‘ราช กรุ๊ป’เดินเครื่อง ‘Synchronous Condenser’ เพิ่มกำไร โรงไฟฟ้าทาวน์สวิลล์ ออสเตรเลีย

ประเทศออสเตรเลียถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในสัดส่วนที่สูงมาก โดยมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนของไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเป็น 85% จึงมีการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากพลังงานหมุนเวียนทั้งจากลม และแสงอาทิตย์เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามเนื่องจากไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนนั้นมีความไม่แน่นอนในการผลิตกระแสไฟฟ้า ระบบการจำหน่ายและกระจายไฟฟ้าของออสเตรเลียที่เป็นระบบซื้อขายเสรี จึงมีการเตรียมความพร้อมรับมือช่วงที่กระแสไฟฟ้าหายไปจากระบบโดยมีสัญญาให้โรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงที่มีความมั่นคงกว่าเช่นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงมีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในลักษณะเตรียมความพร้อม โดยหนึ่งในตัวอย่างของโครงการลักษณะนี้มีการดำเนินการในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งกลายเป็นโอกาสของบริษัทเอกชนของไทยอย่างบริษัทราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ได้ยื่นสมัครโครงการนี้และได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลท้องถิ่นจนได้รับสัญญาในการนำเอาโรงไฟฟ้าทาวน์สวิลล์ของบริษัทมาเพิ่มมูลค่าในการดำเนินธุรกิจ

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าทาวน์สวิลล์ (Townsville Power Station) ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการโดย บริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RAC) ที่ราช กรุ๊ปถือหุ้น 100% ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ระบบ “Synchronous Condenser” เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์และสร้างรายได้ใหม่ให้กับโรงไฟฟ้าที่กำลังจะปลดระวางหลังจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ดำเนินการเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ปี 2542

โรงไฟฟ้าทาวน์สวิลล์มีกำลังการผลิตติดตั้ง 234 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในรูปแบบ Combined Cycle Gas Turbines (CCGT) และจำหน่ายไฟฟ้าในระบบ National Electricity Market (NEM) ซึ่งเป็นตลาดกลางรับซื้อไฟฟ้าของออสเตรเลีย

"โครงการ Synchronous Condenser นี้เป็นการดัดแปลงกังหันก๊าซและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเดิมให้สามารถทำงานในรูปแบบ เครื่องปรับเสถียรภาพโครงข่ายไฟฟ้าแบบหมุนไฮบริด (Hybrid Rotating Grid Stabilizer: RGS) โดยมีการติดตั้งคลัตช์ Synchro-Self-Shifting (SSS) เพื่อให้สามารถสลับการทำงานไปมาระหว่างโหมดผลิตไฟฟ้าปกติและโหมด Synchronous Condenser ได้ทันที ทำให้ได้รับรายได้ทั้งสัญญารายปี และการเดินเครื่องไฟฟ้าเป็นรายชั่วโมง" นายนิทัศน์กล่าว

ประหยัดต้นทุน ใช้โครงการเดิม เพิ่มกำไร

กรรมการผู้จัดการใหญ่ราช กรุ๊ป ระบุว่า การปรับปรุงนี้มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการติดตั้งเครื่อง Synchronous Condenser ใหม่ เนื่องจากเป็นการดัดแปลงใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่แล้ว ทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ของโรงไฟฟ้าที่กำลังจะปลดระวางให้กลับมาดำเนินงานและสร้างรายได้ต่อเนื่อง โดยในโหมดของ Synchronous Condenser แม้ว่าจะไม่มีการผลิตไฟฟ้า แต่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะยังคงทำหน้าที่สำคัญในการรักษาเสถียรภาพระบบไฟฟ้า ในลักษณะต่างๆ ดังนี้

1.ให้แรงเฉื่อยไฟฟ้าแบบหมุน (Rotating Inertia) เพื่อช่วยลดความผันผวนของความถี่ในระบบไฟฟ้าในกรณีที่กำลังไฟฟ้าในระบบลดลงมากจากกรณีที่ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนลดลง

2.สนับสนุนกำลังไฟฟ้าลัดวงจร (Short-Circuit Power Contribution) เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของระบบเมื่อเกิดเหตุผิดปกติ

3.สนับสนุนแรงดันไฟฟ้า (Voltage Support) เพื่อควบคุมแรงดันให้อยู่ในระดับเหมาะสมต่อโครงข่ายไฟฟ้า

"การให้บริการเหล่านี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า ป้องกันเหตุไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และช่วยให้ระบบไฟฟ้ามั่นคงในการรองรับการเชื่อมต่อพลังงานทดแทนที่มักมีความผันผวนสูง โครงการนี้จึงมีบทบาทเชิงรุกในการรักษาเสถียรภาพโครงข่ายไฟฟ้าของรัฐควีนส์แลนด์ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน รวมทั้งเทคโนลยีนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโรงไฟฟ้าแห่งอื่นหากการใช้งานในลักษณะที่คล้ายกัน และมีเรื่องปัจจัยเรื่องการขาดแคลนไฟฟ้าชั่วคราวเนื่องจากมีไฟฟ้าจาก Renewable ในระบบสูงเกินไปก็สามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปติดตั้งได้" นายนิทัศน์กล่าว

กรรมการผู้จัดการใหญ่ราช กรุ๊ป สรุปว่า โครงการ Synchronous Condenser ในโรงไฟฟ้าทาวน์สวิลล์ถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่สินทรัพย์ของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในออสเตรเลีย และเป็นแนวทางในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือเป็นการบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างชาญฉลาด โดยการนำโครงสร้างพื้นฐานเดิมมาพัฒนาให้ตอบโจทย์ความต้องการของระบบไฟฟ้าสมัยใหม่ พร้อมทั้งสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับบริษัทต่อไปในอนาคต