'ทรัมป์' ขึ้นภาษีไทย สะเทือนออร์เดอร์ไตรมาส 2 ชะลอส่งมอบสินค้า

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย กล่าวว่า การที่สหรัฐประกาศ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าไทย 36 % โดยมีผลในวันที่ 9 เม.ย.นี้ โดยไม่มีการเจรจาต่อรอง หรือขอเลื่อนระยะเวลาการใช้มาตรการดังกล่าวออกไปจะมีผลต่อ คำสั่งซื้อสินค้าไทย โดยมี   2 รูปแบบคือ

1.ลูกค้าสั่งสินค้าแล้วจ่ายเงินค่าสินค้าแล้ว ซึ่งตรงนี้ไม่น่าจะมีปัญหา

2.ลูกค้ายังไม่จ่ายเงิน เมื่อสินค้าถึงปลายทางแล้วมีปัญหาทั้งลูกค้าและผู้ส่งออกต้องต้องร่วมกันหาทางแก้ไข แต่หากเป็นลูกค้าขาจรก็อาจมีการปฏิเสธสินค้าได้

สำหรับคำสั่งซื้อสินค้าในไตรมาส 2 และไตรมาส 3นั้น คาดว่า ในไตรมาส 2 น่าจะมีการชะลอตัว จนกว่าจะมีความชัดเจนว่ามีการเจรากัน สามารถลดภาษีได้แค่ไหน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีนำเข้าของประเทศคู่แข่งมีผลอย่างมากกับไทย ถ้าประเทศคู่แข่งสามารถเจรจาได้ เราจะเสียเปรียบทันที 

โดยขึ้นอยู่กับสินค้าแต่ละหมวด ซึ่งคู่แข่งของไทย เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย  ที่มีสินค้าเหมือนหรือคล้ายกัน นอกจากนี้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรก็ยังมีประเทศในภูมิภาคอื่นที่ผลิตเหมือนไทย เช่น บราซิล ประเทศแถบอเมริกาใต้ เมื่อ ภาษีนำเข้า ต่ำกว่าไทย 20-30 % แน่นอนว่า สินค้าไทย เสียเปรียบทำให้ทำไทยเสียส่วนแบ่งตลาดไป แต่หากภาษีต่ำกว่าไม่มากก็สามารถต่อรองราคาได้

“สินค้าในไตรมาส 2 กว่า 50 % มีการสั่งซื้อล่วงหน้าไว้แล้ว แต่พอเจอทรัมป์ขึ้นภาษีก็อาจจะมีการชะลอการนำเข้าเพื่อรอท่าทีและความชัดเจนด้านภาษี ว่าต้องเสียภาษีเท่าไร “นายวิศิษฐ์ กล่าว

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของไตรมาส 3 คำสั่งซื้อสินค้าไม่สามารถประเมินได้เลย หลังทรัมป์ประกาศออกมาเพราะเรื่องภาษีสำคัญมาก โดยเฉพาะปรับขึ้นถึง 36 % มีผลต่อราคาขายปลายทางมาก