'ราชกรุ๊ป' ชู 'สมาร์ทกริด' หัวใจสำคัญขับเคลื่อนพลังงานสะอาด หนุนลงทุนดาต้าเซนเตอร์ในไทย

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวในหัวข้อ “Sustainable Energy” ในงานสัมมนา “Thailand Smart Citty 2026 Data Center พลิกประเทศ” จัดโดยโพสต์ทูเดย์วันนี้ (26 พ.ย.)ว่า Smart Grid คือ ระบบอัจฉริยะที่ครอบคลุมทั้งหมด โดยมีวิวัฒนาการมาจากแนวคิดดั้งเดิมที่ต้องการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานในพื้นที่ห่างไกล (remote area) ในอดีตปัญหาไฟดับเป็นระยะเวลานานเมื่อเกิดภัยธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ได้นำไปสู่การพัฒนาแนวคิดการติดตั้งโรงไฟฟ้าแบบกระจายตัวที่เรียกว่า Distributed Generation (DG)

ปัจจุบัน Smart Grid มีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ การนำพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy หรือ RE) มาร่วมทำงานกับพลังงานอื่น ๆ การใช้เทคโนโลยี ICT มาช่วยในการวิเคราะห์และควบคุม การสื่อสารแบบ Two-way Communication เช่น Smart Meter มีระบบ Automatic Control ที่ทำงานและตัดสินใจเองได้ เพื่อสร้างความสมดุลพลังงานในพื้นที่

“ระบบ Smart Grid มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศ โดยสามารถสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ทำให้ประชาชนทุกบ้านมั่นใจได้ว่า เปิดไฟปุ๊บ ไฟติด" และยังช่วยส่งเสริมให้พลังงานหมุนเวียนเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น”

นอกจากนี้ Smart Grid ยังช่วยสร้างผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐศาสตร์ด้วยความฉลาดของระบบ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ผลิตไฟฟ้า โดยลดพลังงานสูญเสีย (ความสูญเสีย) ที่เกิดจากการส่งพลังงานในระยะทางไกล หากสามารถผลิตไฟฟ้าได้ในพื้นที่ (village) เอง ความสูญเสียก็จะลดลง โดยปัจจุบัน Smart Grid, Data Center และความยั่งยืน ถือว่าเป็นเรื่องเดียวกัน

เนื่องจากในปัจจุบัน Smart Grid ถือเป็นการส่งเสริมการใช้ RE ซึ่งช่วยให้ Data Center ได้พลังงานหมุนเวียนตามที่ต้องการ เนื่องจากพลังงานหมุนเวียนมีความผันผวน การจะรักษาเสถียรภาพในการจ่ายไฟจึงต้องอาศัย ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในการตัดสินใจและบริหารจัดการพลังงานซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันที่มีระบบสั่งการที่ดี ซึ่งคือ Smart Grid และ AI

หากประเทศไทยสามารถทำ Smart Grid ได้ ก็จะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากขึ้น และจะมีพลังงานหมุนเวียนที่เพียงพอที่จะนำไปใช้ เลี้ยงพวก Data Center ได้ ความฉลาดที่อยู่เบื้องหลังการบริหารจัดการกริดเหล่านี้ ก็มาจาก AI ที่อยู่ใน Data Center นั่นเอง  

"หากระบบ Smart Grid พลังงานหมุนเวียน และ Data Center ถูกบูรณาการได้อย่างเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำมาซึ่ง ความยั่งยืน ในแง่ของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (GHG) เพราะมีการใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น และยังสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนและประเทศโดยรวม ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการก้าวสู่พลังงานสะอาดด้วย” นายนิทัศน์ กล่าว