ครม.ไฟเขียวสินเชื่อดึงข้าวจากตลาด จ่อเคาะช่วยค่าเก็บเกี่ยวสัปดาห์หน้า

ครม.ไฟเขียวสินเชื่อดึงข้าวจากตลาด จ่อเคาะช่วยค่าเก็บเกี่ยวสัปดาห์หน้า

ครม.ไฟเขียว 2 มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ดึงข้าวออกจากระบบ 4 ล้านตัน วงเงินจ่ายขาด 10,120.71 ล้านบาท พร้อมให้สถาบันเกษตร – สหกรณ์ ซื้อข้าวนำตลาดตันละ 12,000 หลังจากราคาตลาดลดลงเหลือ 10,800 – 11,000 บาทต่อตัน เตรียมชง ครม.อนุมัติมาตรการช่วยค่าเก็บเกี่ยว 1000 บาทต่อไร่

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโดยให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวในช่วงต้นฤดูข้าวนาปี 66/67 2 มาตรการ โดยมีเป้าหมายการนำข้าวออกจากระบบ 4 ล้านตัน จากปริมาณข้าวที่ออกมาสู่ตลาด 10 ล้านตัน ได้แก่

1. สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี มีเป้าหมาย 3 ล้านตัน วงเงิน 10,120.71 ล้านบาท ช่วยค่าฝาก 1,500 บาทต่อตันโดยให้สหกรณ์รับ 1,000 บาท/ตัน และเกษตรกรรับ 500 บาท/ตัน โดยให้เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง 1-5 เดือน เริ่ม 1 ต.ค. 2566 ถึง 29 ก.พ. 2567 ในราคาข้าวหอมมะลิตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 10,500 บาท ข้าวหอมมะลิปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเจ้า ตันละ 9,000 บาท ข้าวเหนียวตันละ 10,000 บาท หากราคาข้าวขึ้น รวมถึงเกษตรกรรายย่อยที่มียุ้งฉางด้วย 
 

2. สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม มีเป้าหมาย 1 ล้านตัน วงเงิน 481.25 ล้านบาท สหกรณ์จ่ายดอกเบี้ย 1% รัฐช่วยดอกเบี้ย 3.85% ระยะเวลา 15 เดือน เริ่ม 1 ต.ค. 2566 ถึง 30 ก.ย. 2567

โดยทั้งสองมาตรการจะสามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้ทันทีหลังจากที่ ครม.อนุมัติในวันนี้

นายชัย วัชรงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านอกจากนี้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้สถาบันเกษตร และสหกรณ์ซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิระดับความชื้น 25%  ที่ราคานำตลาดที่ราคาตันละ 12,000 บาท ซึ่งถือว่าราคาสูงกว่าราคาตลาดที่ปัจจุบันมีการรับซื้อกันที่ 10,800 – 11,000 บาทต่อตัน ซึ่งการรับซื้อที่ราคานำตลาดของภาครัฐนั้นจะทำให้ราคาข้าวนั้นไม่ลดลงเร็วจนเกินไป

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการให้เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ภายใต้โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 ว่า ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ และจะเสนอเข้ามาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากทันก็จะเข้า ครม.ในสัปดาห์หน้า (14 พ.ย.ทันที )

สำหรับเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท อยู่ภายใต้โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 มีกรอบวงเงินจ่ายขาด 56,321 ล้านบาท กำหนดเกษตรกรเป้าหมาย 4.68 ล้านครัวเรือน โดยจะให้เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท กับเกษตรกรครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือคิดเป็นเงิน 20,000 บาท เบื้องต้นกำหนดช่วงเวลาการจ่ายเงิน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 – 30 กันยายน 2567

ครม.ไฟเขียวสินเชื่อดึงข้าวจากตลาด จ่อเคาะช่วยค่าเก็บเกี่ยวสัปดาห์หน้า

ในวงเงินที่จะนำมาใช้นั้น ยืนยันว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีสภาพคล่องเพียงพอสำรับรองรับการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท และที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ก็มีประสบการณ์ในการดูแลเกษตรกรผ่านโครงการนี้มาก่อน ดังนั้นจึงเชื่อว่า การดำเนินโครงการไม่น่าจะมีปัญหา

“ตอนนี้ราคาข้าวมีแนวโน้มราคาต่ำลง ซึ่งการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท มีความสำคัญต่อการเดินหน้าประกอบอาชีพของเกษตรกร และที่ผ่านมารัฐบาลได้รับฟังปัญหามาต่อเนื่อง และมีความจำเป็นต้องช่วยเหลือชาวนา”