จับตา ‘ไทยเบฟ’ ปลดล็อก 'เครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์-อาหาร' หลังถอน OISHI จากตลท.

จับตา  ‘ไทยเบฟ’ ปลดล็อก 'เครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์-อาหาร' หลังถอน OISHI จากตลท.

การประชุมผู้ถือหุ้น บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เมื่อวันที่ 3 พ.ค.66 ไฟเขียวอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) หรือถอนหุ้น OISHI ออกจากตลาดเรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่ต้องจับตาจากนี้ไป คือการ “เขย่าโครงสร้างธุรกิจ” ในกลุ่ม “เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์” หรือ Non-Alcohol และ “อาหาร” จะมีทิศทางอย่างไรต่อไป

หากหยิบยกเหตุผล การถอนหุ้น OISHI ออกจากตลาด เกิดจากบริษัทแม่ อย่าง “ไทยเบฟเวอเรจ” ของมหาเศรษฐีอย่าง “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ที่เห็นว่า 1.การซื้อขายหุ้นดังกล่าวมีไม่มากนัก จึงต้องการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ถือหุ้น 2.ลดภาระ “ค่าใช้จ่าย” ในการคงไว้ซึ่งการเป็นบริษัทจดทะเบียน ลดหน้าที่การทำงาน เช่น เปิดเผยข้อมูลต่อตลท. ขั้นตอนการทำงานต่างๆ ฯ และ 3.บริษัทมีแผนจะปรับโครงสร้างธุรกิจกลุ่มอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และความคล่องตัวรองรับแผนงานในอนาคต

ทั้งนี้ ประเด็นที่ 3 มีความน่าสนใจ และต้องติดตาม เนื่องจากปัจจุบัน กลุ่มไทยเบฟ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินงาน และประกอบธุรกิจของธุรกิจอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ภายในกลุ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจให้ชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้ มีแผน “ปรับโครงสร้างกิจการ” ที่อาจมีการซื้อ จำหน่าย หรือโอนทรัพย์สิน สิทธิต่างๆ “การควบรวมกิจการ” การโอนสิทธิตามสัญญาณทางการเงิน เปลี่ยนกลยุทธ์ รวมถึงนโยบายการบริหารงาน โอนย้ายพนักงาน การกู้ยืม-ให้กู้ยืมเงิน ระดมทุนรูปแบบต่างๆ เป็นต้น

ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจสุดพลัง

PASSION 2025 ของไทยเบฟ ไม่เพียงสร้างการเติบโตของรายได้ แต่ “กำไร” ต้องแกร่งและสร้างความยั่งยืนด้วย ซึ่งกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทวางไว้มี 3 ด้าน ไม่ว่าจะเป็น Build สรรสร้างความสามารถและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ Strengthen เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักเพื่อรั้ง “ผู้นำ” ของตลาด และ Unlock คือการนำศักยภาพของไทยเบฟที่มี มาก่อให้เกิดมูลค่าสูงสุด

ปี 2565 ไทยเบฟ เขย่าโครงสร้างธุรกิจสำคัญ วาง 3 เสาหลัก “ซีอีโอ” นำทัพธุรกิจทั้งสุรา เบียร์ และ “เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์” ให้เติบโตในภูมิภาคอาเซียนด้วย

จับตา  ‘ไทยเบฟ’ ปลดล็อก \'เครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์-อาหาร\' หลังถอน OISHI จากตลท.

ตัวอย่างแบรนด์ในพอร์ตเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์

หากเจาะลึกภารกิจการปลดล็อกศักยภาพธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มในกลุ่ม “เครื่องดื่มไม่มีแอลกออล์” จะเห็นว่า การถอนหุ้น OISHI เป็นเพียง “จิ๊กซอว์” หนึ่งเท่านั้น เพราะตามแผนงานปี 2566 บริษัทจะมีการปักหมุด “สร้างฐานทัพ” และมีการตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มเติมด้วย จากปัจจุบัน มีอยู่ในไทย มาเลเซีย ฯ นอกจากนี้ “เอส” โคล่า ยังมีการปรับแผนครั้งใหญ่รอบ 10 ปี มุ่งสู่การเป็นโคล่าของอาเซียนด้วย สะท้อนการเดินเกมใหญ่ในภูมิภาค ย้ำการเป็นยักษ์เครื่องดื่มครบวงจรในเอเชียหรือ Total Beverage นั่นเอง

เจาะพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์-อาหาร

ไทยเบฟ เป็นบิ๊กคอร์ปของไทย และสร้างรายได้ปี 2565(ปีงบประมาณ ต.ค.64-ก.ย.65) มูลค่ากว่า 2.72 แสนล้านบาท แบ่งพอร์ตทำเงินจากกลุ่มเบียร์ 45% เหล้า 43% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 6% และอาหาร 6% ส่วน “กำไรสุทธิ” มั่งคั่ง 3.45 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.5%

“โออิชิ” ทำรายได้ปีก่อนกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 1,100 ล้านบาท และเป็นเพียงพอร์ตหนึ่งของไทยเบฟ ที่มีสินค้าเครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์มากมาย หลายแบรนด์ทั้งน้ำดื่มบรรจุขวด น้ำอัดลม นมถั่วเหลือง ชาพร้อมดื่ม น้ำผลไม้ เป็นต้น ส่วน “อาหาร” นอกจากมีร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้โออิชิ ยังมีร้านอาหารประเภทอื่นอีกจำนวนมาก

เช่น ร้านไก่ทอดเบอร์ 1 ของโลก ร้านเบเกอรี ร้านอาหารจีน ร้านอาหารอาเซียน ร้านอาหารอิสาน ร้านอาหารตะวันตก ฯ จำนวนร้านในปี 2565 มีกว่า 730 สาขา จากแบรนด์ดัง เช่น KFC ชาบูชิ บายโออิชิ SO Asian เรด ล็อบสเตอร์ คาคาชิ โฮวยู โออิชิ บุฟเฟต์ หม่านฟู่หยวน ร้านเอ็มเอกซ์ เค้กแอนด์เบเกอรี่( mx cakes & bakery) รวมถึงร้านกาแฟระะดับโลก “สตาร์บัคส์” อยู่ในอาณาจักร เป็นต้น

จับตา  ‘ไทยเบฟ’ ปลดล็อก \'เครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์-อาหาร\' หลังถอน OISHI จากตลท.

'เบียร์' นำร่อง Unlock สร้างมูลค่าธุรกิจ

หนึ่งในการเขย่าโครงสร้างใหญ่ของไทยเบฟ เพื่อปลดล็อกศักยภาพ สร้างมูลค่าให้ธุรกิจมากขึ้น คือกลุ่ม “เบียร์” แสนล้านบาท คือการประกาศตั้ง “BeerCo” หรือเบียร์โค เพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์หรือ Spin-off Listing และเสนอขายหุ้น 20% ให้แก่สาธารณชน ซึ่งปี 2565 แผนดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป หลังเผชิญสภาวะตลาดที่ท้าทายต่อเนื่องยาวนาน ทำให้บริษัทต้องติดตามภาวะตลาดใหม่ ประเมิน และสำรวจโอกาสต่อไป เพื่อ “เพิ่มมูลค่าสูงสุด” ให้แก่ผู้ถือหุ้น

นอกจากแผนที่ชัดเจนของ BeerCo ยังมีกระแสข่าวการเขย่าโครงสร้างธุรกิจ “สุรา” หรือเหล้า ที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าบริษัทจะนำหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ด้วย แต่ไทยเบฟ ได้ส่งหนังสือชี้แจงและ “ปฏิเสธ” ว่าไม่มีแผนงานดังกล่าวแต่อย่างใด ทว่าในมิติการขับเคลื่อนองค์กร บริษัทมีกลยุทธ์ในการศึกษาโอกาสเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจอยู่แล้ว

ใครเป็นใคร บนสังเวียนเครื่องดื่ม

ไทยเบฟ เป็นยักษ์เครื่องดื่มครบวงจรของเอเชีย มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(Market Cap) ใหญ่ไม่แพ้ใคร ทั้งจีน ญี่ปุ่น ฟิลิปินส์ แม้กระทั่งแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น เหมาไถ, คิริน โฮลดิ้งส์, อาซาฮี กรุ๊ป และซานมิเกล เป็นต้น

จับตา  ‘ไทยเบฟ’ ปลดล็อก \'เครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์-อาหาร\' หลังถอน OISHI จากตลท. ส่วนไทย การขับเคี่ยวแข่งขันในประเทศ กับบิ๊กเครื่องดื่มทั้งน้ำเมาหรือแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เต็มไปด้วยผู้เล่นท้องถิ่น(Local) และระดับโลก(Global) ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ หรือค่ายสิงห์ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โคฯ โคคา-โคล่า เซ็ปเป้ คาราบาวกรุ๊ป กลุ่มธุรกิจทีซีพี(TCP)หรือกระทิงแดง โอสถสภา เป็นต้น ซึ่งล้วนทุนหนา และมีสารพัดแบรนด์แกร่ง ที่แข่งกันในหลายหมวดสินค้า(แคทิกอรี)

ในการวัดวาขุมกำลังและความยิ่งใหญ่ของธุรกิจ แม่ทัพไทยเบฟเคยย้ำกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงมาร์เก็ตแคปของผู้ประกอบการ ควรจะเป็นธุรกิจที่อยู่บนกระดานเดียวกัน(หมวดหมู่อุตสาหกรรม) ดังนั้น หากจะเทียบฟอร์มน้ำเมา ก็วัดที่น้ำเมา เทียบฟอร์มอาหาร ต้องชนกับอาหาร เป็นต้น

เมื่อการถอน OISHI ออกจากตลาดหุ้น เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ สานภารกิจปลดล็อกศักยภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กิจการมั่งคั่งกว่าเดิม เพราะแต่ตลาดที่ “ไทยเบฟ” มีสินค้าเสิร์ฟผู้บริโภค ล้วนขนาดใหญ่มหาศาล เช่น

จับตา  ‘ไทยเบฟ’ ปลดล็อก \'เครื่องดื่มนอนแอลกอฮอล์-อาหาร\' หลังถอน OISHI จากตลท. ส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลมรวมของบริษัท(ปี 2563) 

-เครื่องดื่มเบียร์ในไทยเกือบ 2 แสนล้านบาท

-เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์กว่า 2.5 แสนล้านบาท จากสินค้ากว่า 1,000 แบรนด์(ที่มา : สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย หรือ TBA)

-ธุรกิจร้านอาหารราว 4 แสนล้านบาท

-ธุรกิจอาหารแช่แข็งพร้อมทาน(โออิชิมีสินค้าทำตลาด) มูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท

เป็นต้น