เศรษฐกิจฟื้น ดันตั้งธุรกิจใหม่ 11 เดือนปี 65 ยอดกว่า 7 หมื่นราย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย 11 เดือนแรกปี 65 มียอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ จำนวน 72,480 ราย เพิ่มขึ้น 4.66% ทุนจดทะเบียนกว่า 4 แสนล้านบาท ขณะที่เดือนพ.ย.จัดตั้งใหม่ จำนวน 5,773 ราย คาดทั้งปี สูงกว่า 76,000 ราย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนพ.ย.2565 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 5,773 ราย ลดลงจากเดือนต.ค. คิดเป็น 2% แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. 64 คิดเป็น 2% โดยมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ จำนวน 20,069 ล้านบาทระเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
ขณะที่การจดทะเบียนเลิกในเดือนพ.ย. 2565 มีจำนวน 2,684 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค. คิดเป็น 36% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.64 คิดเป็น 7%มูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 9,417.60 ล้านบาทโดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
นายทศพล กล่าวว่า ส่วนภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ 11 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค. - พ.ย.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ จำนวน 72,480 ราย เพิ่มขึ้น 4.66% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 408,613.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.19% และยอดเลิกกิจการ รวม 16,096 ราย เพิ่มขึ้น 18.21% มีมูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวน 104,978.64 ล้านบาท ลดลง 71.01% และการจดทะเบียนเลิกของ 11 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค. - พ.ย.) มีจำนวน 16,096 ราย
ในขณะที่จำนวนนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2565 มีจำนวนนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่จำนวน 852,395 ราย มูลค่าทุน 20.73 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,446 ราย คิดเป็น 23.63% บริษัทจำกัด จำนวน 649,570 ราย คิดเป็น 76.21% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,379 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
ภาพรวมของเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น จากการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ประกอบกับการใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในอีกทางหนึ่ง จึงส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 2565 สูงกว่า 76,000 ราย เกินไปกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 68,000–72,000 ราย
สำหรับการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนพ.ย.มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 50 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 17 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 33 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 6,029 ล้านบาท เป็นผลให้ 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย. 65) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 530 ราย เพิ่มขึ้น 6% เงินลงทุน 112,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. – พ.ย.64)
นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 12 ราย เงินลงทุน 1,262 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 307 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา จำนวน 6 ราย เงินลงทุน 16 ล้านบาท
