‘ทักษิณ’ ดัน ‘ดาต้าเซฟโซน’ หนุนไทยรับลงทุนสู่ศูนย์กลาง ‘เอไอ’

“ทักษิณ” โชว์วิสัยทัศน์ปั้นดาต้าเซฟโซนในกรุงเทพฯ หนุนไทยเป็นศูนย์กลาง AI พร้อมดันดิจิทัลวอลเล็ตเต็มระบบ หวังรัฐบาลหั่นค่าไฟลงเหลือ 2.50 บาท ดึงลงทุนดาต้าเซนเตอร์
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมงาน MFC’s 50th Anniversary - The World's Next Opportunities and Beyond เปิดโอกาสลงทุนแห่งอนาคต“ และร่วมเสวนาในหัวข้อ “โอกาส และอนาคตของการลงทุน” เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
นายทักษิณ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้คำมั่นสัญญามุ่งให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางของบล็อกเชน และคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งไทยมีความพร้อม และบรรลุเป้าหมายได้ และวางแผนจะมีแซนด์บ็อกซ์ที่ภูเก็ต โดยใช้คริปโทเคอร์เรนซีเป็นสกุลเงินในการแลกเปลี่ยน รวมถึงสเตเบิลคอยน์ที่มีการรองรับจากพันธบัตรรัฐบาล และรัฐบาลได้เตรียมแผนไว้แล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐบาลกำลังผลักดันดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อปูทางสิ่งเหล่านี้ นำดิจิทัลไอดีให้ประชาชนได้ใช้ และจะสร้างบล็อกเชนของประเทศ ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทุกคนจะเห็นภายในปี 2568
นายทักษิณ กล่าวว่า หลังจากที่ได้กลับประเทศได้หารือหลายคนที่ต้องการลงทุนในไทย โดยเฉพาะอย่างดาต้าเซนเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบคลาวด์ ซึ่งมั่นใจว่าไทยมีความพร้อมดึงดูดนักลงทุนได้ แต่ผู้จะมาลงทุนส่วนหนึ่งสอบถามถึงพลังงานหมุนเวียน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำให้ราคาพลังงานในไทยถูกลงเพื่อให้แข่งขันได้
นอกจากนี้ มีความฝันอยากให้คนไทยมีความรู้ด้าน เอไอ ภายใน 10 ปีนี้ เพราะ AI มีอิทธิพล และบทบาทในชีวิตมาก และเพิ่มศักยภาพได้ โดยต้องการให้ไทยปรับ AI มาใช้เท่าทันโลก เช่น ต่อไปอาจเห็น AI เป็นหมอช่วยวินิจฉัย และประเมินโรค รวมทั้งทำงานแทนหมอในบางพื้นที่ โดยจะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไทยแน่นอนจึงต้องเตรียมความพร้อม
“ต้องลงมือทำตอนนี้เลยโดยเฉพาะ AI สิ่งที่มีในปัจจุบันเป็นโครงสร้างพื้นฐาน แต่ถ้านำเทคโนโลยีมาผนวกด้วย จะทำให้มีศักยภาพขึ้น แต่ถ้าไม่นำเทคโนโลยีเข้ามาจะตามหลังประเทศอื่น โดยเฉพาะวงการเทคโนโลยีที่ปัจจุบันต้องการบุคลากรจากต่างประเทศ โดยไทยมีข้อได้เปรียบที่ดึงผู้ต้องการมาลงทุนไทยทั้งการแพทย์ อาหาร และการท่องเที่ยว จะช่วยให้ไทยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายทักษิณ กล่าว
ปั้นฝันสร้าง “ดาต้าเซฟโซน”
ส่วนประเด็นที่ต้องการเห็นใน 12 เดือนข้างหน้า นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องการหาพื้นที่ในกรุงเทพฯ ทำดาต้าเซฟโซน เพื่อทำให้โซนนั้นเป็น “ดิจิทัลเอ็มบาสซี่” หรือสถานทูตดิจิทัลที่หลายประเทศมาอยู่ตรงนั้น และจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลาง AI ซึ่งเป็นความฝันที่จะทำให้เป็นจริงได้ โดยไทยต้องทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าต่ำที่สุดไม่อย่างนั้นก็ทำไม่ได้
นอกจากนี้ ในการเตรียมความพร้อมสังคมดิจิทัล ซึ่งไทยพูดถึงเรื่องนี้มา 20-30 ปีแล้ว แต่ตอนที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จะให้แท็บเล็ตฟรีเพื่อพยายามลดช่องว่างทางเทคโนโลยี แต่ตอนนั้นถูกรัฐประหารจึงยกเลิกไป
ขณะที่ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ดิจิทัลที่พัฒนามากขึ้น โดยรัฐบาลพยายามลดการใช้ 2G เพื่อนำสมาร์ทโฟนมาแทนใช้แทนระบบอนาล็อกโฟน ซึ่งเห็นว่าควรฝึกคนไทยให้ทันการใช้ AI ได้มากขึ้น
หนุนไทยใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่ม
นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังตอบคำถามเกี่ยวกับแนวโน้มการตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในไทย ว่า แม้ว่าพลังงานนิวเคลียร์จะเป็นพลังงานสะอาดที่หลายประเทศใช้ ทั้งจีน เกาหลี และญี่ปุ่น
แต่ขณะนี้เทคโนโลยีดังกล่าวยังมีราคาสูง และยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเมื่อเทียบกับการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ซึ่งปัจจุบันมีต้นทุนต่ำลงอยู่ที่ประมาณ 1 บาทต่อหน่วย ไม่รวมค่าที่ดิน
ทั้งนี้ การเพิ่มสัดส่วนของไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และลดการพึ่งพาพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินจะช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้ ดังนั้นสิ่งที่ประเทศไทยควรให้ความสำคัญในตอนนี้คือ การลงทุนในสมาร์ตกริด
ขณะที่พลังงานหมุนเวียนมีต้นทุนลดลงมาก เช่น โซลาร์เซลล์ โดยอาจมีต้นทุนอยู่ที่ 1 บาท ถ้าไทยใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้นในต้นทุนต่ำ และใช้น้ำมันหรือถ่านหินน้อยลงจะทำให้ต้นทุนไฟฟ้าลดต่ำลงอีก 6-7 เซนต์ แต่ขณะเดียวกันการบริหารจัดการไฟฟ้าต้องเพิ่มสมาร์ตกริดมากขึ้น
เร่งลดค่าไฟฟ้าเหลือ 2.5 บาท
นอกจากนี้ การลงทุนในดาต้าเซนเตอร์นั้นเปรียบเหมือน “น้ำมันดิบ” หากไม่สามารถไปเชื่อมต่อกับการพัฒนา AI ก็จะไม่เกิดประโยชน์กับประเทศไทย ทั้งยังจะเพิ่มปริมาณความต้องการไฟฟ้าอย่างมหาศาลในประเทศ
ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนมักจะถามหาคือ ประเทศไทยมีไฟฟ้าสะอาด และราคาไม่แพงหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันค่าไฟฟ้าในไทยอยู่ที่ประมาณ 11 เซนต์ หรือ 4.12 บาทต่อหน่วย โดยรัฐบาลปัจจุบันมีแผนลดค่าไฟฟ้าให้เหลือ 8 เซนต์ หรือ 2.50 บาทต่อหน่วย ภายในปี 2568 อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำได้ไม่ง่ายนัก
“ถ้าไทยอยากแข่งขันดึงการลงทุนใหม่เข้ามาในยุค AI สิ่งที่ต้องมีคือ แหล่งพลังงานสะอาดที่ราคาไม่แพง ตอนนี้ไทยต้องใช้พลังงานจากถ่านหิน และนำเข้าแต่ก็ไม่พอ เพราะฉะนั้นต้องนำเข้าก๊าซทำให้ต้นทุนพลังงานสูง ส่วนโซลาร์เซลล์ก็ดีขึ้นแต่ต้องใช้พื้นที่เยอะในการติดตั้ง ดังนั้นถ้าติดตั้งโซลาร์เซลล์จะเสียพื้นที่เกษตรจึงต้องวางแผนและแก้ปัญหาจะทำอย่างไรให้ลดต้นทุนไฟฟ้าถูกลง" นายทักษิณ กล่าว
นักการเมือง-นักธุรกิจฟังวิสัยทัศน์ทักษิณ
สำหรับการจัดงาน MFC’s 50th Anniversary - The World's Next Opportunities and Beyond มีนักการเมือง ข้าราชการ และนักธุรกิจเข้าร่วม เช่น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง , นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง , นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีนายกรัฐมนตรี
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) , นายชาติศิริ โสภณพนิช ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ , นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด , นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์