ธ.ก.ส. เปิดตัว ‘BAAC Matching’ แพลตฟอร์มชอปออนไลน์ จากเกษตรกรสู่ผู้บริโภค
ธ.ก.ส. จัดใหญ่ 11.11 นี้ เปิดตัว BAAC Matching แพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์ เชื่อมโยงเกษตรกรสู่กผู้บริโภค ผลักดันสินค้าเกษตรคุณภาพสูง จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศเข้าสู่ตลาดดิจิทัล
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เดินหน้าสนับสนุนการยกระดับภาคการเกษตรไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เปิดตัวเว็บไซต์ BAAC Matching แพลตฟอร์มดิจิทัล ที่จะเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดตลอดห่วงโซ่ เพื่อสร้างโอกาส สร้างงานและสร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการเกษตรอย่างยั่งยืน ภายใต้คอนเซปต์ ‘BAAC Holistic : ก้าวไปด้วยกันสร้างสรรค์อนาคต ภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืน’
ทำลายข้อจำกัด “วอลุ่มไม่ได้ ดีไซน์ไม่ถึง”
นายฉัตรชัย กล่าวว่า BAAC Matching ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดที่ ธ.ก.ส. พบในการทำงานกับลูกค้าเกษตรกรกว่า 4.6 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรรายย่อยและวิสาหกิจชุมชน ที่แม้จะสามารถผลิตสินค้าคุณภาพสูงได้ แต่ยังมีข้อจำกัดสำคัญในการเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่
“เกษตรกรสามารถที่จะผลิตของดี แล้วก็เป็นของที่คุณภาพสูง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ปริมาณไม่เพียงพอในสเกลของการทำธุรกิจได้ ถัดมาก็ดีไซน์ยังไม่ตอบโจทย์”
นอกจากนี้ สินค้าเหล่านี้ยังมักถูกจำกัดการขายอยู่เพียงในท้องถิ่น ทำให้คนในเมืองไม่มีโอกาสได้รู้จัก และเกษตรกรขาดช่องทางและกลไกในการทำโฆษณา หรือกลยุทธ์การตลาดให้คนที่มีกำลังซื้อสูงในเมืองได้เห็น
สร้างช่องทางตรง เงินทุกบาทถึงมือเกษตรกร
แพลตฟอร์ม BAAC Matching ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สินค้าของลูกค้าเกษตรกร ธ.ก.ส. จากเดิมที่ขายแค่ในพื้นที่ชุมชนของตัวเองได้ “ขึ้นไปขายบนอากาศ” ทำให้ผู้บริโภคสามารถเสิร์ชหาของที่ผลิตโดยเกษตรกรได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยแพลตฟอร์มนี้เปิดตัวพร้อมสินค้าที่คัดสรรครอบคลุม 19 หมวดสินค้า
นายฉัตรชัย กล่าวว่า จุดเด่นสำคัญของแพลตฟอร์มคือการกำจัดตัวกลางในการซื้อขาย โดย ธ.ก.ส. ไม่คิดต้นทุนหรือส่วนต่าง ก็คือทุกบาทที่ลูกค้าซื้อของใน BAAC Matching จะส่งตรงไปที่เกษตรกรโดยไม่ได้มีตัวกลาง
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI & Data Analytics มาช่วยในการจัดรายการสินค้าให้ง่ายต่อการเลือกซื้อ เช่น การจัดหมวดสินค้าขายดี (Best Seller) และสินค้าแนะนำ (Recommend Product) เพื่อนำเสนอสินค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อตรงจากร้านค้า พร้อมบริการจัดส่งถึงหน้าบ้าน หรือเลือกรับสินค้าได้ที่ธนาคารสาขาของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การพัฒนาระบบเว็บไซต์ BAAC Matching มีการพัฒนาขึ้นจากฝ่ายไอทีภายในของธนาคารและมีการจ้างผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จากภายนอกเข้ามาช่วย อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส. ยังไม่ได้ทำเป็นแอปพลิเคชัน เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวจะมีความซับซ้อนและต้นทุนที่สูงขึ้น ดังนั้นการทำเป็นเว็บไซต์เริ่มนำร่องก่อนจะเริ่มทำได้ทันที
ดีไซน์ใหม่จาก “ของกิน” เป็น “ของฝาก”
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ธ.ก.ส. ยังได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรในการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต โดยการ Repackage และ Redesign เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและทันสมัย พร้อมทั้งมีการวางตำแหน่งทางการตลาดของสินค้าใหม่
“เรากำลังวาง position ใหม่ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ วิสาหกิจชุมชน รวมถึงสหกรณ์การเกษตร ว่าเราไม่ได้ขายของกิน แต่เราขายของฝาก”
นายฉัตรชัย อธิบายถึงกลยุทธ์การเปลี่ยนตำแหน่งสินค้าเกษตรเพื่อการบริโภคสู่การเป็น "ของฝาก" ว่า หากเป็นการขายของกิน ผู้บริโภคจะซื้อได้จำกัดตามที่กินได้อิ่ม แต่การขายของฝากจะทำให้เกิดการซื้อจำนวนมาก ด้วยวัฒนธรรมการซื้อของฝากของคนไทย รวมทั้งยังเป็นช่วงใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จะได้นำของดีประจำจังหวัดมาเป็นของฝาก
โดยในระยะแรกแพลตฟอร์มได้คัดเลือกสินค้านำร่อง 60 รายการ อาทิ ข้าวพร้อมทานแบรนด์ อุ่นอิ่ม ที่มี 5 ประเภท เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิ และข้าวหอมมะลิแดง ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิปกติได้ถึง 18 เดือน
กลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น สุกี้เส้นมะพร้าวพร้อมทาน และผัดไทยพร้อมปรุง ตราชฎาไท กลุ่มเครื่องดื่มและอาหารทานเล่น อาทิ ขนมข้าวกล้องอบกรอบจากแบรนด์ซัมธิงไรซ์ ที่ผลิตจากข้าวไรซ์เบอร์รีผ่านกระบวนการ แปรรูปที่ได้มาตรฐาน และน้ำสับปะรดกระป๋อง แบรนด์ Sure Juice ที่ผลิตจากสับปะรดแท้ 100%
ธ.ก.ส. ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เบื้องต้น จังหวัดละ 3 ประเภท รวม 231 รายการ เพื่อสนับสนุนการสร้างสินค้าเกษตรมูลค่าสูงที่สามารถจำหน่ายได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการเสริมสร้างศักยภาพในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่ เกษตรกรกลุ่มเปราะบาง
“การช่วยเหลือเกษตรกรที่ดีที่สุดก็คือช่วยให้พวกเขาขายของได้ ในราคาที่มีมาตรฐานและมียอดขายที่แข็งแรง”
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ในระยะต่อไปจะมีการเพิ่มภาคการบริการเข้ามาในแพลตฟอร์มด้วย โดยเฉพาะ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agrotourism) หรือเป็นฟาร์มสเตย์ ซึ่งเป็นวิถีการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเรียนรู้การทำเกษตรและใกล้ชิดกับวิถีชีวิตชุมชน
นางสาวไข่มุก จูงใจจารุมาศ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า หัวใจการดำเนินงานของธ.ก.ส.คือลูกค้าแข็งแรง ธนาคารยั่งยืน เมื่อเกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง ธ.ก.ส.เองก็จะเติบโตได้อย่างแข็งแรงตามไปด้วย โดยแพลตฟอร์ม BAAC Matching นี้ จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหลักของเกษตรกรได้โดยตรง ทำให้พวกเขามีตลาดที่จะวางขายสินค้าได้กว้างมากขึ้น
โดย ธ.ก.ส.คัดเลือก Product Champion ของแต่ละจังหวัดและจัดกลุ่มสินค้า A-Product ที่ได้ธ.ก.ส.รับรองคุณภาพว่าสินค้าดังกล่าวได้รับมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มนี้จะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะสนับสนุนให้เกิดการแปรรูปวัตถุดิบการเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ผ่านการรีดีไซน์และการเล่าเรื่องราวของสินค้าจากชุมชน ทั้งยังเป็นกลไกรับมือสินค้าเกษตรล้นตลาดอีกด้วย
