คลังลุยแก้ 'หนี้ครัวเรือน' ภาคตะวันออก

กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ร่วมกันจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืนสัญจร ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี โดยครั้งนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นเจ้าภาพ ภายในงานมีสถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานพันธมิตรให้คำปรึกษา แก้ไขหนี้ เติมทุน เสริมสภาพคล่องให้กับประชาชนพื้นที่ภาคตะวันออกและพื้นที่ใกล้เคียง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ระบุ มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน สัญจร ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน แม้การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลงและเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาภาระหนี้ของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้หรือมีศักยภาพในการชำระหนี้ต่ำลงยังคงมีอยู่  

โดยครั้งนี้ได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรรวม 24 แห่ง จัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างครบวงจรให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง สร้างอาชีพเพิ่มรายได้ บริการทางการเงิน และเลือกซื้อบ้านมือสอง หรือทรัพย์ NPA โดยผลของการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ สัญจร 3 ครั้งที่ผ่านมา ที่กรุงเทพฯ จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงใหม่ ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการจำนวนมาก มีรายการยื่นแก้หนี้กว่า 4 แสนราย มูลหนี้กว่า 1 แสนล้านบาท

ซึ่งการจัดงานครั้งนี้กระทรวงการคลังได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย รวมทั้งสมาคมสถาบันการเงินของรัฐได้จัดสรรพื้นที่บางส่วนภายในงานเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการครูเป็นการเฉพาะอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารยูโอบี รวมทั้งหน่วยงานให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหรือการพัฒนาอาชีพ และหน่วยงานในระดับพื้นที่ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือด้านรายได้และหนี้สินให้กับประชาชนเข้าร่วมเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินภายในงานทำได้อย่างครอบคลุมและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น  
 นอกจากนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชนทำได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดระบบลงทะเบียนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออนไลน์ และขยายระยะเวลาลงทะเบียนออนไลน์จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 เพื่อขยายโอกาสให้ลูกหนี้สามารถลงทะเบียนมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มประเภทสินเชื่อที่เข้าร่วมงานมหกรรมออนไลน์ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อขอแก้ไขหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์ได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 

งานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” สัญจรในครั้งที่ 4 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 22 มกราคม 2566 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี