ท่องเที่ยวฟื้นดันดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งสูงสุดในรอบ 20 เดือน

ท่องเที่ยวฟื้นดันดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งสูงสุดในรอบ 20 เดือน

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.อยู่ที่ 47.9 ดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สูงสุดในรอบ 20 เดือน ผลจากเศรษฐกิจดี ท่องเที่ยวฟื้น โควิดคลาย มาตรการตรึงค่าครองชีพของรัฐบาล คาดเดือน ธ.ค.และม.ค.ปีหน้าปรับตัวดีขึ้นอีก

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพ.ย.65 อยู่ที่ 47.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย.64 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 42.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ อยู่ที่ 45.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 56.4

ปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจาก  สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เผย  จีดีพี ไตรมาส 3/65 ขยายตัวได้ 4.5% พร้อมทั้งคาดการณ์ จีดีพี ทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ 3.2% ขณะที่คาดว่าปี 66 จีดีพี จะขยายตัวได้ 3-4% เป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่สถานการณ์โควิดในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้นและมีการผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ให้ธุรกิจเริ่มเปิดดำเนินการได้เป็นปกติตลอดจนการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้น ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น

 

ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงอย่างมากจากช่วงครึ่งปีแรกทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นรวมถึงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ตลอดจนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

“ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนเริ่มเชื่อมั่นมากขึ้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ใกล้เคียงก่อนที่จะเกิดโควิด และเชื่อว่าเดือนธ.ค.และม.ค.ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นไปอีก จากปัจจัยสำคัญคือการท่องเที่ยวที่กลับมา ทำให้มีรายได้เข้าประเทศ ราคาพืชผลทางเกษตรดีขึ้นและมาตรการตรึงค่าครองชีพของรัฐบาล รวมถึงราคาน้ำมันไม่สูงมากนักทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น คนพร้อมที่จะท่องเที่ยว โควิดเริ่มคลาย  ทำให้เศรษฐกิจเป็นบวก  “นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนพ.ย. 2565 พบว่า ดัชนีมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 มาอยู่ที่ระดับ 43.9 โดยมีมีปัจจัยมาจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด 19 และแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน สศช. เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ขยายตัว4.5% พร้อมทั้งปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งปีอยู่ที่ 3.2%  จากเดิม 2.7-3.2%  ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลดลง ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นหรือส่งตัวในระดับที่ดีโดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลทำให้เกษตรกรเริ่มมีรายได้สูงขึ้น

ทั้งนี้เอกชนมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลโดยขอให้ควบคุมต้นทุนปัจจัยการผลิตของธุรกิจ รวมถึงเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้เอื้อต่อธุรกิจส่งออก นำเข้า  ส่งเสริมกระตุ้นการเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ เพื่อให้ภาคธุรกิจมีสภาพคล่องในการดำเนินกิจการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติของสถานการณ์น้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลากในหลายจังหวัด

รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้เข้ามาใช้จ่ายภายในประเทศ และมาตรการรับมือในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่เริ่มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง