23 (เดือน ส.ค.-ก.ย. 2023) อยู่ที่ 3 แสนคน/วัน (เทียบเท่ากับปี 2019 ที่ 4.5 แสนคน/วัน) ส่วนสำหรับทั้งปี 23 คาดอยู่ที่ 120 ล้านคน สูงกว่าที่บริษัทเคยทำประมาณการแจ้งต่อ SET ที่ 96 ล้านคน พร้อมปรับอัตราค่าเช่าพื้นที่ภายในทั้ง 6 แห่ง ได้ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. 2023 Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 (เดือน ต.ค. 2022-ก.ย. 2023) ที่ 9.72 พันล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิ 1.11 หมื่นล้านบาท ในปี 2022) และมูลค่าเหมาะสมที่ 80.64 บาท

 

RS    ปิด 13.90 บาท/แนวรับ 13.40 บาท แนวต้าน 14.40 บาท

คาดการเติบโตของรายได้รวมในปี 2023 เป็นไปตามเป้าหมายที่ไม่น้อยกว่า 25% หรือแตะระดับ 4.4 พันล้านบาท (รายได้จากธุรกิจพาณิชย์ 1.75 พันล้านบาท และจากธุรกิจ Entertainment 2.65 พันล้านบาท) นอกจากนี้ คาดเม็ดเงินสื่อโฆษณาในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2023 มีอัตราการขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วง high season Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q23 และปี 2023 ที่ 483.50 ล้านบาท (+491.82% YoY) และ 204.33 ล้านบาท (+49.07% YoY) ตามลำดับ และมูลค่าเหมาะสมที่ 15.98 บาท