ส่องแผน 'รถไฟทางคู่' สายใหม่ 11 เส้นทาง เพิ่มโครงข่าย 1,399 กม.
เปิดแผนรถไฟทางคู่สายใหม่ “คมนาคม” จ่อลงทุน 11 เส้นทาง เพิ่มโครงข่ายทั่วประเทศอีก 1,399 กิโลเมตร ลุยผลักดันด่วนปีนี้ 4 เส้นทาง สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ
KEY
POINTS
- เปิดแผนรถไฟทางคู่สายใหม่ “คมนาคม” จ่อลงทุน 11 เส้นทาง เพิ่มโครงข่ายทั่วประเทศอีก 1,399 กิโลเมตร มีเป้าหมายเริ่มดำเนินการในปี 2571 เป็นต้นไป
- ขณะที่ “กรมราง” ลุยผลักดันด่วนปีนี้ 4 เส้นทาง หวังเพิ่มขีดความสามารถ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ปักธงลุยรถไฟรองรับ Land bridge ช่วงชุมพร - ระนอง
โครงข่ายรถไฟปัจจุบันนับเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนการลงทุน เพื่อสนับสนุนให้เป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ซึ่งปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 แล้วเสร็จและทยอยเปิดให้บริการแล้ว อีกทั้งยังได้เร่งรัดรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 โดยตามแผนมีจำนวน 7 เส้นทาง ปัจจุบันได้ลงนามสัญญาไปแล้วจำนวน 1 เส้นทาง คือ ช่วงขอนแก่น - หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร
ส่วนรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 รวมจำนวนอีก 6 เส้นทาง ปัจจุบันอยู่ระหว่างขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) เพื่อประกอบการเสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
- ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร
- ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร
- ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร
- ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กิโลเมตร
- ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กิโลเมตร
- ช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กิโลเมตร
ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการขยายโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ สร้างขีดความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้านั้น รฟท.ยังได้ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางสายใหม่ อีกจำนวน 2 โครงการ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง ประกอบด้วย
- ช่วงเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ ระยะทาง 322 กิโลเมตร
ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก
- ช่วงบ้านไผ่ - มุกดาหาร - นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร
ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง กำหนดเปิดให้บริการได้ภายในปี 2570 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมของกรมการขนส่งทางบก
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมีแผนพัฒนารถไฟทางคู่สายใหม่อีก 11 เส้นทาง เพิ่มโครงข่ายทั่วประเทศ 1,399 กิโลเมตร โดยมีเป้าหมายเริ่มดำเนินการในปี 2571 เป็นต้นไป ประกอบด้วย
- ช่วงนครสวรรค์ – กำแพงเพชร – ตาก - แม่สอด ระยะทาง 250 กิโลเมตร
- ช่วงนครสวรรค์ - บ้านไผ่ ระยะทาง 304 กิโลเมตร
- ช่วงอุบลราชธานี - สะพานมิตรภาพแห่งที่ 6 ระยะทาง 110 กิโลเมตร
- ช่วงกาญจนบุรี - บ้านพุน้ำร้อน ระยะทาง 36 กิโลเมตร
- ช่วงสุพรรณบุรี – นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี ระยะทาง 68 กิโลเมตร
- ช่วงศรีราชา – มาบตาพุด – ระยอง – จันทบุรี - ตราด ระยะทาง 218 กิโลเมตร
- ช่วงชุมพร - ระนอง ระยะทาง 91 กิโลเมตร
- ช่วงสุราษฎร์ธานี – พังงา - ท่านุ่น ระยะทาง 158 กิโลเมตร
- ช่วงสุราษฎร์ธานี - ดอนสัก ระยะทาง 78 กิโลเมตร
- ช่วงทับปุด - กระบี่ ระยะทาง 68 กิโลเมตร
- ช่วงท่านุ่น - ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ระยะทาง 18 กิโลเมตร
รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ปีนี้ ขร.จะเดินหน้าผลักดันการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟเพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางราง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมให้ระบบรางเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ตามแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายรถไฟให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงพื้นที่ ทั่วประเทศ และรองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ (R-MAP)
โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมและจะดำเนินการออกแบบรายละเอียดแต่ละเส้นทาง ซึ่งจะจัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วนของการพัฒนาให้สอดรับต่อเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เบื้องต้นจึงพบว่ามี 4 เส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่ ที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน ประกอบด้วย
- รถไฟเชื่อม 2 สนามบิน (ช่วงท่านุ่น - ภูเก็ต และช่วงทับปุด - กระบี่)
- รถไฟทางคู่ ช่วงกาญจนบุรี - บ้านพุน้ำร้อน
- รถไฟทางคู่ ช่วงสุพรรณบุรี – นครหลวง - ชุมทางบ้านภาชี
- รถไฟรองรับ Land bridge ช่วงชุมพร - ระนอง