ตลาดรถยนต์เวียดนามส่งสัญญาณฟื้นตัว โอกาสไทยเจาะตลาดเพิ่ม

เว็ปไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม รายงาน สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในเวียดนาม โดยในช่วงต้นปี 2568 ทั้งปริมาณการขายและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

จากข้อมูลของ สมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (Automobile Manufacturers’Association: VAMA) ระบุว่า ในเดือนเม.ย. 2568 ยอดขายรถยนต์อยู่ที่ 29,585 คัน แม้จะลดลง  7  % เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. 2568 แต่ยอดขายเพิ่มขึ้น 21  %เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่าตลาดกําลังฟื้นตัว ยอดขายในเดือนเม.ย.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลมีปริมาณสูงสุด ซึ่งมียอดขายรวม 20,766 คัน ลดลง  7  % เมื่อเทียบกับเดือนก่อน รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ก็มีแนวโน้มลดลงคล้ายกัน โดยมียอดขาย 8,619 คัน

ในขณะที่รถยนต์ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ (Special-purpose vehicles) กลับมีการเติบโตขึ้น 11  % เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยมียอดขาย อยู่ที่ 200 คัน รถยนต์ประกอบในประเทศมียอดขาย 13,890 คัน ลดลง 7  %ในขณะที่รถยนต์นําเข้า (CompletelyBuilt-Up: CBU) มียอดขายรวม 15,695 คัน เพิ่มขึ้น  7  % แต่แม้จะมีปริมาณลดลงในเดือนเม.ย. แต่ยอดขายรวมสําหรับ 4 เดือนแรกของปี 2568 แสดงให้เห็นสถานการณ์เชิงบวกมากขึ้น

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 ยอดขายรวมในตลาดรถยนต์ของเวียดนามมีจํานวน 101,834 คัน เพิ่มขึ้น 23 %เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น  22  % รถยนต์เพื่อการพาณิชย์เพิ่มขึ้นร้อยละ
27 และรถยนต์อเนกประสงค์เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 โดยเฉพาะ รถยนต์นําเข้าเพิ่มขึ้น  35  % แสดงให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่รถยนต์ประกอบในประเทศเพิ่มขึ้นแค่  13 %

ในเดือนเม.ย. 2568 Toyota มียอดขายสูงสุดด้วยจํานวน 5,566 คัน ยังคงรักษาตําแหน่งผู้นําตลาด นอกจากนี้ยังมีFord (3,997 คัน) Mitsubishi (2,038 คัน) Mazda (2,736 คัน) และ Kia (2,055 คัน) สําหรับรถยนต์รุ่นที่ขายดีในตลาดได้แก่ Mitsubishi Xpander, Ford Ranger, Toyota Vios, Ford Everest และ Toyota Yaris Crossรถยนต์ SUV เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้บริโภคชาวเวียดนาม โดยครองตําแหน่งที่หนึ่งในทุกหมวดหมู่ของรถยนต์ ด้วยยอดขาย 5,867 คันในเดือนเม.ย. รองลงมาคือ MPV (รถยนต์อเนกประสงค์) ที่มียอดขาย 3,798 คันและรถยนต์ซีดานมียอดขาย 3,292 คัน ใน

ส่วนของตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์นั้น รถกระบะและรถตู้ขนาดเล็กยังคงเป็นรถที่มีความต้องการสูงที่สุด
กระแสเด่นประการหนึ่งคือความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฮบริด ในเดือนเม.ย. 2568 รถยนต์ไฮบริดมียอดขาย
973 คัน ทําให้ยอดรวม 4 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 3,535 คัน เพิ่มขึ้น 82  %เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การเติบโตนี้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ให้ความสําคัญกับยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อีกทั้ง
รัฐบาลเวียดนามยังมีการสนับสนุนผ่านนโยบายภาษีและค่าธรรมเนียมอีกด้วยบริษัทรายใหญ่ เช่น VinFast และ Hyundai ยังไม่ได้เปิดเผยผลการขายในเดือนเม.ย. 2568 ทําให้ภาพรวมตลาดรถยนต์ในเวียดนามยังคาดการณ์ไม่ได้เท่าที่ควร อีกทั้งยังขาดข้อมูลอย่างเป็นทางการจากแบรนด์อื่นๆ เช่น Mercedes-Benz, Audi, Subaru และ Volvo

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเศรษฐกิจของเวียดนามกําลังฟื้นตัว คาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และบริการหลังการขายที่ดีขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์ แนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีจึงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น คาดว่าตลาดจะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของทั้งด้านอุปสงค์และการกระตุ้นด้านอุปทาน

กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดมีแนวโน้มเติบโตสูง ไม่เพียงแต่ปัจจัยด้านการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงแรงจูงใจจากรัฐบาลที่สนับสนุนให้ตลาดหันมาใช้ระบบขนส่งที่ยั่งยืน อีกทั้งผู้ผลิตรถยนต์ต่างปรับกลยุทธ์
ผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มเหล่านี้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณของยุคใหม่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ของเวียดนาม

สคต.กรุงฮานอยให้ความเห็นว่า  ในปัจจุบันความต้องการรถยนต์มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ของแบรนด์ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค พร้อมกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการเวียดนาม ตลาดรถยนต์ของเวียดนามในช่วงต้นปี 2568 กําลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งในด้านยอดขายและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

โดยยอดขายรวมในช่วง 4 เดือนแรกเพิ่มขึ้นถึง 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ในเดือนเม.ย.จะมีการชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. แต่ภาพรวมยังเป็นบวกอย่างมีนัยสําคัญ รถยนต์ SUV ยังคงครองใจผู้บริโภคเวียดนาม และรถยนต์นําเข้ามียอดขายเติบโตอย่างโดดเด่นถึง  35  % สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มเลือกใช้รถที่มีคุณภาพสูงจากต่างประเทศมากขึ้น

ขณะเดียวกัน รถยนต์ไฮบริดก็กําลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง  82  % ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมและนโยบายส่งเสริมจากรัฐบาล แนวโน้มตลาดรถยนต์เวียดนามในช่วงที่เหลือของปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และกลยุทธ์ของผู้ผลิตที่มุ่งเน้น
เทคโนโลยีสะอาดมากขึ้น ซึ่งอาจนําไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเวียดนามในระยะยาว

การเติบโตของกําลังซื้อในตลาดควบคู่ไปกับความต้องการรถยนต์นําเข้าของเวียดนาม ส่งผลให้เวียดนามมีการนําเข้ารถยนต์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการเติบโตและโอกาสของไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ประกอบสําเร็จ และชิ้นส่วนตลอดจนถึงอุปกรณ์ตกแต่งรถ รวมถึงบริการที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริการซ่อมบํารุง ประดับยนต์ ล้างและเคลือบสี เป็นต้น