'ข้อมูลพลิกฟื้นผืนป่า' กุญแจสู่การฟื้นฟูระบบนิเวศบราซิล"

ระบบนิเวศของบราซิลกําลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ไม่เคยมีมาก่อน จากข้อมูลของ MapBiomas ระบุว่า 11-25% ของพืชพื้นเมืองที่เหลืออยู่ของประเทศ  จํานวน 60-135 ล้านเฮกตาร์  กําลังประสบกับความเสื่อมโทรมในระดับหนึ่ง

การตอบสนองของรัฐบาลยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2024 แผนระดับชาติใหม่สําหรับการฟื้นฟูพืชพันธุ์พื้นเมือง (Planaveg) ตั้งเป้าหมายที่จะฟื้นฟูพืช 12 ล้านเฮกตาร์ภายในปี 2030

นี่เป็นเป้าหมายเดียวกับที่บราซิลมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมที่กําหนดในระดับประเทศภายใต้ข้อตกลงปารีส ซึ่งยืนยันอีกครั้งในระหว่างการประชุมสภาพภูมิอากาศบากู (COP29) ความมุ่งมั่นนี้จะรวมอยู่ในส่วนหนึ่งของกรอบความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกของคุนหมิง-มอนทรีออล เป้าหมายที่ 2  ฟื้นฟู 30% ของระบบนิเวศที่เสื่อมโทรมทั้งหมด

การเฉยเมยจะมีผลกระทบ นอกเหนือจากการล้มเหลวในการปฏิบัติตามพันธสัญญาระหว่างประเทศแล้ว บราซิลจะเป็นอันตรายต่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพที่เป็นเอกลักษณ์ และรูปแบบสภาพอากาศทั่วโลก นอกจากนี้ยังจะจํากัดศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สําคัญในช่วงวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนจะช่วยให้บราซิลเป็นผู้นําในวาระการฟื้นฟูระบบนิเวศ

การเป็นผู้นําในการฟื้นฟูระบบนิเวศ

การปฏิบัติตามสิ่งนี้ต้องใช้ความพยายามในการรวมและการสร้างขีดความสามารถ เช่น การทําแผนที่โครงการริเริ่มการฟื้นฟูระบบนิเวศต่างๆ ทั่วประเทศ และการระดม การฝึกอบรม และการจัดหาเงินทุนสําหรับห่วงโซ่อุปทานการฟื้นฟู การทําเช่นนั้นยังสามารถมอบโอกาสทางวิชาชีพและเศรษฐกิจผ่านผู้ให้บริการ ผู้รวบรวมเมล็ดพันธุ์ และผู้ผลิตต้นกล้า

ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มีแนวโน้ม: บราซิลอยู่ในตําแหน่งที่ดีในการขับเคลื่อนกิจกรรมที่เจริญรุ่งเรืองนี้ทั่วโลก โดยได้รับการสนับสนุนจากนโยบายสาธารณะและโครงการที่ทะเยอทะยานซึ่งระบุผ่านเครื่องมือตรวจสอบที่แข็งแกร่ง

หอดูดาวเพื่อการฟื้นฟูและการปลูกป่าซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยพันธมิตรบราซิลว่าด้วยสภาพภูมิอากาศ ป่าไม้ และการเกษตร ซึ่งเป็นเครือข่ายตัวแทนกว่า 400 คนจากภาคเอกชน การเงิน วิชาการ และภาคประชาสังคม รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความพยายามในการฟื้นฟูในบราซิล

แพลตฟอร์มนี้ประสบความสําเร็จในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อย่างมีนัยสําคัญโดยการจัดระเบียบกลุ่มการฟื้นฟูที่ดําเนินงานทั่วทั้งไบโอมหกแห่งของประเทศ และฝึกอบรมพวกเขาให้รายงานข้อมูลกิจกรรมโดยใช้วิธีการเดียวกัน

กุญแจข้อมูลเพื่อการฟื้นฟูที่ประสบความสําเร็จ

การมีส่วนร่วมนี้ช่วยให้หอดูดาวสามารถวัดผลกระทบของความคิดริเริ่มระดับภูมิภาคได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลเป็นปัจจุบันและถูกต้อง เป็นสิ่งสําคัญที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด องค์กรภาคประชาสังคม ธุรกิจ สถาบันการเงิน หน่วยงานระดับท้องถิ่น และสถาบันการศึกษา  ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมการฟื้นฟูจะรายงานข้อมูลของพวกเขา

หอดูดาวรวบรวมและรวมข้อมูลนี้ด้วยความพยายามน้อยที่สุดจากผู้ใช้ ชุดข้อมูลที่ได้จะช่วยพัฒนาการวิเคราะห์ทางสถิติที่สนับสนุนการตัดสินใจในระดับต่างๆ หอดูดาวได้จัดทําแผนที่ความพยายามในการบูรณะซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 150,000 เฮกตาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่เทียบเท่ากับเมืองเซาเปาโล

จากทั้งหมดนี้ 77% อยู่ในป่าแอตแลนติก 13% ใน Cerrado และ 9.5% ใน Amazon ไบโอม เช่น Caatinga, Pampa และ Pantanal ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น คิดเป็นน้อยกว่า 1% ของพื้นที่ที่ระบุ โครงการบูรณะที่รวบรวมส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ขนาดเล็กถึงห้าเฮกตาร์ แม้ว่าบางโครงการจะครอบคลุมพื้นที่ถึง 3,000 เฮกตาร์ แต่ละคนแสดงถึงความพยายามที่มีคุณค่าและควรถูกจับ

ข้อมูลที่เผยแพร่โดยแพลตฟอร์ม ORR เชื่อมต่อกับชุดข้อมูลระหว่างประเทศผ่านการทํางานร่วมกันกับเครื่องมือ FERM (การตรวจสอบการฟื้นฟูระบบนิเวศของป่า) ที่จัดการโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)

แบ่งปันข้อมูล จัดการกับความท้าทายระดับโลก

Restor เป็นพันธมิตรระหว่างประเทศที่สําคัญอีกรายหนึ่ง เป็นตัวแทนของเครือข่ายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของความพยายามในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ ตลอดจนข้อมูลและผู้เชี่ยวชาญ การแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในเครือข่ายสนับสนุนการสร้างข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในระดับต่างๆ (ภูมิทัศน์ ภูมิภาค รัฐ ประเทศ) สําหรับความคิดริเริ่มที่ลงทะเบียนในบราซิล

การแบ่งปันข้อมูลทั่วโลกจะมีความสําคัญต่อการเผยแพร่ความรู้ การสร้างความไว้วางใจระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และอํานวยความสะดวกในการจัดหาเงินทุนโดยตรงของเกษตรกร ชนพื้นเมือง และชุมชนท้องถิ่น เนื่องจากการฟื้นฟูการดําเนินการด้านสภาพอากาศมีประโยชน์ระดับโลก

ในท้องถิ่น โครงการบูรณะยังสร้างงานและรายได้อีกด้วย ความพยายามในการฟื้นฟูพืชพรรณ 12 ล้านเฮกตาร์มีศักยภาพในการสร้างงานมากกว่า 2.5 ล้านงาน

ความเป็นผู้นําของบราซิลในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศในการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านโครงการริเริ่มเศรษฐกิจชีวภาพ G20 ที่เพิ่งเปิดตัวและประธาน COP30 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างเส้นทางระดับโลกสําหรับการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืนและการจัดหาเงินทุนสําหรับการฟื้นฟูและการอนุรักษ์

ประเทศอยู่ในตําแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการปรับการฟื้นฟูระบบนิเวศให้สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยใช้ประโยชน์จากกองทุนเพื่อการลงทุนด้านผลกระทบ เช่น กองทุนมะรุม กองทุนที่เน้นการทําเกษตรป่าไม้ได้ฟื้นฟู 25,000 เฮกตาร์ สร้างงาน 9,000 ตําแหน่ง สนับสนุนเกษตรกร 20,000 คน และช่วยส่งมอบกองทุน REDD+ Amazon

ศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ใช้

นอกจากนี้ยังเปิดตัว Tropical Forest Forever Facility ซึ่งจะเริ่มดําเนินการในการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติปี 2025 (COP30) ในเบเลม ประเทศบราซิล

การเน้นโครงการฟื้นฟูที่มีอยู่ เช่น Belterra Agroforesty จะเป็นตัวอย่างของศักยภาพของกิจกรรมทางเศรษฐกิจนี้ ริเริ่มนโยบายสาธารณะใหม่ และขับเคลื่อนการลงทุนเพิ่มเติมในการฟื้นฟูที่ดินที่เสื่อมโทรม

การทําความเข้าใจความคิดริเริ่มอย่างต่อเนื่องมีความสําคัญต่อการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศ ด้วยการแสดงเรื่องราวความสําเร็จเหล่านี้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น หอดูดาวและ Restor บราซิลสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับความพยายามที่คล้ายคลึงกันทั่วโลก และให้พิมพ์เขียวสําหรับการฟื้นฟูที่ปรับขนาดได้และมีผลกระทบสูง

ที่มา : Brazilian Restoration and Reforestation Observatory