‘จุลพันธ์‘ โต้ปม ‘กาสิโน‘ ทำไทยสีเทา ไม่ถอย Entertainment Complex

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดที่อาจเชื่อมโยงการมีสถานบันเทิงครบวงจรเข้ากับการทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศสีเทา โดยตั้งคำถามย้อนกลับไปยังผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า หากเป็นเช่นนั้น ประเทศที่มี กาสิโนถูกกฎหมาย อย่าง สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือดูไบ ก็จะเป็นประเทศสีเทาด้วยหรือไม่

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การที่มีบ่อนเถื่อนอยู่ทั่วประเทศแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่เห็น นั่นต่างหากที่ทำให้ประเทศดูเป็นสีเทา ไม่ใช่การมีกาสิโนที่อยู่ภายใต้กฎหมายและการควบคุมดูแลที่เข้มงวด พร้อมชี้ว่า การเชื่อมโยงดังกล่าวอาจเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้ว่าการ ธปท. มากกว่าจะเป็นจุดยืนอย่างเป็นทางการขององค์กร

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะไม่ถอย และยังคงเดินหน้าโครงการ Entertainment Complex ตามมติคณะรัฐมนตรีต่อไป เนื่องจากขณะนี้ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาแล้ว โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติควบคู่กันไป ไม่ใช่เพียงแค่โครงการ Entertainment Complex แต่ยังรวมถึงโครงการด้านสุขภาพ (Wellness Complex) และอื่นๆ เพราะรัฐบาลที่ดีต้องพัฒนาทุกด้าน

ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าผลักดันโครงการ Entertainment Complex ซึ่งมีการพูดถึงมานานกว่า 30-40 ปี แต่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ให้สำเร็จภายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็น "จุดเปลี่ยนสำคัญ" สำหรับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย ด้วยเม็ดเงินลงทุนขั้นต่ำที่คาดว่าจะสูงกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมหาศาล

สำหรับไทม์ไลน์ของโครงการ หากกฎหมายผ่านรัฐสภา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการจัดตั้งสำนักงานควบคุมและกำกับดูแลโดยเฉพาะ ศึกษาความเหมาะสม จัดทำร่างข้อกำหนดการประกวดราคา (TOR) เพื่อเปิดประมูลให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน โดยตั้งเป้าที่จะเริ่มตอกเสาเข็มก่อสร้างได้ภายใน 3 ปี 

สำหรับพื้นที่ตั้งของโครงการเบื้องต้น นายจุลพันธ์เสนอว่า ควรใช้ที่ดินราชพัสดุขนาดใหญ่อย่างน้อย 300 ไร่ต่อแห่ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการแย่งชิงพื้นที่และรองรับกิจกรรมขนาดใหญ่ภายในโครงการ เช่น พิพิธภัณฑ์ สวนสนุก หรือโรงแรม

ล่าสุด นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า มีบริษัทต่างชาติระดับโลกหลายรายแสดงความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัท วินน์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด เจ้าของ Wynn Resorts หนึ่งในผู้นำธุรกิจรีสอร์ตครบวงจรระดับโลกจากลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยนายคริส กอร์ดอน (Chris Gordon) ประธานบริษัท วินน์ ดีเวลอปเม้นท์ ได้เข้าหารือกับตนเพื่อสอบถามรายละเอียดและแสดงความสนใจลงทุน เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของประเทศไทยในการดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ และเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เชื่อว่าโครงการนี้จะยกระดับไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านความบันเทิงระดับโลก

“บริษัทชั้นนำอย่าง Wynn Resorts ให้ความสนใจ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของไทย ยืนยันรัฐบาลจะดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน ตำแหน่งงานใหม่ๆ ควบคู่ไปกับความมั่นคงทางสังคมและผลประโยชน์ของคนไทย โดยได้แจ้งความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ. ให้ผู้บริหาร Wynn Resorts ทราบแล้ว คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 นี้”

ซึ่งกฎหมายจะมีข้อกำหนดเข้มงวดด้านการป้องกันการฟอกเงิน และมาตรการแก้ไขปัญหาผลกระทบทางสังคม เช่น การติดการพนัน

นายคริส กอร์ดอน กล่าวเสริมว่า Wynn Resorts มีมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันการฟอกเงินและปัญหาการติดการพนันอยู่แล้ว และพร้อมแบ่งปันประสบการณ์และเทคโนโลยีระดับโลกที่ใช้ในธุรกิจปัจจุบันทั้งในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ

นายจุลพันธ์ ทิ้งท้ายว่า นอกจาก Wynn Resorts แล้ว ยังมีผู้ประกอบการ Entertainment Complex ระดับโลกรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต่อเนื่อง เช่น คอนเสิร์ต งานแสดง และกีฬา ก็แสดงความสนใจและประสงค์เข้าหารือกับรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นกัน