กรมบัญชีกลางเร่งส่วนราชการ ขอบำเหน็จบำนาญให้ทหารกล้าเสียชีวิตเหตุชายแดน

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต กรมบัญชีกลางจึงขอให้ส่วนราชการต้นสังกัดเร่งประสานกับทายาทเพื่อขอรับบำเหน็จบำนาญและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการตอบแทนความดีความชอบของเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละอย่างครบถ้วนและรวดเร็ว

กรมบัญชีกลางได้สรุปรายละเอียดสิทธิประโยชน์สำหรับเจ้าหน้าที่แต่ละกลุ่มไว้ดังนี้

สิทธิประโยชน์สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ

ข้าราชการทหาร

กรณีบาดเจ็บ ได้รับเงินชดเชยระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

กรณีพิการทุพพลภาพ มีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญปกติและบำนาญพิเศษ หรือเลือกรับเงินทำขวัญหรือบำนาญพิเศษหากยังสามารถรับราชการต่อได้

กรณีเสียชีวิต ทายาทจะได้รับบำนาญพิเศษ, บำเหน็จตกทอด และเงินช่วยจัดการศพ

ทหารเกณฑ์และทหารอาสา

กรณีบาดเจ็บ ได้รับเงินชดเชยระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

กรณีพิการทุพพลภาพ ได้รับบำนาญพิเศษ รวมถึงสวัสดิการค่าเล่าเรียนบุตร และค่ารักษาพยาบาลของตนเองและครอบครัว

กรณีเสียชีวิต ทายาทจะได้รับบำนาญพิเศษ, เงินชดเชย และเงินช่วยจัดการศพ

สิทธิสำหรับผู้ช่วยเหลือราชการ

สำหรับบุคคลทั่วไปที่ให้ความช่วยเหลือราชการ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ก็อาจได้รับเงินชดเชยตามพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัยฯ พ.ศ. 2543 โดยสามารถประสานได้ที่ที่ว่าการอำเภอในท้องที่ที่เกิดเหตุ

กรณีบาดเจ็บ ได้รับเงินชดเชยในระหว่างที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล 

- กรณีพิการทุพพลภาพ ได้รับเงินชดเชยตามอัตราที่กระทรวงการคลังกำหนด

- กรณีทุพพลภาพขนาดหนักจนเป็นอุปสรรคสำคัญยิ่งในการประกอบอาชีพหรือดำรงชีพ นอกจากจะได้รับเงินชดเชยพิการทุพพลภาพแล้ว ให้ได้รับเงินดำรงชีพรายเดือน

- กรณีเสียชีวิต ทายาทผู้มีสิทธิ (บิดา มารดา คู่สมรส บุตร ตามกฎหมาย) จะได้รับเงินชดเชยและเงินช่วยจัดการศพ

อธิบดีกรมบัญชีกลางย้ำว่า บำเหน็จบำนาญและสิทธิประโยชน์เหล่านี้เป็นการตอบแทนคุณงามความดีของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกรมบัญชีกลางจะเร่งดำเนินการอนุมัติสั่งจ่ายเงินให้ถูกต้องและครบถ้วนโดยเร็วที่สุด