GULF ทุ่ม 1.57 หมื่นล้าน เซ็น Goldwind ติดตั้งกังหันลม 4 โรงไฟฟ้า

GULF ทุ่ม 1.57 หมื่นล้าน เซ็น Goldwind ติดตั้งกังหันลม 4 โรงไฟฟ้า

GULF เดินหน้าพลังงานสะอาด เซ็นสัญญามูลค่า 1.57 หมื่นล้านบาท กับ Goldwind จัดหา-ติดตั้งกังหันลม 4 โรงไฟฟ้าในไทย กำลังผลิต 286 เมกะวัตต์

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด ("GRE") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ได้ลงนามในสัญญาจัดหากังหันลม (Wind Turbine Supply Agreement) กับ Goldwind International Holding (Hong Kong) Company Limited ("Goldwind (HK)") และสัญญาออกแบบ ก่อสร้าง และทดสอบระบบกังหันลม (Wind Turbine Construction Agreement) กับ Goldwind International (Thailand) Company Limited ("Goldwind (TH)")

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 286 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้มีมูลค่าเงินลงทุนรวมประมาณ 15,700 ล้านบาท โดยได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา 25 ปี และจะได้รับค่าไฟภายใต้รูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) ที่ 3.1014 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ตลอดอายุสัญญา มีกำหนดเริ่มก่อสร้างภายในปี 2568 และกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2570

ทั้งนี้ Goldwind (HK) และ Goldwind (TH) เป็นบริษัทในเครือ Goldwind Science & Technology Company Limited ("Goldwind") ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นและฮ่องกง และเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านพลังงานลมแบบครบวงจร ครอบคลุมการออกแบบ การผลิต และการติดตั้งกังหันลมทั้งบนชายฝั่งทะเล (onshore) และนอกชายฝั่งทะเล (offshore) รวมถึงการให้บริการบำรุงรักษา และบริหารสินทรัพย์พลังงานสะอาด

โดย Goldwind มีเครือข่ายธุรกิจ และประสบการณ์ในโครงการพลังงานลมทั่วทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และออสเตรเลีย อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการพลังงานลมในประเทศไทยหลายโครงการ และได้จัดตั้งศูนย์บริการเพื่อให้การสนับสนุน และการดูแลลูกค้าอย่างครบวงจร

โดยการลงนามสัญญาดังกล่าวเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทในการจัดหาเทคโนโลยีกังหันลมที่มีคุณภาพ จากคู่ค้าที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนขั้นสูง ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ในการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานสะอาดที่มีเสถียรภาพ และเชื่อถือได้ในระยะยาว

ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นในการเดินหน้าขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ควบคู่ไปกับเป้าหมายระยะยาวของบริษัท ในการมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Emissions) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อความยั่งยืนของประเทศ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์