ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้น ทรัมป์อ้างขออิสราเอลไม่ให้โจมตีอิหร่าน

ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุ อิสราเอลอาจจะโจมตีอิหร่าน แต่เขาแนะนำให้ไม่ทำ การเจรจากับอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ยังคงเป็นทางเลือก

บลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (13 มิ.ย.68) ว่า ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าอิสราเอล "อาจจะ" โจมตีอิหร่านได้ แต่เขาได้แนะนำให้ไม่โจมตี ขณะที่การเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานยังคงดำเนินต่อไป

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (ราคาน้ำมันดิบWTI) พุ่งขึ้นถึง 1.3% อยู่ใกล้ระดับ 69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดตลาดที่ต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ เล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดี

ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐยังคงมุ่งมั่นที่จะหาข้อยุติทางการทูตกับอิหร่าน แต่ประเทศ "ต้องเลิกหวังที่จะได้อาวุธนิวเคลียร์" เตหะราน กล่าวว่า จะเปิดโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแห่งใหม่ ซึ่งจะทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับสหรัฐและอิสราเอลทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

สหรัฐอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนออกจากตะวันออกกลางในสัปดาห์นี้ ได้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้น และช่วยผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง รวมถึงอิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และอิรัก ซึ่งเป็นสมาชิกโอเปกพลัส ผลิตน้ำมันดิบคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของโลก

ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นประมาณ 4% ในวันพุธจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ธนาคาร JPMorgan Chase & Co ระบุว่าราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งไปถึง 130 ดอลลาร์ในกรณีเลวร้ายที่สุด โดยสหรัฐ และอิหร่านมีกำหนดจัดการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 6 ที่โอมานในวันอาทิตย์

ขณะเดียวกัน ผู้ซื้อขายตามอัลกอริทึมก็หันมามองบวกกับราคาน้ำมันดิบสหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราคาออปชันหรือตราสารสิทธิ เนื่องจากผู้ซื้อ-ขายประเมินความเสี่ยงของการปรับขึ้นราคา โดยออปชันขาขึ้นพุ่งสูงขึ้นในวันพุธจนเป็นพรีเมียมสูงสุดเหนือออปชันขาลง นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ขณะที่ความผันผวนพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน และปริมาณออปชันก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน